พฤติการณ์‘ลิตร พอใจ’จากคนขับรถ ‘เสี่ยเปี๋ยง’ถึงผู้รับมอบอำนาจ-มือจ่ายเช็คคดีจีทูจีเก๊

เขียนวันที่

วันจันทร์ ที่ 25 กันยายน 2560 เวลา 11:15 น.

เขียนโดย

isranews

หมวดหมู่

รายงาน-สกู๊ป | การทำผิดของเอกชน | เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศรา

Tags

“…คดีนี้บริษัท ไห่หนานฯ มีหนังสือแจ้งอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศว่า ได้แต่งตั้งนายลิตร เป็นตัวแทนผู้รับมอบอำนาจชำระเงินและรับมอบข้าวตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย. 2555 ก่อนที่บริษัท ไห่หนานฯ จะลงนามในสัญญากับกรมการค้าต่างประเทศ ในวันที่ 6 ก.ย. 2555 แสดงให้เห็นว่า นายลิตร ร่วมอยู่ในขบวนการนำบริษัท ไห่หนานฯ มาทำสัญญาซื้อขายข้าวกับกรมการค้าต่างประเทศตั้งแต่ต้น…”

PIC siamin 25 9 60 7

ในขบวนการนำข้าวมาเวียนขายในประเทศ ของคดีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) โดยทุจริต ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุกจำเลยที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 15 ราย หลบหนี 3 ราย ยกฟ้อง 8 ราย และให้นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง (จำเลยที่ 14) นายนิมล รักดี หรือโจ (จำเลยที่ 15) และบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด (จำเลย 10) ร่วมชดใช้ค่าเสียหาย 1.69 หมื่นล้านบาท (อ่านประกอบ : INFO:จำแนกครบ17จำเลย-โทษเรียงคนคดีทุจริตข้าวจีทูจีเจ๊งหมื่นล.ยกฟ้อง 8-ออกหมายจับ3)

3 จำเลยที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในการเป็นผู้รับมอบอำนาจจากรัฐวิสาหกิจจีนคือ บริษัท กวางตุ้งฯ และบริษัท ไห่หนานฯ ตามที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำเสนอไปแล้วคือ นายสมคิด เอื้อนสุภา (จำเลยที่ 7) และนายรัฐนิธ โสจิระกุล หรือปาล์ม (จำเลยที่ 8) ที่นอกเหนือจากเป็นผู้รับมอบอำนาจแล้ว ยังเป็นคนคอยประสานงานกับบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด และเบิกจ่ายแคชเชียร์เช็คด้วย (อ่านประกอบ : ส่งเอกสารครั้งละ2พันบ.!พฤติการณ์ ‘ปาล์ม’ผู้รับมอบอำนาจรัฐวิสาหกิจจีนคดีจีทูจีเก๊, ลูกน้องผู้ยอม‘นาย’จนติดคุก!เจาะพฤติการณ์‘สมคิด เอื้อนสุภา’คนซื้อเช็คหมื่นล.คดีจีทูจีเก๊)

คราวนี้มาดูในรายของนายลิตร พอใจ (จำเลยที่ 9) กันบ้าง ?

ในคำพิพากษากลางฉบับเต็มคดีดังกล่าว ได้ความว่า บริษัท ไห่หนานฯ มีหนังสือถึงอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ 2 ฉบับ ลงวันที่ 5-6 ก.ย. 2555 มีข้อความอย่างเดียวกันแจ้งว่า ได้มอบอำนาจให้นายลิตร เป็นตัวแทนรับมอบอำนาจชำระเงิน รับมอบข้าว และดำเนินการเรื่องต่าง ๆ หลังทำสัญญาฉบับที่ 4 และนายลิตร เป็นผู้ซื้อแคชเชียร์เช็คชำระค่าข้าว 33 ฉบับ จำนวน 847,088,405 บาท

ข้อเท็จจริงรับฟังได้อีกว่า ระหว่างวันที่ 1 มี.ค. 2551-1 ก.ค. 2552 นายลิตร เป็นพนักงานรับส่งของและขับรถของบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ในเรื่องได้รับแต่งตั้งเป็นตัวแทนของบริษัท ไห่หนานฯนั้น นายลิตร อ้างว่า หลังลาออกจากการเป็นพนักงานของบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ไปประกอบอาชีพขายอาหารกับครอบครัวที่เคหะทุ่งสองห้อง แต่ยังรับส่งเอกสารตามที่มีผู้ว่าจ้าง

เรื่องนี้ได้ความจากนายโจว เซียงดอง อดีตพนักงานบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ว่า นายลิตร ทำหน้าที่เป็นคนขับรถของนายอภิชาติ ได้พบนายลิตร ล่าสุดเมื่อเดือน ก.พ. 2557 ตอนไปเก็บของที่บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ทั้งยังปรากฏว่า วันที่ 19 เม.ย. 2553 บริษัท สยามธัญรักษ์ไซโล จำกัด ซึ่งเป็นกิจการในกลุ่มบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด โดย น.ส.เรืองวัน เลิศศรารักษ์ (จำเลยที่ 12) ในฐานะกรรมการได้มอบอำนาจให้นายวรวุฒิ โนนทิง ไปยื่นคำขอจดทะเบียนโอนรถตู้ให้นายลิตร

ขณะเดียวกันนายลิตร ก็มอบอำนาจให้นายวรวุฒิ ไปยื่นคำขอรับโอนแทน ต่อมาวันที่ 7 พ.ค. 2553 นายลิตร มอบอำนาจให้นายวรวุฒิ ไปยื่นคำขอต่อกรมการขนส่งทางบกขอสลับหมายเลขทะเบียนรถตู้คันดังกล่าวกับหมายเลขทะเบียนของนายสมยศ คุณจักร (จำเลยที่ 19) และวันที่ 19 ส.ค. 2553 นายลิตร ยังมอบอำนาจให้นายวรวุฒิ ไปยื่นคำขอสลับหมายเลขทะเบียนรถตู้กลับมาใช้หมายเลขทะเบียนเดิม

หากนายลิตรได้พ้นสภาพการเป็นพนักงานของบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ตามที่อ้าง เหตุใดจึงต้องให้นายลิตรมีชื่อในคู่มือจดทะเบียนแทน ทั้งที่บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด มีพนักงานหลายคน นอกจากนี้เมื่อวันที่ 9 เม.ย. 2556 นายลิตร เปิดบัญชีออมทรัพย์ที่ธนาคารกรุงไทย สาขารัชดาภิเษก-ห้วยขวาง ก็ระบุในคำขอเปิดบัญชีว่า ทำงานเป็นลูกจ้างของบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ตามรายการธุรกรรมตั้งแต่มีการเปิดบัญชีกระทั่งปิดบัญชีในวันที่ 25 มิ.ย. 2557 นายลิตร ได้ทำรายการโอนเงินระบบบาทเนตเข้าบัญชีตนเอง วงเงินสูงตั้งแต่ 20-100 ล้านบาท รวม 8 ครั้ง เป็นเงิน 270 ล้านบาท

ต่อมาเมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2554 นายลิตร ยังโอนเงินระบบบาทเนตเข้าบัญชีของ น.ส.รัตนา แซ่เฮ้ง (จำเลยที่ 11) ที่ธนาคารกรุงไทย สาขารัชดาภิเษก-ห้วยขวาง จำนวน 2 รายการ จำนวน 138,400,100 บาท และ 33.8 ล้านบาท และโอนเงินระบบบาทเนตเข้าบัญชีของนางอรวรรณ ศรัทธาสกุล (มีความสัมพันธ์กับบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด และเคยเป็นผู้รับมอบอำนาจจากรัฐวิสาหกิจจีนมาซื้อข้าวจีทูจี สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อปี 2552 แต่ท้ายสุดไม่มีการซื้อขาย) จำนวน 50 ล้านบาท

ทั้งนี้ในระหว่างปี 2546-2556 ไม่พบว่า นายลิตร ได้ยื่นแบบแสดงรายได้เพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จึงไม่น่าเชื่อว่าธุรกรรมดังกล่าว จะเป็นเงินของนายลิตรเอง

ยังได้ความอีกว่า ในคดีขายข้าวแบบจีทูจีของประเทศจีนอีก 4 สัญญา ที่อยู่ระหว่างการไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีบริษัท คอมปาวด์อินเตอร์เทรด จำกัด โดยนายลิตร ในฐานะกรรมการผู้จัดการเป็นผู้รับมอบอำนาจจากบริษัท ไห่คูฯ (หนึ่งในรัฐวิสาหกิจจีนที่มาซื้อข้าวล็อตใหม่) ในการชำระเงินและรับมอบข้าว

ประกอบกับคดีนี้บริษัท ไห่หนานฯ มีหนังสือแจ้งอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศว่า ได้แต่งตั้งนายลิตร เป็นตัวแทนผู้รับมอบอำนาจชำระเงินและรับมอบข้าวตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย. 2555 ก่อนที่บริษัท ไห่หนานฯ จะลงนามในสัญญากับกรมการค้าต่างประเทศ ในวันที่ 6 ก.ย. 2555 แสดงให้เห็นว่า นายลิตร ร่วมอยู่ในขบวนการนำบริษัท ไห่หนานฯ มาทำสัญญาซื้อขายข้าวกับกรมการค้าต่างประเทศตั้งแต่ต้น

การกระทำของนายลิตร มีความผิดฐานสนับสนุนการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 4 วรรคหนึ่ง 10 และ 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86

นอกจากนี้ยังได้ความอีกว่า เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 2555 นายลิตรซื้อแคชเชียร์เช็คธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาซอยโชคชัย 4 ไปชำระค่าข้าวตามสัญญาฉบับที่ 1 แต่ในทางไต่สวนไม่ปรากฏว่า นายลิตร มีส่วนร่วมในการนำบริษัท กวางตุ้งฯ เข้ามาทำสัญญากับกรมการค้าต่างประเทศตามฉบับที่ 1-3 การที่นายลิตร ซื้อแคชเชียร์เช็คไปชำระค่าข้าวตามสัญญาที่ 1 เป็นความผิดฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 อีกกระทงหนึ่ง

พิพากษารวม 2 กระทง กระทงละ 4 ปี รวม 8 ปี

----

บทบาทของนายลิตร นอกเหนือจากคดีระบายข้าวจีทูจีล็อตนี้แล้ว ในคดีระบายข้าวจีทูจีล็อตใหม่ หรือเรียกกันโดยทั่วไปว่า 4 ไห่ฯ นายลิตรมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมาก ในการเป็นกรรมการ และผู้ถือหุ้นใหญ่เอกชน 2 แห่ง ได้แก่ บริษัท คอมพาวด์ อินเตอร์เทรด จำกัด และบริษัท ซิมเปิ้ล เบสท์ เทรดดิ้ง จำกัด ที่เป็นผู้รับมอบอำนาจช่วงจากรัฐวิสาหกิจจีน และปัจจุบันตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาคดีดังกล่าวด้วย (อ่านประกอบ : ชิงเลิกกิจการหมดแล้ว! เปิดข้อมูล 4 บริษัท ตัวละครใหม่คดีข้าว 'จีทูจี')

นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาคดีระบายมันสำปะหลัง (มันเส้น) แบบจีทูจี ที่อยู่ในชั้นการไต่สวนของ ป.ป.ช. เช่นกัน (อ่านประกอบ : ย้อนข้อมูล คนใกล้ชิด"เสี่ยเปี๋ยง” ก่อนโดนรวบสอบคดีมันเส้นจีทูจี"เก๊" ซ้ำรอย "ข้าว"?)

จึงชี้ให้เห็นว่า นายลิตรเป็นตัวละครสำคัญที่ขาดไปไม่ได้ ในการ ‘อุปโลกน์’ ว่าเป็นตัวแทนผู้รับมอบอำนาจเข้ามาดำเนินการแทนรัฐวิสาหกิจจีนทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นคดีระบายข้าวจีทูจีล็อตแรก ล็อตใหม่ และมันเส้นจีทูจี

คดีแรกมีบทสรุปไปแล้ว ส่วนอีกสองคดีหลังปัจจุบันอยู่ระหว่างไต่สวนอย่างเข้มข้นของ ป.ป.ช. จึงต้องติดตามผลกันต่อไป

อ่านประกอบ :

เจาะคำพิพากษาดูบทบาท‘สุธิดา’ตัวละครสำคัญดูแลถุงเงินสยามอินฯคดีข้าวจีทูจีเก๊

ถึงคิว‘สยามอินดิก้า’!เช็คหมื่นล.มัดจีทูจีเก๊-คำพิพากษาชี้ซื้อข้าวต่อ บ.ไฟน์ฯฟังไม่ขึ้น

INFO:จำแนกครบ17จำเลย-โทษเรียงคนคดีทุจริตข้าวจีทูจีเจ๊งหมื่นล.ยกฟ้อง 8-ออกหมายจับ3

ส่งเอกสารครั้งละ2พันบ.!พฤติการณ์ ‘ปาล์ม’ผู้รับมอบอำนาจรัฐวิสาหกิจจีนคดีจีทูจีเก๊

‘โจ’ดีล‘วีระวุฒิ’ขาย‘สมคิด’เบิกข้าวให้!ล้วงคำวินิจฉัยองค์คณะฯทำไมต้องลงโทษโรงสีคดีจีทูจีเก๊?

ไม่รู้‘หมอโด่ง’เอาข้าวจีทูจีมาขาย!ล้วงเหตุผลศาลฎีกาฯยกฟ้อง7โรงสี-เอกชน

ไม่เอกฉันท์ยกฟ้องโรงสีคดีจีทูจีเก๊ คำวินิจฉัยองค์คณะฯชี้ซื้อต่อ‘โจ’ผิดปกติ-อัยการจ่ออุทธรณ์

คำพิพากษาชำแหละ‘โจ’มือขวา‘เสี่ยเปี๋ยง’ ตัวละครสำคัญรับบทนายหน้าเบิกข้าวคดีจีทูจีเก๊

ชัดๆคำพิพากษาศาลฉบับเต็ม!ชำแหละพฤติการณ์‘ภูมิ-บุญทรง’คดีจีทูจีเก๊

จนท.พาณิชย์เล่าหมดเปลือก!คำพิพากษาฉบับเต็มพฤติการณ์‘บิ๊ก ขรก.’คดีข้าวจีทูจีเก๊