ปริศนา!บ.ขุดเจาะน้ำมันเพชรบูรณ์ มีค่าใช้จ่ายนอกพื้นที่สัมปทาน 129 ล.
พลิกข้อมูลบริษัทขุดเจาะน้ำมันเพชรบูรณ์ปี 2545-2557 เปลี่ยน “หุ้นใหญ่”3 หน จดทะเบียนซื้อขายที่เกาะเบอร์มิวด้า เคยได้สัมปทาน 6 ปี 17 ก.ค.46-16 ก.ค.52 มีค่าใช้จ่ายนอกพื้นที่หลุมสัมปทาน 129.2 ล้าน
บริษัท อีโค่ โอเรียนท์ รีซอสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ได้สัมปทานสำรวจปิโตรเลียมแหล่งวิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ นั้นมีการจดทะเบียนเปลี่ยนผู้ถือหุ้นใหญ่อย่างน้อย 3 ครั้ง และมีค่าใช้จ่ายนอกพื้นที่หลุมสัมปทานเกือบ 130 ล้านบาท
จากการตรวจสอบข้อมูลกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าพบว่า บริษัท อีโค่ โอเรียนท์ รีซอสเซส (ประเทศไทย) จำกัด เดิมชื่อ บริษัท โนวูสเอ็กซ์พลอเรชั่นประเทศไทย จำกัด จดทะเบียนวันที่ 19 กันยายน 2539 ที่ตั้ง 46/20 หมู่ 10 อาคารเนชั่นทาวเวอร์ ชั้น ถ.บางนา-ตราด บางนา กรุงเทพฯ
วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2542 บริษัท โนวูสเอ็กซ์พลอเรชั่นประเทศไทย จำกัด จดทะเบียนเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท แปซิฟิคไทเก้อร์ รีซอสเซสประเทศไทย จำกัด มี บริษัท แปซิฟิค ไทเกอร์ เอ็นเนอร์ยี่ (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด สัญชาติเบอร์มิวด้า ซึ่งเป็นบริษัทแม่ถือหุ้นใหญ่ 16,999,994 หุ้นมูลค่าหุ้นละ 25 บาท ทุน 425 ล้านบาท
@อายุสัมปทาน 6 ปี
ข้อมูลจากงบการเงิน บริษัท แปซิฟิคไทเก้อร์ รีซอสเซสประเทศไทย จำกัด ปี 2546 ระบุว่า บริษัท ฯ ได้รับสัมปทานร่วมกับบริษัท อเมอราดา เฮส เอ็กซ์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด เคอร์-แมคคีย์ (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด ในการสำรวจขุดเจาะและผลิตปิโตรเลี่ยมภาคพื้นดินจากกระทรวงอุตสาหกรรมในพื้นที่สัมปทานเลขที่ 6/2539/53 บริษัทฯมีส่วนได้เสียร้อยละ 27% ของผลผลิตที่ได้รับจากสัมปทานร่วม โดยมี บริษัท อเมอราดา เฮส เอ็กซ์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ดำเนินกิจการปิโตรเลียม และอายุสัมปทานได้สิ้นสุดลงในปี 2543
ต่อมาวันที่ 17 ก.ค.2546 บริษัท แปซิฟิคไทเก้อร์ รีซอสเซสประเทศไทย จำกัด ได้รับสัมปทาน จากกระทรวงพลังงานเพื่อทำการสำรวจปิโตรเลียมในพื้นที่สัมปทานเลขที่ 3/2546/60 และเลขที่ 5/2546/62
ณ วันที่ 31ธ.ค.46 อยู่ในระหว่างดำเนินการ
งบการเงินปี 2549 บริษัทฯ ได้รับสัมปทานจากกระทรวงพลังงานเพียงผู้เดียวเพื่อทำการสำรวจปิโตรเลียมในพื้นที่สัมปทานเลขที่ 3/2546/60 และเลขที่ 5/2546/62 โดยมีระยะเวลา สำรวจ ปิโตรเลียม 6 ปี นับตั้งแต่วันที่ 17 ก.ค.46-16 ก.ค.52
วันที่ 21 ก.พ.2549 บริษัท แพน โอเรียนท์ เอ็นเนอร์นี่ คอร์ปอเรชั่น แห่งประเทศแคนาคาได้เข้าซื้อกิจการของ บริษัท แปซิฟิค ไทเกอร์ ฯ จากบริษัทแม่ในต่างประเทศ ต่อมาได้จดทะเบียนเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท แพนโอเรียนท์ (รีซอสเซส) ประเทศไทย จำกัด เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2549
งบการเงินปี 2550 ระบุว่า นับจากได้สัมปทาน บริษัทฯ ได้ทำการขุดเจาะเพื่อสำรวจและพัฒนาหลุมสัมปทานและหลุมผลิตเรื่อยมาจนกระทั่งเริ่มที่รายได้จากการจำหน่ายปิโตรเลียมเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2550
งบการเงินสิ้นสุดปี 2551 ระบุว่า บริษัท แพน โอเรียนท์ฯ ถือผลประโยชน 100% ตามสัมปทานปิโตรเลียมหลุม L33/43 และ L 44/43 ในแหล่งวิเชียรบุรีทางภาคเหนือของประเทศไทย การผลิตน้ำมันดิบเริ่มเมื่อเดือนสิงหาคม 2550
งบการเงินปี 2556 ระบุว่า 2 ม.ค.56 บริษัท แพน โอเรียนท์ฯ จดทะเบียนเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท อีโค่ โอเรียนท์ รีซอสเซส (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทฯถือผลประโยชน 100% ตามสัมปทานปิโตรเลียมหลุม L33/43 และ L 44/43 ในแหล่งวิเชียรบุรีทางภาคเหนือของประเทศไทย การผลิตน้ำมันดิบเพิ่มเมื่อเดือนสิงหาคม 2550
@เปลี่ยนหุ้นใหญ่ 3 หน
ในส่วนบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น จากการตรวจสอบพบว่า ระหว่างปี 45-56 เปลี่ยนผู้ถือใหญ่อย่างน้อย 3 ครั้ง
ณ วันที่ 30 เม.ย.45 แปซิฟิค ไทเกอร์ เอ็นเนอร์ยี่ (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด สัญชาติเบอร์มิวด้า ถือหุ้นใหญ่ 16,999,994 หุ้น
วันที่ 30 เม.ย.50 แพน โอเรียนท์ เอ็นเนอนี่ (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด สัญชาติเบอร์มิวด้า ถือหุ้นใหญ่ 16,999,994 หุ้น
15 มิ.ย.55 อีโค่ เอ็นเนอร์จี (อินเตอร์เนชั่นแนล) อินเวสเมนท์ ลิมิเต็ด จากบริติชเวอร์จิน เริ่มเข้ามาถือหุ้น จำนวน 5 หุ้น และ อีโค่ เอ็นไวรอนเมนทอล อินเวสท์เมนท์ (โฮลดิ้งส์) ลิมิเต็ด จำนวน 1 หุ้น แพน โอเรียนท์ เอ็นเนอยี่ (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด ถือหุ้นใหญ่ 16,999,994 หุ้น
30 เม.ย.56 อีโค่ โอเรียนท์ เอ็นเนอยี่ (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด ถือหุ้นใหญ่ 16,999,994 หุ้น (ดูตารางประกอบ)
@ค่าใช้จ่ายนอกพื้นที่รับสัมปทาน 129 ล้าน
อย่างไรก็ตาม น่าสังเกตว่า งบการเงินปี 2549 นั้นบริษัทฯ ได้รับสัมปทานจากกระทรวงพลังงานเพื่อทำการสำรวจปิโตรเลียมในพื้นที่สัมปทานเลขที่ 3/2546/60 และเลขที่ 5/2546/62 โดยมีระยะเวลาสำรวจ ปิโตรเลียม 6 ปี นับตั้งแต่วันที่ 17 ก.ค.46-16 ก.ค.52 และงบฯปี 2550ก็ยังระบุว่ามีระยะเวลาสำรวจ ปิโตรเลียม 6 ปี นับตั้งแต่วันที่ 17 ก.ค.46-16 ก.ค.52
เท่ากับการสิ้นสุดสัมปทานไปแล้ว?
ประเด็นปริศนาก็คือ งบการเงินสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.2554 ระบุว่า ปี 2554 บริษัทฯ มีค่าใช้จ่าย “ขาดทุนจากขุดเจาะนอกเหนือหลุมที่ได้รับสัมปทาน จำนวน 129,252,951 บาท”
พื้นที่ “นอกเหนือหลุมสัมปทาน”ดังกล่าว เป็นพื้นที่เดียวกับที่กำลังตกเป็นข่าวกรณีมีปัญหาในพื้นที่ในขณะนี้หรือไม่?
รายชื่อผู้ถือหุ้น บริษัท อีโค่ โอเรียนท์ รีซอสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งแต่ปี 2545-2557
|
30 เม.ย.45 |
2 มิ.ย.49 |
30 เม.ย.50 |
|
1.แปซิฟิค ไทเกอร์ เอ็นเนอร์ยี่ (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด 16,999,994 หุ้น สัญชาติเบอร์มิวด้า |
1.แปซิฟิค ไทเกอร์ เอ็นเนอร์ยี่ (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด 16,999,994 หุ้น สัญชาติเบอร์มิวด้า |
1.แปซิฟิค ไทเกอร์ เอ็นเนอร์ยี่ (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด 16,999,994 หุ้น สัญชาติเบอร์มิวด้า |
|
2.น.ส.สุธัญญา ทยานยง 1 หุ้น สัญชาติไทย |
2.น.ส.สุธัญญา ทยานยง 1 หุ้น สัญชาติไทย |
2.น.ส.สุธัญญา ทยานยง 1 หุ้น สัญชาติไทย |
|
3.นายโรเบิร์ต อาร์เธอร์ ฮัลพิน 1 หุ้น สัญชาติแคนาเดียน |
3.นายโรเบิร์ต อาร์เธอร์ ฮัลพิน 1 หุ้น สัญชาติแคนาเดียน |
3.นายโรเบิร์ต อาร์เธอร์ ฮัลพิน 1 หุ้น สัญชาติแคนาเดียน |
|
4.นายไมเคิล ชเวทาโนวิค 1 หุ้น สัญชาติแคนาเดียน |
4.นายเอียน เกล็นน์ ฮอลส์เทค1 หุ้น สัญชาติบริติช |
4.นายไมเคิล ชเวทาโนวิค 1 หุ้น สัญชาติแคนาเดียน |
|
5.นายเมอเร่ย์ ฮอคส์ 1 หุ้น สัญชาตินิวซีแลนด์ |
5.นายเมอเร่ย์ ฮอคส์ 1 หุ้น สัญชาตินิวซีแลนด์ |
5.นายเมอเร่ย์ ฮอคส์ 1 หุ้น สัญชาตินิวซีแลนด์ |
|
6.นายฟิลลิป เดวิด เบรทช์ลอฟฟ์ 1 หุ้น สัญชาติแคนาเดียน |
6.นายฟิลลิป เดวิด เบรทช์ลอฟฟ์ 1 หุ้น สัญชาติแคนาเดียน |
6.นายฟิลลิป เดวิด เบรทช์ลอฟฟ์ 1 หุ้น สัญชาติแคนาเดียน |
|
7.นายซีเอส ทีอาร์แมนดิ 1 หุ้น สัญชาติแคนาเดียน |
7.นายซีเอส ทีอาร์แมนดิ 1 หุ้น สัญชาติแคนาเดียน |
7.นายซีเอส ทีอาร์แมนดิ 1 หุ้น สัญชาติแคนาเดียน |
|
รวม 17 ล้านหุ้นๆละ 25 บาท |
รวม 17 ล้านหุ้นๆละ 25 บาท |
รวม 17 ล้านหุ้นๆละ 25 บาท |
|
นายฟิลลิป เดวิด เบรทช์ลอฟฟ์ กรรมการ |
4.นายเอียน เกล็นน์ ฮอลส์เทค กรรมการ |
นายเอียน จี ฮอลสเตด กรรมการ |
|
30 เม.ย.50 |
4 มี.ค.53 |
30 เม.ย.53 |
|
1.แพน โอเรียนท์ เอ็นเนอนี่ (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด 16,999,994 หุ้น สัญชาติเบอร์มิวด้า |
1.แพน โอเรียนท์ เอ็นเนอนี่ (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด 16,999,994 หุ้น สัญชาติเบอร์มิวด้า |
1.แพน โอเรียนท์ เอ็นเนอนี่ (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด 16,999,994 หุ้น สัญชาติเบอร์มิวด้า |
|
2.น.ส.สุธัญญา ทยานยง 1 หุ้น สัญชาติไทย |
2.นายเจ๊ฟฟรี่ โฮวาร์ด ซิสฮอล์ม สัญชาติแคนาเดียน 5 หุ้น |
2.นายเจ๊ฟฟรี่ โฮวาร์ด ซิสฮอล์ม สัญชาติแคนาเดียน 5 หุ้น |
|
3.นายโรเบิร์ต อาร์เธอร์ ฮัลพิน 1 หุ้น สัญชาติแคนาเดียน |
3.นายเอ็ดวาร์ด สตีเฟน บุช สัญชาติอเมริกัน 1 หุ้น |
3.นายเอ็ดวาร์ด สตีเฟน บุช สัญชาติอเมริกัน 1 หุ้น |
|
4.นายไมเคิล ชเวทาโนวิค 1 หุ้น สัญชาติแคนาเดียน |
||
|
5.นายเมอเร่ย์ ฮอคส์ 1 หุ้น สัญชาตินิวซีแลนด์ |
||
|
6.นายฟิลลิป เดวิด เบรทช์ลอฟฟ์ 1 หุ้น สัญชาติแคนาเดียน |
||
|
7.นายซีเอส ทีอาร์แมนดิ 1 หุ้น สัญชาติแคนาเดียน |
||
|
รวม 17 ล้านหุ้นๆละ 25 บาท |
รวม 17 ล้านหุ้นๆละ 25 บาท |
รวม 17 ล้านหุ้นๆละ 25 บาท |
|
นายเอียน จี ฮอลสเตด กรรมการ |
นายวิลเลียม ดั๊กลาส ออสท์ลูนด์ กรรมการ |
นายเอ็ดวาร์ด สตีเฟน บุช กรรมการ |
|
15 มิ.ย.55 |
30 เม.ย.56- 30 ม.ย.57 |
|
1.แพน โอเรียนท์ เอ็นเนอยี่ (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด 16,999,994 หุ้น สัญชาติเบอร์มิวด้า |
1.อีโค่ โอเรียนท์ เอ็นเนอยี่ (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด 16,999,994 หุ้น สัญชาติเบอร์มิวด้า |
|
2.อีโค่ เอ็นเนอร์จี (อินเตอร์เนชั่นแนล) อินเวสเมนท์ ลิมิเต็ด 5 หุ้น สัญชาติ บริติชเวอร์จิน ไอส์แลนด์ |
2.อีโค่ เอ็นเนอร์จี (อินเตอร์เนชั่นแนล) อินเวสเมนท์ ลิมิเต็ด 5 หุ้น สัญชาติ บริติชเวอร์จิน ไอส์แลนด์ |
|
3.อีโค่ เอ็นไวรอนเมนทอล อินเวสท์เมนท์ (โฮลดิ้งส์) ลิมิเต็ด 1 หุ้น สัญชาติ บริติชเวอร์จิน ไอส์แลนด์ |
3.อีโค่ เอ็นไวรอนเมนทอล อินเวสท์เมนท์ (โฮลดิ้งส์) ลิมิเต็ด 1 หุ้น สัญชาติ บริติชเวอร์จิน ไอส์แลนด์ |
|
รวม 17 ล้านหุ้นๆละ 25 บาท |
รวม 17 ล้านหุ้นๆละ 25 บาท |
|
นายเจ๊ฟฟรี่ โฮวาร์ด ซิสฮอล์ม เป็นกรรมการ |
นายพูน กา ลก เป็นกรรมการ |
ที่มา:กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ,ศูนย์ข่าวสืบสวน สำนักข่าวอิศรา รวบรวม