- Home
- Isranews
- กระจายข่าว
- ซีพีร่วมทุน SAIC วางแผนไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์แบรนด์ดังระดับโลก “MG”
ซีพีร่วมทุน SAIC วางแผนไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์แบรนด์ดังระดับโลก “MG”
เครือเจริญโภคภัณฑ์ร่วมทุน “เซี่ยงไฮ้ ออโต้โมทีฟ อินดัสทรี คอร์ป” (SAIC) ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในจีน วางแผนให้ไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์แบรนด์ดังระดับโลก “MG” ป้อนตลาดไทยและตลาดโลก เชื่อมั่นไทยพร้อมเป็น “ดีทรอยซ์แห่งเอเซีย” (Detroit of Asia)
นายนพดล เจียรวนนท์ รองประธานกรรมการ กลุ่มธุรกิจยานยนต์ และอุตสาหกรรม (จีน) เครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเผยว่าเครือเจริญโภคภัณฑ์ได้ร่วมทุนกับ บริษัท เซี่ยงไฮ้ ออโต้โมทีฟ อินดัสทรี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (Shanghai Automotive Industry Corp. - SAIC)ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในจีน และใหญ่เป็นอันดับ 7 ของโลก ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายรถยนต์ภายใต้แบรนด์ MG ป้อนสู่ตลาดไทยและตลาดโลก โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการผลิตและส่งออกไปยังทุกประเทศทั่วโลก ทั้งนี้เพราะเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทยที่จะเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ของเอเชีย หรือ ดีทรอยซ์แห่งเอเชีย (Detroit of Asia)ซึ่งจะก่อให้เกิดการจ้างงาน และมีส่วนสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตเป็นผู้นำในภูมิภาคอาเซียน
ในการร่วมทุนนี้ SAIC ถือหุ้นสัดส่วน 51% เครือเจริญโภคภัณฑ์ถือหุ้นสัดส่วน 49%ในนามบริษัท ซีพี มอเตอร์ โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งตั้งขึ้นมาใหม่เพื่อทำธุรกิจยานยนต์ในไทย ซึ่งได้มีการจัดพิธีเซ็นสัญญาร่วมทุนอย่างเป็นทางการไปเมื่อไม่นานที่ผ่านมา ณ มหานครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยเครือเจริญโภคภัณฑ์มีนายธนากร เสรีบุรี รองประธานกรรมการ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ในฐานะประธานกรรมการ กลุ่มธุรกิจยานยนต์ และอุตสาหกรรม (จีน) เป็นผู้ลงนาม ส่วน SAIC มีนายเฉิน หง (Mr.Chen Hong) รองประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ เป็นผู้ลงนามในสัญญาร่วมทุน โดยในเฟสแรกของการลงทุนจะใช้เงินไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาเลือกที่ตั้งโรงงานซึ่งต้องการสร้างโรงงานที่อยู่ใกล้กับท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อสะดวกในการส่งออกไปต่างประเทศ
เครือเจริญโภคภัณฑ์เชื่อมั่นในการลงทุนครั้งนี้ เนื่องจาก SAIC เป็นบริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในจีน ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ปีละกว่า 4 ล้านคัน และยังเป็นบริษัทที่มีประสบการณ์ในการร่วมทุนกับบริษัทรถยนต์ระดับโลกอีกหลายแห่งมาเป็นเวลานาน อีกทั้งมีการสะสมบุคลากรที่เชี่ยวชาญในธุรกิจนี้เป็นจำนวนมาก จึงมีความเข้าใจในธุรกิจรถยนต์ระดับโลกเป็นอย่างดี และเมื่อเร็ว ๆ นี้ SAIC ได้ลงทุนมหาศาลเป็นเงินกว่า 20,000 ล้านบาทสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนารถยนต์ จะมีการออกแบบ ค้นคว้า วิจัย เพื่อรองรับตลาดในอนาคต โดยมีพนักงานออกแบบกว่า300คน และเมื่อSAICมีนโยบายที่จะใช้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์พวงมาลัยขวาเพียงแห่งเดียวเพื่อป้อนตลาดโลก เครือเจริญโภคภัณฑ์จึงไม่ลังเลที่จะเป็นพันธมิตรทางธุรกิจลงทุนเปิดตลาดรถยนต์ MG ในประเทศไทยและส่งออกไปทั่วโลก
ที่ผ่านมาเครือเจริญโภคภัณฑ์และ SAIC มีความร่วมมือกันมาวนานกว่า 27 ปี เคยร่วมกันผลิตจำหน่ายรถจักรยานยนต์และแอร์คอมเพรสเซอร์สำหรับรถยนต์ในจีน จึงมีความคุ้นเคยและเข้าใจกันเป็นอย่างดี อีกทั้งเครือเจริญโภคภัณฑ์มีการดำเนินธุรกิจในจีนมาเป็นเวลาถึง 33 ปี มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ ด้วยเหตุนี้เมื่อ SAIC มีนโยบายลงทุนต่างประเทศ จึงเลือกเครือเจริญโภคภัณฑ์เป็นผู้ร่วมทุน เพราะเชื่อมั่นว่าเครือเจริญโภคภัณฑ์เป็นผู้ร่วมทุนที่ดี และเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทย
ทั้งนี้เครือเจริญโภคภัณฑ์ยังมั่นใจด้วยว่ารถยนต์ MG ที่จะผลิตในไทยและส่งออกไปจำหน่ายทั่วโลก จะได้รับความนิยม เนื่องจาก MG รถยนต์มาตรฐานยุโรป ที่มีคุณภาพระดับโลก ซึ่งผู้บริโภคไทยรู้จักและยอมรับในคุณภาพมาตรฐาน โดยจะเริ่มทำการตลาดในปี พ.ศ.2557 ซึ่งรถยนต์ MG รุ่นแรกที่จะจำหน่ายในไทยนั้นจะเป็น MG 6 MG 3 และ MG 5 โดยในระยะเริ่มต้นจะนำชิ้นส่วนเข้ามาประกอบในไทย และในช่วงแรกตั้งเป้าหมายผลิต 50,000 คัน/ปี และมีแผนที่จะขยายการผลิตเป็น 200,000 คัน/ปี ในอนาคต
อนึ่ง MG เป็นรถยนต์ที่มีประวัติยาวนานเกือบ 100 ปี โดยมีต้นกำเนิดที่ประเทศอังกฤษ ทั้งนี้ SAIC เข้าไปซื้อกิจการ MG ตั้งแต่ปี พ.ศ.2550 และได้ตั้งโรงงานผลิต MG ขึ้นใหม่อีกแห่งที่ประเทศจีน โดยผลิตเป็นรถยนต์พวงมาลัยซ้ายเพื่อรองรับตลาดรถยนต์ในจีน