กก.ทำมิชอบ-อาจถูกฟ้อง?โชว์หนังสือค้านรับ2อาจารย์ มสธ.ไม่ผ่านเกณฑ์ภาษาอังกฤษ
“...ขอเรียนด้วยความเคารพว่า ในฐานะที่เป็นกรรมการสอบคัดเลือกมีความกังวลใจเป็นอย่างยิ่งหากการดำเนินการของคณะกรรมการฯ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย อาจส่งผลต่อการถูกผู้สมัครเข้ารับการคัดเลือกฟ้องร้องด้วยเหตุดังกล่าวซึ่งส่วนผลกระทบต่อชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย จึงจำเป็นต้องนำเรียนท่านอธิการบดี เพื่อโปรดพิจารณาเหตุ 3 ประการข้างต้น เพื่อให้การดำเนินการสอบคัดเลือกอาจารย์ในครั้งนี้เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายและมีความเป็นธรรมต่อไป…”
ขั้นตอนการคัดเลือกผู้เข้าดำรงตำแหน่งอาจารย์สาขาวิชานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) กำลังถูกจับตาจากสาธารณชนอย่างเข้มข้น!
ภายหลังปรากฏข้อเท็จจริงว่า คณะกรรมการคัดเลือกฯเสียงข้างมากมีมติ 2 ต่อ 1 (องค์ประชุม 3 รายจากทั้งหมด 5 ราย) ให้เลือกผู้สมัคร 2 ราย ที่ไม่ผ่านหลักเกณฑ์ภาษาอังกฤษให้เข้ามาเป็นอาจารย์ได้ ท่ามกลางเสียงค้านเซ็งแซ่ว่า ผู้สมัครทั้ง 2 รายดังกล่าว มีความใกล้ชิดกับอาจารย์รายหนึ่งภายใน มสธ. อยู่ก่อนแล้ว
อย่างไรก็ดี รศ.ภาณุมาศ ขัดเงางาม ประธานสาขาวิชานิติศาสตร์ มสธ. หนึ่งในกรรมการคัดเลือกฯ ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงกรณีนี้ว่า การคัดเลือกทั้งหมดโปร่งใส มีพยานเอกสาร หลักฐานทั้งหมด และเคยมีกรณีบุคคลที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดอาจารย์ภายใน มาสมัครอาจารย์หลายกรณีแล้ว แต่คัดเลือกไปตามคุณสมบัติปกติ มีทั้งคนที่ติด และไม่ติด (อ่านประกอบ : มสธ.รับ2อาจารย์นิติฯไม่ผ่านเกณฑ์ภาษาอังกฤษ!ปธ.สาขาฯยันโปร่งใส-ประชุมชี้ขาด5มิ.ย.)
ทั้งนี้มีอาจารย์สาขาวิชารัฐศาสตร์ และอาจารย์สาขาวิชานิติศาสตร์ 2 กรรมการคัดเลือกฯที่ไม่ได้เข้าร่วมประชุมในวันดังกล่าว ได้ทำหนังสือคัดค้านถึงอธิการบดี ผ่านรองอธิการบดี เนื่องจากไม่เคยทราบมาก่อนว่า วันที่คณะกรรมการคัดเลือกฯประชุมกันนั้น จะมีการหยิบยกวาระการพิจารณาให้ผู้สมัครทั้ง 2 ราย ที่ไม่ผ่านเกณฑ์ภาษาอังกฤษ ให้ได้รับการคัดเลือกเป็นอาจารย์ด้วย ?
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำหนังสือมาเผยแพร่ในส่วนของคำคัดค้านจาก ผศ.อิงครัต ดลเจิม กรรมการประจำสาขาวิชานิติศาสตร์ สรุปได้ ดังนี้
ตามที่ มหาวิทยาลัยมีคำสั่งแต่งตั้งให้กระผมเป็นกรรมการคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอาจารย์ สาขาวิชานิติศาสตร์ ตามคำสั่งฯ ที่ 3752/2560 ลงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2560 และคำสั่งฯ ที่50/2561 ลงวันที่ 9 มกราคม 2561 ความทราบแล้วนั้น
สืบเนื่องจากกองการเจ้าหน้าที่ได้นัดประชุมคณะกรรมการคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอาจารย์ สาขาวิชานิติศาสตร์เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2561 เวลา 13.30 น. ซึ่งในวันและเวลาดังกล่าวกระผมต้องเดินทางไปปฏิบัติราชการสอนเสริม ณ ศูนย์บริการการศึกษา จังหวัดพิษณุโลก โรงเรียนเฉลิมขวัญสตรี ในวันที่ 26 พฤษภาคม 2561 จึงไม่ได้เข้าร่วมประชุมตามที่กองการเจ้าหน้าที่นัดหมายและทราบแต่เพียงว่ามีวาระในการประชุมเพียงการพิจารณาค่าประสบการณ์ในการทำงานของ นางสาววลัยวรรณ มธุรสปรีชากุล ผู้สมัครที่ผ่านการคัดเลือกและมีคะแนนภาษาอังกฤษผ่านเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนด ตามประกาศมหาวิทยาลัยฯ เรื่อง การขึ้นบัญชีและยกเลิกบัญชีผู้ได้รับคัดเลือกตำแหน่งอาจารย์ ลงวันที่ 21 มีนาคม 2561 โดยไม่ทราบมาก่อนว่าจะมีการพิจารณาคะแนนทดสอบความสามารถภาษาอังกฤษของผู้ผ่านการคัดเลือกซึ่งมีผลคะแนนต่ำกว่าเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยได้ประกาศไว้ โดยการพิจารณาเป็นนวาระจร
กระผมเกรงว่าจะเกิดผลเสียหายต่อคณะกรรมการคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอาจารย์ สาขาวิชานิติศาสตร์และมหาวิทยาลัย จึงใคร่ขออนุญาตให้ความเห็น ดังต่อไปนี้
1. ตามประกาศมหาวิทยาลัยฯ เรื่อง การขึ้นบัญชีและยกเลิกบัญชีผู้ได้รับการคัดเลือกตำแหน่งอาจารย์ ลงวันที่ 21 มีนาคม 2561 กำหนดให้ผู้ได้รับการคัดเลือกต้องนำคะแนนทดสอบภาษาอังกฤษดังรายการในตารางซึ่งมีอายุไม่เกิน 2 ปี ไปยื่นในวันที่ไปรายงานตัวที่เข้าปฏิบัติหน้าที่ หรือในกรณีทั้งยังไม่มีคะแนนทดสอบความสามารถด้านภาษาอังกฤษ ผู้ได้รับการคัดเลือกจะต้องมารายงานตัวภายในวันที่ 5 เมษายน 2561 ก่อน หลังจากนั้นต้องนำคะแนนฯ ไปยื่นให้กองการเจ้าหน้าที่ภายใน 3 เดือน นับจากวันประกาศผลการคัดเลือกจึงจะได้รับการบรรจุเข้าปฏิบัติหน้าที่ ฯลฯ
กระผมมีความเห็นว่า ประกาศดังกล่าวไม่ได้ให้อำนาจแก่คณะกรรมการคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอาจารย์ สาขาวิชานิติศาสตร์ใช้ดุลพินิจพิจารณาการบรรจุเข้าปฏิบัติหน้าที่ของผู้สอบผ่านการคัดเลือกที่มีผลคะแนนทดสอบภาษาอังกฤษต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้แต่อย่างใด และเห็นว่าที่ประกาศฯ กำหนดไว้ว่า “ในกรณีทั้งยังไม่มีคะแนนทดสอบความสามารถด้านภาษาอังกฤษ ผู้ได้รับการคัดเลือกจะต้องมารายงานตัวภายในวันที่ 5 เมษายน 2561 ก่อน หลังจากนั้นต้องนำคะแนนฯ ไปยื่นให้กองการเจ้าหน้าที่ภายใน 3 เดือน นับจากวันประกาศผลการคัดเลือกจึงจะได้รับการบรรจุเข้าปฏิบัติหน้าที่”
เช่นนี้เห็นว่า มหาวิทยาลัยได้ให้โอกาสแก่ผู้ได้รับการคัดเลือกที่ยังไม่มีคะแนนทดสอบความสามารถด้านภาษาอังกฤษหรือมีแต่ไม่ถึงเกณฑ์กำหนด ให้มารายตัวก่อนแล้วหลังจากนั้นต้องนำคะแนนฯ ที่ถึงเกณฑ์ตามกำหนดมายื่นเป็นหลักฐานเพื่อบรรจุเข้าปฏิบัติหน้าที่ต่อไป
ดังนั้น การที่คณะกรรมการคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอาจารย์ สาขาวิชานิติศาสตร์พิจารณาให้ผู้ได้รับการคัดเลือกที่มีคะแนนฯ ไม่ถึงเกณฑ์ตามกำหนดบรรจุเข้าปฏิบัติหน้าที่เลยนั้น โดยที่มหาวิทยาลัยไม่ทราบเรื่องดังกล่าว เห็นว่าไม่ชอบด้วยประกาศของมหาวิทยาลัย
2. การประชุมของคณะกรรมการคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอาจารย์ สาขาวิชานิติศาสตร์เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2561 ซึ่งกระผมทราบว่ามีการพิจารณาค่าประสบการณ์ในการทำงานของ นางสาววลัยวรรณ มธุรสปรีชากุล ผู้สมัครที่ผ่านการคัดเลือกและมีคะแนนภาษาอังกฤษผ่านเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนด เท่านั้น และกระผมติดราชการเดินทางไปต่างจังหวัดนั้น
กระผมมาทราบภายหลังว่ามีการบรรจุวาระจรหรือที่เรียกว่าวาระอื่น ๆ (ถ้ามี) นั้น เพื่อพิจารณาให้ผู้ได้รับการคัดเลือกที่มีคะแนนฯ ไม่ถึงเกณฑ์ตามกำหนด จำนวน 2 คน บรรจุเข้าปฏิบัติหน้าที่
เห็นว่า เป็นการประชุมที่ไม่ชอบเพราะไม่มีการแจ้งล่วงหน้าให้กรรมการได้ทราบเพื่อเตรียมข้อมูลคิดพิจารณาไตร่ตรองมาก่อน แม้ในการประชุมครั้งนั้นจะมีกรรมการครบองค์ประชุมก็ตาม (เทียบเคียงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3075/2560)
3. แม้ว่าประกาศมหาวิทยาลัยฯ เรื่อง รับสมัครคัดเลือกเพื่อแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งอาจารย์ ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2560 จะมีข้อความไว้ว่า “กรณีที่ยังไม่มีคะแนนทดสอบความสามารถด้านภาษาอังกฤษผู้ได้รับคัดเลือกจะต้องนำคะแนนไปยื่นให้กองการเจ้าหน้าที่ภายใน 3 เดือนนับจากวันประกาศผลการคัดเลือกจึงจะได้รับการบรรจุเข้าปฏิบัติหน้าที่หากคะแนนที่ได้รับไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด หรือกรณีที่เป็นผู้สำเร็จการศึกษาจากต่างประเทศให้อยู่ในดุลยพินิจของคณะกรรมการดำเนินการคัดเลือกแต่ละสาขาวิชา”ไว้ก็ตาม ซึ่งการปฏิบัติตามประกาศฯ ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2560 ดังกล่าวจะปฏิบัติได้เมื่อมีการประกาศผลการคัดเลือกแล้ว และเมื่อประกาศผลการคัดเลือกตามประกาศฯ ลงวันที่ 21 มีนาคม 2561 มีข้อความขัดกัน กล่าวคือ ไม่ได้กำหนดให้ผู้ได้รับคัดเลือกมีสิทธิยื่นคะแนนทดสอบภาษาอังกฤษที่ไม่ผ่านตามเกณฑ์กำหนดให้คณะกรรมการสอบคัดเลือกหรือมหาวิทยาลัยพิจารณาแต่อย่างใด กระผมมีความเห็นว่ามหาวิทยาลัยจึงมีความผูกพันที่ต้องปฏิบัติตามประกาศฯ ลงวันที่ 21 มีนาคม 2561
ดังนั้น จากเหตุผล 3 ประการ กระผมจึงเห็นว่า การบรรจุผู้ที่ไม่มีผลคะแนนภาษาอังกฤษต่ำกว่าเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนดเข้าปฏิบัติหน้าที่นั้น เป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย
กระผมขอเรียนด้วยความเคารพว่า ในฐานะที่เป็นกรรมการสอบคัดเลือกมีความกังวลใจเป็นอย่างยิ่งหากการดำเนินการของคณะกรรมการฯ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย อาจส่งผลต่อการถูกผู้สมัครเข้ารับการคัดเลือกฟ้องร้องด้วยเหตุดังกล่าวซึ่งส่วนผลกระทบต่อชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย จึงจำเป็นต้องนำเรียนท่านอธิการบดี เพื่อโปรดพิจารณาเหตุ 3 ประการข้างต้น เพื่อให้การดำเนินการสอบคัดเลือกอาจารย์ในครั้งนี้เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายและมีความเป็นธรรมต่อไป (ดูเอกสารประกอบท้ายเรื่อง)
----
ไม่ว่าข้อเท็จจริงเรื่องนี้จะมีบทรุปอย่างไร ด่านสุดท้ายคือ ต้องรอมติการประชุมคณะกรรมการพิจารณาอัตรากรอบกำลัง ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาวาระดังกล่าวในช่วงเช้าของวันที่ 5 มิ.ย. นี้
