- Home
- Isranews
- กระจายข่าว
- บางจากฯ มีผลดำเนินงานเยี่ยมทั้ง Oil - Non-oil - ธุรกิจใหม่
บางจากฯ มีผลดำเนินงานเยี่ยมทั้ง Oil - Non-oil - ธุรกิจใหม่
นายวิเชียร อุษณาโชติ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความต้องการใช้น้ำมันในปี 2556 ตามการคาดการณ์ขององค์การพลังงานระหว่างประเทศ (International Energy Agency: IEA) ว่าอยู่ที่ระดับ 90.68 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปี 2555 ที่ระดับ 89.84 ล้านบาร์เรลต่อวัน สาเหตุหลักมาจากการขยายตัวของเศรษฐกิจในเอเซีย
สำหรับราคาน้ำมันในปลายไตรมาสแรกของปีนี้ มีแนวโน้มลดลง เนื่องจากโรงกลั่นในเอเชียหยุดซ่อมประจำปีในเดือนมีนาคม ประกอบกับความต้องการน้ำมันในกลุ่มประชาคมยุโรป (EU) ลดลงเนื่องจากเศรษฐกิจยังคงชะลอตัว ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาค่อยๆ ฟื้นตัว และเข้าสู่ปลายฤดูหนาว ทำให้ความต้องการน้ำมันลดลงตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป
คาดว่าในช่วง 9 เดือนที่เหลือ ราคาน้ำมันดิบดูไบจะอยู่ที่ระดับ 100 – 115 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศยังอยู่ในระดับสูง ยกเว้นน้ำมันดีเซลที่รัฐบาลมีนโยบายไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร
ด้านธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันบางจาก ในปี 2556 จะกลั่นเฉลี่ย 105,000 - 110,000 บาร์เรลต่อวัน โดยไม่หยุดซ่อมบำรุงประจำปี คาดว่าจะมีค่าการกลั่นเฉลี่ย 7 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลและมีแผนเพิ่มประสิทธิภาพโรงกลั่น พร้อมทั้งจัดให้มีระบบบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม 5 ดาว เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน มุ่งสู่ “High Innovation Refinery”
ส่วนธุรกิจการตลาด มีแผนจำหน่ายน้ำมัน 414 ล้านลิตรต่อเดือน เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 จากปีก่อนหน้า โดยในปีนี้จะเปิดสถานีบริการเพิ่มขึ้นอีก 50 แห่ง เพื่อขยายการให้บริการผู้ใช้รถอย่างทั่วถึง รวมทั้งพัฒนาสถานีบริการน้ำมันรูปแบบใหม่ ให้มีความทันสมัย สะดวกสบายและสวยงาม (Rebranding) รวม 120 แห่ง ใช้เงินลงทุนปีละประมาณ 1,000 ล้านบาทพร้อมทั้งขยายการจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 และมีความพร้อมที่จะขยายธุรกิจสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในเบื้องต้นวางแผนเปิดสถานีบริการน้ำมันในพม่า ลาวและกัมพูชา ประมาณ 20 แห่งภายในปี 2558
นายวิเชียร กล่าวว่า เพื่อสนับสนุนนโยบายด้านพลังงานทดแทนของกระทรวงพลังงานที่ส่งเสริมการผลิตและการใช้เอทานอลให้มากขึ้น จะขยายสถานีบริการจำหน่ายน้ำมันเบนซิน E20 ให้ครอบคลุม
ทั่วประเทศและ E85 เพิ่มเป็น 100 แห่ง และจะขยายร้านสะดวกซื้อมินิบิ๊กซีเพิ่มเป็น 70 แห่ง ร้านกาแฟอินทนิล 350 แห่ง ภายในสิ้นปีนี้ เพื่อให้บริการที่หลากหลาย ตอบสนองวิถีชีวิตคนรุ่นใหม่ และเพิ่มรายได้จากธุรกิจ Non-oil
สำหรับโครงการผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ เฟส 2 ที่อำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยาและที่อำเภอบำเหน็จณรงค์ จังหวัดชัยภูมิ กำลังการผลิตจำหน่ายรวม 32 เมกะวัตต์ จะเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้ตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป ส่งผลให้มีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) เพิ่มขึ้น 650 ล้านบาทต่อปี และเมื่อรวมกับเฟสแรก มี EBITDA รวมทั้งสิ้น 1,400 ล้านบาท
ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ บริษัทเล็งเห็นถึงความสำคัญของการบริหารความเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อผลประกอบการอันเกิดจากความผันผวนของราคาน้ำมัน อัตราแลกเปลี่ยน และอัตราดอกเบี้ย บริษัทฯ จึงกำหนดแผนจัดการความเสี่ยงไว้อย่างครอบคลุมทุกด้านโดยพิจารณาเลือกใช้เครื่องมือทางการเงินที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัท ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
อนึ่ง ผลการดำเนินงานในปี 2555 มีรายได้ 165,246 ล้านบาท กำไรสุทธิ 4,273 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 3.10 บาท คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติเห็นชอบให้เสนอขออนุมัติต่อผู้ถือหุ้นในการจ่ายเงิน
ปันผล 1.25 บาทต่อหุ้น โดยก่อนหน้านี้ จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้ว 0.35 บาทต่อหุ้น จะจ่ายเพิ่มอีก 0.90 บาทต่อหุ้น ปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น 7 มีนาคม 2556 และจ่ายเงินปันผล 24 เมษายน 2556