เปิดภาพชุดที่ดิน ถ้ำน้ำผุด จ.พังงา โฉนดโผล่ 6 แปลง อยู่ในเขตป่าชายเลน

เปิดภาพชุดที่ดินพิพาท บ.อสังหาฯ - ชาวบ้าน ต.ถ้ำน้ำผุด จ.พังงา ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษาออก  น.ส.3 มิชอบ ใช้ ส.ค.1 บิน อยู่ในเขตป่าชายเลนตามมติ ครม. 13 ธ.ค.30  ต้องเพิกถอน ล่าสุดถูกนำไปออกโฉนด 6 แปลง เมื่อ 24 ก.ย.57 บางส่วนขายต่อให้รัฐทำสถานีขนส่งผู้โดยสาร มี.ค.58

กรณีเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2559 ศาลอุทธรณ์ภาค 8 มีคำพิพากษาคดีหมายเลขแดงที่ 2415/2559 ระหว่าง พนักงานอัยการจังหวัดพังงา โจทก์ บริษัท กุ้ยหลินพังงา จำกัด โจทก์ร่วม ฟ้องชาวบ้าน 4 คน ได้แก่ นายกุศล ค้าไกล นายพีระวัฒน์ พงศ์สิริเดช หรือนายวิทฑูรย์ หมายดี นายบัญชา ถิ่นลิพอน และ นายแสงอรุณ ทองมี ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-4 ในข้อหาบุกรุกทำให้เสียทรัพย์ ที่ดินพิพาท 60 ไร่ ในพื้นที่หมู่ที่ 3 ต.ถ้ำน้ำผุด อ.เมืองพังงา จ.พังงาที่มีชื่อบริษัท กุ้ยหลินพังงา จำกัดเป็นผู้ถือครอง ศาลอุทธรณ์ภาค 8 ได้พิพากษาว่า หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) 3 แปลง เนื้อที่ประมาณ 45 ไร่ออกไม่ชอบด้วยกฎหมาย เชื่อว่าที่ดินพิพาทยังเป็นที่ดินของรัฐหรือเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ตามข่าวก่อนหน้านี้ (อ่านประกอบ:โผล่อีก จ.พังงา!ศาลอุทธรณ์สั่งเพิกถอน น.ส.3 บ.อสังหาฯใหญ่พันล.ออกมิชอบ)

ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า ที่ดินพิพาท น.ส.3 จำนวน 3 แปลงได้แก่ น.ส.3 เลขที่ 21 ,น.ส.3 เลขที่ 142 และ น.ส. 3 เลขที่ 144 ถูกนำไปออกโฉนด   6 ฉบับได้แก่

1. น.ส.3 เลขที่ 21 ถูกนำไปออกโฉนด 2 แปลง ได้แก่ โฉนดเลขที่ 18630 เนื้อที่ 5-0-00 ไร่ และ เลขที่ 18631 เนื้อที่ 1-2-20 เศษ 8 ส่วน 10 ไร่

2.น.ส.3 เลขที่ 142 ถูกนำไปออกโฉนดเลขที่ 18632 เนื้อที่ 16-3-10 เศษ 2 ส่วน 10 ไร่

3.น.ส.3 เลขที่ 144 ถูกนำไปออกโฉนด 3 แปลง ได้แก่ โฉนดเลขที่ 18627 เนื้อที่ 5-0- 01 เศษ 9 ส่วน 10 ไร่ ,โฉนดเลขที่ 18628 เนื้อที่ 5-1-91 เศษ 8 ส่วน 10 ไร่ และ โฉนดเลขที่ 18629 เนื้อที่ 10-0-90 เศษ 9 ส่วน 10 ไร่ โฉนดทั้ง 6 ฉบับ ออกเมื่อวันที่ 24 ก.ย.2557  โดยนายพลวรรธน์ ฉันธำรงค์ เจ้าพนักงานที่ดิน 

จากการตรวจสอบพบว่า โฉนดเลขที่ 18630 ถูกนำไปขายต่อให้ขนส่งจังหวัดพังงาเพื่อสร้างเป็นสถานีขนส่งผู้โดยสาร จดทะเบียนโอนเมื่อวันที่ 5 มี.ค.2558

ทั้งนี้ ในคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 8 เหตุผลที่ศาลหยิบมาเป็นเหตุวินิจฉัยว่าที่ดินพิพาท ออกโดย น.ส. 3 โดยมิชอบ ได้ให้เหตุผลว่า ที่ดินบางส่วนในบริเวณดังกล่าว จำเลยที่ 2 กับพวกในร่วมกันเข้ายึดถือครอบครองที่ดินนอก น.ส.3 และบางส่วนของน.ส.3 เลขที่ 142 และ 144 เนื้อที่ประมาณ 20 ไร่  ได้ยื่นขอให้สำนักงานที่ดินออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ( น.ส.3 ) ถึงเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดพังงา เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2555 แต่สำนักงานที่ดินจังหวัดพังงา มีหนังสือแจ้งว่า จากการตรวจสอบแล้ว ไม่สามารถดำเนินการให้ได้เนื่องจาก ไม่ชอบด้วยกฎกระทรวงฉบับที่ 43 (พ.ศ.2537) ข้อ 14 โดยจากการตรวจสอบปรากฎว่า ที่ดินบางส่วนซึ่งอยู่นอกหลักฐาน หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) เลขที่ 142 และ 144 อยู่ในเขตป่าชายเลนตามมติ คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.2530 จึงไม่สามารถดำเนินการออกเอกสารสิทธิให้แก่จำเลยที่ 2 ได้ (ปรากฎในหน้า 21-22 ของคำพิพากษาศาลอุทธรณ์)

แต่ทว่าที่ดิน น.ส. 3 ดังกล่าว และพื้นที่บริเวณเดียวกัน กลับถูกยื่นออกเป็นโฉนดที่ดิน จำนวน 6 แปลงในเดือน ก.ย. 2557 

อ่านประกอบ:

เปิด 12 คดีใหญ่ออกโฉนดมิชอบ นักการเมือง กลุ่มทุนสกุลดัง เจ้าของ-ขรก.โดนเชือดอื้อ