- Home
- Isranews
- รายงาน-สกู๊ป
- ออกหมายจับทีมสังหาร “ ทัศน์กมล โอบอ้อม” ปมแฉ “กะเหรี่ยงแก่งกระจาน”ถูกผลักดันอย่างไร้มนุษยธรรม
ออกหมายจับทีมสังหาร “ ทัศน์กมล โอบอ้อม” ปมแฉ “กะเหรี่ยงแก่งกระจาน”ถูกผลักดันอย่างไร้มนุษยธรรม
นายทัศน์กมล โอบอ้อม แกนนำกะเหรี่ยงแก่งกระจานเรียกร้องความเป็นธรรม
ตำรวจติดตามไล่ล่ามือปืนกับผู้ร่วมขบวนการ สังหารโหด นายทัศน์กมล โอบอ้อม หรือ “อาจารย์ป๊อด” อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย จังหวัดเพชรบุรี แกนนำต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมให้ชาวกะเหรี่ยงป่าแก่งกระจาน คาดใกล้ได้ตัวในไม่ช้า หลังรวบตัวได้แล้ว 1 คน สารภาพทำหน้าที่ชี้เป้า ส่วนมือปืนกับผู้เกี่ยวข้องศาลออกหมายจับแล้ว 2 คน ชนวนเหตุการสังหารโหด เชื่อว่ามาจากความขัดแย้งการเมืองท้องถิ่น และ “อาจารย์ป๊อด” ออกโรงแฉอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ผลักดันชาวกะเหรี่ยงดั้งเดิมออกจากป่าแก่งกระจานอย่างไร้มนุษยธรรม ถึงขั้นเผาบ้าน เผายุ้งข้าว ทำลายทรัพย์สิน บังคับให้ออกจากป่า ทั้งยังจะทำหนังสือยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานความช่วยเหลือให้ชาวกะเหรี่ยงจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ย้อนเหตุการณ์ก่อนถูกยิงเสียชีวิต
ช่วงหัวค่ำ วันที่ 10 กันยายน 2554 นายทัศน์กมล โอบอ้อม อายุ 55 ปี ขับรถแวนยี่ห้อจี๊ป รุ่นเชอโรกี สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ภย 4754 กรุงเทพมหานคร ไปตามถนนเพชรเกษม ขาเข้า มุ่งหน้าจังหวัดเพชรบุรี ถึงท้องที่หมู่ 6 ต.ถ้ำรงค์ อ.บ้านลาด คนร้ายไม่ทราบจำนวน ขับรถยนต์ไม่ทราบประเภท รุ่น สีและหมายเลขทะเบียนประกบทางด้านขวา มือปืนระเบิดกระสุนใส่หลายนัดก่อนจะหลบหนีไป ส่วนรถแวนเชอโรกีเสียหลักปะทะกับต้นไม้ข้างทาง เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึง นายทัศน์กมล เสียชีวิตแล้ว ด้วยกระสุนปืนขนาด 11 มม. ที่พุ่งเจาะเข้าจุดสำคัญหลายแห่ง
นายทัศน์กมล อดีตเป็นครูโรงเรียนท่ายางวิทยา เคยดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลหนองจอก อำเภอท่ายาง ลงสมัคร ส.ส.2 ครั้งแต่ไม่ประสบความสำเร็จ ก่อนหน้านี้นานนับสิบปี นายทัศน์กมล เคยเป็นอดีตอาสาสมัครช่วยเหลือชุมชนกะเหรี่ยงในป่าแก่งกระจาน จึงเป็นที่รู้จักกันดีของชาวกะเหรี่ยง บทบาทสำคัญที่เกี่ยวข้องกับชาวกะเหรี่ยงคือ เป็นผู้ประสานงานให้ชาวกะเหรี่ยงในป่าช่วยติดตามค้นหา ตชด.ที่หายสาปสูญไประหว่างปฏิบัติหน้าที่ชายแดนไทย-พม่า เมื่อปี 2535 และช่วย ตชด.ออกจากป่าได้สำเร็จ 4 คน
ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งประเด็นชนวนเหตุไว้หลายประเด็น ทั้งเรื่องความขัดแย้งทางการเมืองที่นายทัศน์กมลสมัคร ส.ส. ประเด็นความขัดแย้งส่วนตัว โดยให้น้ำหนักประเด็นที่ นายทัศน์กมล เป็นผู้ประสานงาน ออกโรงเคลื่อนไหวช่วยเหลือชาวกะเหรี่ยงที่ถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อพยพ ผลักดันออกจากป่า มีการร้องเรียนว่าเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติการอย่างรุนแรงกับชาวกะเหรี่ยงดั้งเดิม ที่อ้างว่าเป็นชนกลุ่มน้อยจากประเทศเพื่อนบ้าน มีการเผาบ้าน เผายุ้งข้าว ทำลายทรัพย์สิน อย่างไร้มนุษยธรรม ไปยังสภาทนายความและกรรมธิการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ก่อนถูกยิงเสียชีวิตไม่นาน
นายทัศน์กมลได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลายครั้งว่า จะประสานงานช่วยชาวกะเหรี่ยงกลุ่มนี้โดยเรื่องยื่นฎีกาถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอพระราชทานความช่วยเหลือ ขั้นตอนอยู่ระหว่างการทำหนังสือให้ชาวกะเหรี่ยงผู้ได้รับผลกระทบจากการถูกผลักดันลงลายมือชื่อ
“ ชาวกะเหรี่ยงผู้ผลักดันก็ไม่ได้เดินทางออกจากพื้นที่ประเทศไทย หากบางส่วนคือ 7 ครอบครัว จำนวน 39 คน ออกจากป่าแก่งกระจานมาอยู่กับญาติพี่น้องที่บ้านโป่งลึก บางกลอย ตำบลห้วยแม่เพรียง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี นั่นเอง และส่วนหนึ่งก็ยัง บอกได้เลยว่า ชาวกะเหรี่ยงเหล่านี้เป็นคนไทย ไม่ได้เป็นชนกลุ่มน้อยจากพม่า ผมรู้ดี อยู่กับกะเหรี่ยงพวกนี้มานานจนรู้จักกันหมด” นายทัศน์กมล กล่าวกับผู้สื่อข่าวก่อนเสียชีวิต
อ.ป๊อดแฉต่อในงานเสวนา
วันที่ 8 กันยายน หรือเพียง 2 วัน ก่อนถูกยิงเสียชีวิต นายทัศน์กมลเป็นผู้พาผู้นำชุมชนกับชาวกะเหรี่ยงหลายคน คือ นายนิรันดร์ พงษ์เทพ ประธานสภา อบต. ห้วยแม่เพรียง นายลอย จีโบ้ง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 บ้านดป่งลึก นายกระทง โชควิบูลย์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 บ้านบางกลอย ตำบลห้วยแม่เพรียง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ไปร่วมงานเสวนา "กะเหรี่ยงแก่งกระจาน สิทธิมนุษยชนและการจัดการป่าไม้" ที่ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
วันนั้น นายทัศน์กมลได้พูดให้ข้อมูลกับวิทยากรและสื่อมวลชนอย่างไม่ปิดบัง โดยระบุว่าชาวกะเหรี่ยงที่ถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานผลักดันออกมาเป็น “กะเหรี่ยงดั้งเดิม”เป็นคนไทย ไม่ใช่ชนกลุ่มน้อยจากประเทศพม่า ตามที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานอ้างเป็นเหตุผลเพื่อผลักดันแต่อย่างใด
“ เคยไปกินข้าวบ้านชาวกะเหรี่ยงแต่ต่อมาก็เผาบ้าน อย่างล่าสุดคือปู่คออี้ ก็ถูกเผา ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากเจ้าหน้าที่ขาดข้อมูล ขาดการศึกษาเชิงวัฒนธรรม ซึ่งให้ความสำคัญกับเรื่องข้าวมาก การเผา การทำลายข้าวจึงเป็นเรื่องใหญ่สำหรับชาวกะเหรี่ยง” นายทัศน์กมล กล่าวในตอนท้ายการเสวนา
วันนั้น นายนิรันดร์ พงษ์เทพ ประธานสภา อบต.ห้วยแม่เพรียง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี กล่าวว่า โครงการอพยพ ผลักดันชนกลุ่มน้อยออกจากป่าแก่งกระจาน ไม่เคยมีเจ้าหน้าที่มาพูดคุยหรือหารือผู้นำชุมชนและชาวบ้านว่า เมื่อมีการอพยพชาวกะเหรี่ยงออกมาแล้วจะช่วยเหลือเขาอย่างไร มีที่ทำกินหรือไม่ และจะดำเนินชีวิตกันอย่างไร ถึงวันนี้ก็ยังไม่มีความช่วยเหลือแก่คนที่ถูกผลักดันออกจากป่า
“เจ้าหน้าที่เอาแต่ความคิดตนเองเป็นใหญ่ ไม่ถามชาวบ้าน อพยพลงมาแล้วก็ทำอะไรต่อไม่ได้ ปล่อยกันไว้อย่างนั้น ชาวบ้าน(กะเหรี่ยงดั้งเดิม)ก็มีวิธีการจัดการ ไม่ได้เกี่ยวกับความรู้ การศึกษา คิดแต่ว่ามีกฎหมายอยู่ในมือจะทำอะไรก็ได้” นายนิรันดร์ พงษ์เทพ กล่าวระหว่างการเสวนา
นอกจากนั้น นายลอย จีบ้ง นายกระทง โชควิบูลย์ ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ยังได้ให้ข้อมูลในที่เสวนาว่า ชาวกะเหรี่ยงที่ถูกแพบพลงมาจากป่าแก่งกระจาน เป็นกะเหรี่ยงดั้งเดิมในป่าแก่งกระจาน แต่ยังไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน โดยผู้ที่เคยทำบัตรประจำตัวประชาชนไปแล้วก็มี อย่างผู้ใหญ่บ้านทั้ง 2 คน เคยเป็นกะเหรี่ยงในป่าแก่งกระจาน ภายหลังได้ลงมาทำบัตรประจำตัวประชาชน จึงได้เป็นคนไทยตามกฎหมายโดยสมบูรณ์ ส่วนคนที่ยังไม่ได้ทำบัตรก็เพราะอยู่ในป่า ไม่ได้เดินทางออกมา แต่ก็ผ่านการสำรวจรายชื่อในทะเบียนของทางการไปแล้ว
ตำรวจหลายหน่วยประสานงานคลี่คลายคดี
หลังจาก นายทัศน์กมล โอบอ้อม ถูกยิงเสียชีวิต พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบหมายพล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ควบคุมคดีนี้ และสั่งการให้นายตำรวจมือปราบนักสืบชั้นแนวหน้า ผู้มีชื่อเสียงในวงการสีกากีคือ พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และนายตำรวจมือดีอีกหลายนาย นำทีมชุดทำงานประสานงานกับ พล.ต.ท.พงษ์สันต์ เจียม อ่อน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงษ์, พล.ต.ต.เรวัช กลิ่นเกษร รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 และ พล.ต.ต. วิรัช วัชรขจร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี คลี่คลายคดีและเร่งรัดให้จับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี เนื่องจากเป็นเหตุอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญประชาชน
ในที่สุดก็พบว่า ชนวนเหตุสังหาร นายทัศน์กมล โอบอ้อม มีประเด็นนายทัศน์กมล มีปัญหาขัดแย้งนักการเมืองท้องถิ่นอยู่เดิม และประเด็นการออกมาเคลื่อนไหวช่วยเหลือกะเหรี่ยงแก่งกระจานเชื่อมโยงกัน จากการสืบสวนจนเป็นที่แน่ชัด ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยึดรถปิกอัพ 4 ประตูมิตซูบิชิ รุ่นสตราด้า สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน กค 8456 เพชรบุรี พาหนะต้องสงสัยว่าเป็นของคนร้ายที่ใช้ในวันก่อเหตุมาตรวจสอบ โดยเชิญตัวผู้ที่มีหลักฐานว่ารู้เห็นการฆาตกรรม “อาจารย์ป๊อด” คือ"นายชาญ" มาสอบปากคำ เพราะพบว่าหลักฐานบางอย่างเชื่อมโยงไปถึงการสังหารนายทัศน์กมล ผลการสอบสวนนายชาญให้การเป็นประโยชน์ ยอมรับว่าเป็นหนึ่งในทีมสังหาร โดยรับงานจาก "ส.ท.ต่อ" มาทำหน้าที่ชี้เป้าคนตายให้กับกลุ่มมือปืน และให้ข้อมูลผู้เกี่ยวข้องกับการสังหารนายทัศน์กมลหลายคน
หลังการสอบปากคำแล้ว วันที่ 4 กันยายน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เสนอขอศาลจังหวัดเพชรบุรีออกหมายจับผู้ต้องสงสัยเป็นคนร้าย 3 คน ศาลอนุมัติ 2 คน คือนายศักดิ์ พลับงาม อายุ 43 ปี ทำหน้าที่เป็นมือปืน และนาย ธวัชชัย ทองสุข หรือ "ส.ท.ต่อ" ส.ท.เทศบาลหนองจอก อายุ 37 ปี ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมกับรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อขออนุมัติหมายจับ คนขับรถมือปืน ( ยังไม่เปิดเผยชื่อและนามสกุลจริง) ต่อไป
" คนแรกที่นำตัวมาอยู่ในฐานะพยาน อีก 2 คนมีหลักฐานมัดแน่น ศาลจึงออกหมาย "แหล่งข่าวกล่าว
ขอความคุ้มครองพยาน
นายสุรพงษ์ กองจันทึก ประธานอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติ ผู้ไร้สัญชาติ แรงงานข้ามชาติ และผู้พลัดถิ่น สภาทนายความ ผู้รับเรื่องร้องเรียนของชาวกะเหรี่ยงแก่งกระจาน เปิดเผยว่า คดีนี้มีพยานหลายคนซึ่งเกี่ยวข้องกับการให้ข้อมูลกรณีการร้องเรียนและถูกข่มขู่ จึงได้ทำหนังสือลงวันที่ 5 ตุลาคม 2554 เรื่องดำเนินการสืบสวนและให้ความคุ้มครองพยานถึง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี และสำเนาถึง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี
เนื้อหาในหนังสือฉบับนี้มีว่า “ ด้วยคณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติ ผู้ไร้สัญชาติ แรงงานข้ามชาติ และผู้พลัดถิ่น สภาทนายความ ได้รับเรื่องร้องเรียนขอความช่วยเหลือเพื่อหาทางแก้ปัญหาการถูกละเมิดสิทธิ์ของชาวไทยกะเหรี่ยง กรณีเจ้าหน้าที่ทหารและอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานทำการผลักดัน เผาทำลายที่พัก ยุ้งข้าว ยึดเอาเครื่องมือในการประกอบอาชีพ
คณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติ ฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมีผู้ที่เกี่ยวข้องให้ข้อมูลและเป็นพยานจำนวนมาก ต่อมาพบว่าพยานและผู้ให้ข้อมูลได้รับการข่มขู่จนอาจไม่ปลอดภัย และ นายทัศน์กมล โอบอ้อม ซึ่งเป็นหนึ่งในพยานผู้ให้ข้อมูล ถูกยิงเสียชีวิต เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2554 รวมทั้ง เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2554 เวลาประมาณ 20.30 นาฬิกา มีบุคคลอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่อุทยานแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ขับขี่รถจักรยานยนต์มาที่หน้าบ้านของนายกระทง โชควิบูลย์ ผู้ใหญ่บ้านบางกลอย ตำบลห้วยแม่เพรียง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี และตะโกนด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย ข่มขู่จะเอาชีวิตหากไม่หยุดให้ข้อมูลเกี่ยวกับกรณีหัวหน้าอุทยานแก่งกระจาน เผาบ้านคนไทยเชื้อสายกะเหรี่ยง บังคับให้คนไทยเชื้อสายกระเหรี่ยงอพยพมาอาศัยอยู่ที่บ้านบางกลอยล่าง
คณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติ ฯ ใคร่ขอความกรุณาจากท่านในการสืบสวนหาผู้กระทำความผิด และคุ้มครองพยานผู้ให้ข้อมูลแก่คณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติ ฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
1. นายนิรันดร์ พงษ์เทพ ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยแม่เพรียง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี
2. นายลอย จีบ้ง ผู้ใหญ่บ้าน บ้านโป่งลึก ตำบลห้วยแม่เพรียง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี
3 . นายกระทง โชควิบูลย์ ผู้ใหญ่บ้าน บ้านบางกลอย ตำบลห้วยแม่เพรียง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี
จึงเรียนมาเพื่อพิจารณาดำเนินการ ผลเป็นประการใดขอความกรุณาแจ้งให้ทราบด้วย และขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้
ลงชื่อ
นายสุรพงษ์ กองจันทึก
ประธานอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติ ผู้ไร้สัญชาติ
แรงงานข้ามชาติและผู้พลัดถิ่น สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์”
ไล่ล่าคนร้าย-สาวผู้อยู่เบื้องหลัง
คดีสังหารโหด นายทัศน์กมล โอบอ้อม แกนนำต่อสู้เพื่อชาวกะเหรี่ยงแก่งกระจาน เป็นรูปเป็นร่างแล้วว่าสาเหตุมาจากนายทัศน์กมล ออกมาเปิดโปงเรื่องการอพยพ ผลักดัน จับกุมชาวกะเหรี่ยงในป่าแก่งกระจานว่าเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม ถึงขั้นเผาบ้าน เผายุ้งข้าว ทำลายทรัพย์สิน เป็นการผลักดัน “คนไทย”ออกจากถิ่นที่อยู่ แต่ก็ยังไม่กระจ่างชัดร้อยเปอร์เซ็นต์ จนกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตัวมือปืน คนขับรถพาหนะวันก่อเหตุ ผู้ร่วมขบวนการ มาดำเนินคดี จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังต้องสืบสวน สอบสวน หาพยาน หลักฐาน จึงจะรู้ว่าใครเป็น “ผู้บงการ”สังหารนายทัศน์กมล หรือเป็นเรื่องที่ "ทำกันเอง"โดยไม่มีคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง