จากทุจริตห้องเย็น ทร. 39.9 ล. - ปลอมบัญชีฯรถทหาร ป.ป.ช.นับ 1 อีกกี่ปีจะถึง100?

เทียบคดีทุจริตให้เอกชนบริหารห้องเย็น ทร. เสียหาย 39.9 ล. ตั้งอนุ กก.ไต่สวน นายพล ปี 2555 ป่านนี้ไม่เสร็จ - คดีปลอมบัญชีขายทอดตลาดรถทหาร 1.1 พันคัน พ.อ. กับพวก 5 คนพัวพัน ป.ป.ช.นับ 1  อีกกี่ปีจะถึง 100 ?

นับจากกรณีเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2560 ที่กรมการขนส่งทางบก (ขส.) กระทรวงคมนาคม  กรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) กองทัพบก  และ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร่วมกันแถลงข่าวดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง กรณีการปลอมบัญชีขายทอดตลาดรถยนต์ชำรุดของ กรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.)  กว่า 1,000 คัน ซึ่งมี นายทหารระดับ พันเอก เกี่ยวข้อง ล่าสุดเรื่องนี้  เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้เผยแพร่เรื่องกล่าวหาร้องเรียนที่อยู่ระหว่างดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง ณ วันที่ 1 มี.ค.2561 ระบุว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนกล่าวหา พ.อ. ภพกฤต พันธ์ยศรอง ผู้อำนวยการกองคลัง กรมการขนส่งทหารบก พ.ท.หญิงศิริโสภา จันทรุกขา หัวหน้าแผนกทะเบียนกองคลัง กรมการขนส่งทหารบก นายจิรภัทร วรรัฐกฤติกร กับพวกอีก 2 คน รวมเป็น 5 คน ร่วมกันปลอมหนังสือกองคลัง และใบเสร็จรับเงิน กรมการขนส่งทหารบก เพื่อนำส่งบัญชียานพาหนะชำรุดที่ได้รับอนุมัติให้ขายทอดตลาด ทั้งที่ไม่มีการขายทอดตลาดยานพาหนะ และใช้หนังสือปลอมดังกล่าวเป็นเหตุให้กรมการขนส่งทางบก หลงเชื่อว่ามีการขายทอดตลาดยานพาหนะและดำเนินการออกหนังสือรับรองหลักฐานให้แก่นายจิรภัทร วรรัฐกฤติกร นายณัฐวุฒิ สมสวย และนายคฑาสุรเชษฐ์ หรือณัชวงศักด์ โรจน์พุทธิภิญโญ ไปโดยผิดหลง

คดีนี้มีพฤติกรรมดังนี้ 

1.กลุ่มบุคคลร่วมกันจัดทำบัญชีขายทอดตลาดรถยนต์ขึ้นมา มีทั้งรถบรรทุก รถยนต์นั่งส่วนบุคคล หลายยี่ห้อบางยี่ห้อ ไม่มีใช้งานในหน่วยงาน หรือมิใช่รถยนต์ทหาร 

2.กลุ่มบุคคลใช้วิธีเอารถจากบุคคลภายนอก หรือรถนอกหน่วย ที่จัดเตรียมไว้ มาสวมบัญชีผ่านการประมูลของทางราชการและเป็นบัญชีเท็จ อาทิ คาดิแลค 47 คัน ยี่ห้ออื่นบูอิค 7 คัน ,พอนดิแอค 8 คัน ,โอล์ดสโมบิล 3 คัน ,ดอร์ด 9 คัน ,ลินคอร์น 3 คัน ,พลีเมาส์ 1 คัน ,อัลฟ่า 3 คัน, ยี่ห้อออดี้ 1 คัน (A 5/S5/RS 5) ,ยี่ห้อเมอร์ซิเดสเบนซ์ 24 คัน ,ฟอร์ด 1 คัน , ฮัมเมอร์ 5 คัน ,มิตซูบิชิ 11 คัน (ปาเจโร,JEEP) ,นิสสัน 6 คัน (SKYLINE,ELGRAND) ,ซุบารุ 1 คัน ,ซูซูกิ 4 คัน (Wagon,JIMMY) ,โตโยต้า 35 คัน (Alpard ,Lexus, แลนด์ ครุยเซอร์, เมกาครุยเซอร์ ,PRADO,BLIZZARD,HILUX 4*4),แลนด์โรเวอร์ 1 คัน ซึ่งเป็นรถที่แทบไม่ค่อยเห็นในหน่วยงาน 

3.ผู้อ้างว่าชนะประมูลหรือประมูลได้ นำเอาบัญชีรถยนต์ดังกล่าวไปยื่นขอจดทะเบียน ต่อกรมการขนส่งทางบก (ปลดจากบัญชีคุมรถของราชการเป็นรถของเอกชน)

4.มีการปลอมบัญชีรถประมูลอย่างน้อย 9 ครั้งในช่วงปี 2557-2558 จำนวน 1,172 คัน ในจำนวนนี้ 8 ครั้งเป็นเอกชนรายเดียว อ้างว่าเป็นผู้ประมูลได้

ผู้เกี่ยวข้องเป็นข้าราชการมีชื่อปรากฎในเอกสารอย่างน้อย 4 คน กรณีของ พ.อ.ภพกฤต ถูก พล.อ.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม รับคำสั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ปลดออกจากราชการ ตามคำสั่งกระทรวงกลาโหมที่ 1180/2560 วันที่ 24 พ.ย.2560 ขณะที่ พ.ท.หญิงศิริโสภา ถูกปลดออกจากราชการ เนื่องจากพัวพันคดีลักลอบขายรถจำนวน 49 คัน เมื่อปี 2557 กองทัพบกตั้งกรรมการสอบสวนและปลดออกจากราชการตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย.2559 (ประกาศเมื่อ 28 ก.พ.2560 )

ขณะนี้ ถือว่าเป็นการเริ่มกระบวนการไต่สวนของ ป.ป.ช.ในคดีนี้อย่างเป็นทางการ

อย่างไรก็ตาม เทียบกับเรื่องอื้อฉาวที่ข้าราชการทหารเป็นผู้ถูกกล่าวหา ก่อนหน้านี้ กรณีการให้เอกชนเข้ามาบริหารกิจการห้องเย็นสวัสดิการสัตหีบ กองทัพเรือ เสียหาย 39.9 ล้านบาท นายทหาร 2 เกี่ยวข้อง คือ พล.ร.ต.สุรชัย โภคามาศ ผู้จัดการกิจการห้องเย็น ระหว่าง ต.ค.50-52 และ น.ท. หัวหน้าฝ่ายจัดส่งเสบียง เอกชน 1 รายคือ นางอังคณา แสงเพ็ชร หรือ อุณหกะ เจ้าของร้าน KO ผักสด เอกชนผู้ร่วมลงทุนกับกิจการห้องเย็น

ป.ป.ช.ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนตั้งแต่ปี 2555 เปลี่ยนอนุกรรมการอย่างน้อย 2 ครั้ง ล่าสุดยังไม่ปรากฎผลสอบสวน หากใช้คดีนี้เป็นตัวชี้วัด เทียบกับกรณีล่าสุด  เมื่อ ป.ป.ช.เริ่มนับ 1  ไม่มีใครทราบว่า อีกกี่ปี จะถึง 100 หรือ จะแล้วเสร็จในกี่ปี ? 

อ่านประกอบ:

โชว์หรา! ป.ป.ช.สอบ 2 นายทหาร -3 เอกชนคดีปลอมบัญชีรถประมูล 1.1 พันคัน

น.ท.ร้อง 5 ปีไม่คืบ!คดีทุจริตห้องเย็น ทร. 39.9 ล.-ป.ป.ช.เปลี่ยน กก.สอบชุดสอง

ไทม์ไลน์!มหากาพย์ คดีห้องเย็น 39.9 ล. เอื้อเมียนายพล-เชือด พล.ร.อ. 14 ทหาร