- Home
- Isranews
- กระจายข่าว
- มูลนิธิเอสซีจี จัดกิจกรรมวรรณกรรมวิจารณ์แลกเปลี่ยนเรียนรู้...วิจารณ์วรรณกรรมอย่างสร้างสรรค์
มูลนิธิเอสซีจี จัดกิจกรรมวรรณกรรมวิจารณ์แลกเปลี่ยนเรียนรู้...วิจารณ์วรรณกรรมอย่างสร้างสรรค์
“นักเขียนอาจไม่จำเป็นต้องเป็นนักอ่านเสมอไป แต่สำหรับนักวิจารณ์(วรรณกรรม)แล้ว ต้องอ่านเยอะๆ อ่านให้รอบด้าน ต้องได้ทัศนะคติที่หลากหลายจากงานหลายๆ ชิ้น เพื่อให้การวิจารณ์เป็นไปอย่างเป็นกลางและสร้างสรรค์มากที่สุด”
หนึ่งในคำแนะนำจาก คุณจรูญพร ปรปักษ์ประลัย (พี่อ้น) นักวิจารณ์วรรณกรรมเจ้าของรางวัลกองทุนหม่อมหลวงบุญเหลือ เทพยสุวรรณ ซึ่งเป็นรางวัลเกียรติยศสำหรับนักวิจารณ์สาขาวรรณกรรมและภาพยนตร์ในประเทศ ไทย มอบให้แก่พลพรรคคนรักอ่าน เขียน เรียน คิดที่มาเข้าร่วมโครงการวรรณกรรมวิจารณ์ปีที่ 3 จัดโดยมูลนิธิเอสซีจี ณ ศูนย์หนังสือจุฬาฯ สาขาจามจุรีสแควร์ ที่ผ่านมาเร็วๆนี้ โดยหนังสือที่เลือกมาร่วมวิจารณ์ในครั้งนี้คือ หนังสือรวมเรื่องสั้นรางวัลซีไรต์ปี 2554 “แดดเช้าร้อนเกินกว่าจะนั่งจิบกาแฟ” ของจเด็จ กำจรเดช
สำหรับความเป็นมาเป็นไปของโครงการนี้ สุรนุช ธงศิลา ผู้จัดการมูลนิธิเอสซีจี เล่าว่า “ย่างเข้าสู่ปีที่ 9 แล้วที่มูลนิธิเอสซีจีได้จับมือกับสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศไทยที่เปิด สอนด้านศิลปะ จัดประกวด รางวัลศิลปะเพื่อเยาวชนไทย หรือ Young Thai Artist Award เวทีประกวดงานศิลปะระดับเยาวชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ซึ่งรวบรวมการประกวดไว้ถึง 6 สาขาอย่างครบครัน ได้แก่ ศิลปะ 2 มิติ ศิลปะ 3 มิติ ภาพถ่าย ภาพยนตร์ วรรณกรรม และการประพันธ์ดนตรี ยุวศิลปินที่ได้รับรางวัลจากเวทีนี้ได้รับการยอมรับและเติบโตไปรับรางวัลใน เวทีอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมากทั้งในประเทศและต่างประเทศ หลายคนประสบความสำเร็จในอาชีพตามสายงานของตนเอง”
“ทั้งนี้ มูลนิธิเอสซีจี ยังแสวงหาโอกาสในการต่อยอดเพื่อพัฒนาความสามารถของยุวศิลปินจากเวทีนี้ต่อไป โดยเริ่มจากการสาขาวรรณกรรม ด้วยความสามารถน้องๆ เยาวชนที่ส่งผลงานเข้าร่วมประกวดรางวัลศิลปะเพื่อเยาวชนสาขาวรรณกรรมนั้น หากได้รับการจาระไนและฝึกฝนอย่างถูกต้อง เชื่อว่าจะสามารถก้าวขึ้นมายืนแถวหน้าของวงการวรรณกรรมไทยได้ไม่ยาก โครงการวรรณกรรมวิจารณ์ จึงเกิดขึ้นเพื่อมุ่งสร้างนักวิจารณ์วรรณกรรมสายเลือดใหม่ให้เกิดขึ้นใน สังคมไทย ด้วยการวิจารณ์อย่างมืออาชีพ บนพื้นฐานของความรู้ หลักการเหตุผล และเป็นการเรียนรู้ของสังคมไทยในเปิดใจกว้างยอมรับการวิจารณ์ เพื่อพัฒนางานเขียนให้ดียิ่งขึ้นไป นอกจากนี้ยังเชื่อว่ากิจกรรมนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับวัฒนธรรม การอ่านเพื่อการวิจารณ์เชิงสร้างสรรค์ ทั้งยังก่อให้เกิดการรวมตัวกันของนักอ่านรุ่นใหม่เป็นเครือข่าย นักอ่านและนักวิจารณ์ อันจะส่งผลให้การรณรงค์เสริมสร้างวัฒนธรรมการอ่าน อันเป็นหนึ่งในภารกิจหลักของมูลนิธิเอสซีจีให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้นอีก ด้วย”
บรรยากาศภายในงานเสวนาที่จัดขึ้นนั้น อบอุ่นเป็นกันเอง โดยพี่อ้นเริ่มต้นด้วยการสอนแนวทางการวิจารณ์วรรณกรรมแบบเข้าใจง่าย โดยยึดหลัก “25 เคล็ดลับแห่งการวิจารณ์”* ที่ถือเป็นคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการย่อมาจากตำราวิชาการยากๆ บวกกับประสบการณ์การเป็นนักวิจารณ์วรรณกรรมมือรางวัลของพี่อ้นเอง ด้วยกลวิธีการสอนที่เข้าใจง่าย ใช้ผู้ฟังเป็นศูนย์กลาง ทำให้ผู้เข้าร่วมเข้าใจได้ทั่วถึงกัน หลังจากเรียนรู้เคล็ดลับสำคัญแห่งหลักการวิจารณ์แล้ว ต่อมาในช่วงแลกเปลี่ยนทรรศนะและมุมมองต่อหนังสือ พี่อ้นได้เริ่มวิจารณ์ตั้งแต่หน้าปกหนังสือรวมเรื่องสั้น “แดดเช้าร้อนเกินกว่าจะนั่งจิบกาแฟ” การตั้งชื่อหนังสือ การตั้งชื่อเรื่องแต่ละตอน การรวบรวมเรียบเรียงเรื่องสั้นเพื่อประกอบเป็นรูปเล่ม รวมถึงการวิจารณ์เรื่องสั้นแต่ละเรื่องอย่างละเอียด พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมเสวนาได้แลกเปลี่ยนทรรศนะและข้อคิดเห็น เกี่ยวกับงานชิ้นนี้อย่างเข้มข้น เต็มไปด้วยสาระ และความสนุกสนาน ก่อให้เกิดประโยชน์ในแง่ของการวิจารณ์อย่างสร้างสรรค์โดยแท้จริง
เมื่อการล้อมวงวิจารณ์อย่างเข้มข้นดำเนินมาถึงช่วงสุดท้าย ก็ถึงคราวที่จะต้องแยกย้ายกันกลับบ้านไปพร้อมกับความรู้จากการเสวนา มูลนิธิเอสซีจีได้เปิดโอกาสพร้อมกระตุ้นให้ผู้เข้าร่วมเสวนาเขียนบทวิจารณ์ หนังสือรวมเรื่องสั้นรางวัลซีไรต์ 2554 “แดดเช้าร้อนเกินกว่าจะนั่งจิบกาแฟ” ในแง่มุมที่ตัวเองสนใจ และส่งมาที่มูลนิธิเอสซีจีที่อีเมล์ [email protected] เพื่อส่งต่อให้พี่อ้นได้ช่วยอ่านและแสดงความคิดเห็นต่อบทวิจารณ์ของน้องๆ และพี่ๆ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ยิ่งไปกว่านั้นหากบทวิจารณ์ใดได้รับการคัดสรรจากวิทยากรว่าได้มาตรฐานและมี คุณภาพ จะได้รับเลือกให้ลงตีพิมพ์ผลงานเผยแพร่ในหนังสือสกุลไทยรายสัปดาห์ คอลัมน์ “ข่าวแวดวงวรรณกรรม-นักเขียน-หนังสือ” อีกด้วย ถือว่าเป็นโอกาสอันดีและอาจจะเป็นก้าวแรกสำหรับนักอ่านที่อยากจะพัฒนาตัวเอง ไปเป็นนักวิจารณ์วรรณกรรมเลือดใหม่ในสังคมไทยจริงๆ
สำหรับผู้ที่พลาดโอกาสร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ไม่ต้องเสียใจไป เพราะมูลนิธิเอสซีจียังคงชวนพลพรรคคนรักอ่าน เขียน เรียน คิดมาร่วมล้อมวงถกประเด็นวรรณกรรม คุยกันอย่างต่อเนื่อง ทุกวันเสาร์ที่สามของเดือนตามตารางดังต่อไปนี้
* เสาร์ที่ 26 พฤษภาคม 2555 ผศ.สกุล บุณยทัต วิจารณ์หนังสือ ห้วงคำหนึ่ง ผู้แต่ง วิภว์ บูรพาเดชะ ให้เกียรติร่วมรับฟัง
* เสาร์ที่ 28 กรกฎาคม 2555 คุณชมัยภร แสงกระจ่าง วิจารณ์หนังสือ ในรูปเงา ผู้แต่ง เงาจันทร์ (นามปากกา) ให้เกียรติร่วมรับฟัง
* เสาร์ที่ 22 กันยายน 2555 ผศ. ตรีศิลป์ บุญขจร วิจารณ์หนังสือ กระดูกของความลวง ผู้แต่ง เรวัต พันธุ์พิพัฒน์ ให้เกียรติร่วมรับฟัง
* เสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2555 คุณจิตกร บุษบา วิจารณ์หนังสือ สี่แผ่นดิน โดย ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช
กิจกรรมดีๆ แบบนี้จัดขึ้นโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ดาวน์โหลดใบสมัครและอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.scgfoundation.org หรือโทร. 02 586 5506