- Home
- Isranews
- รายงาน-สกู๊ป
- เช็คชื่อ “ขรก.สมช.” ใครอยู่ใครไป เมื่อ “ถวิล” รีเทิร์น
เช็คชื่อ “ขรก.สมช.” ใครอยู่ใครไป เมื่อ “ถวิล” รีเทิร์น
“แม้ผมจะมีเวลา 5-6 เดือน แต่อยากเข้าไปปรับเปลี่ยนหลายอย่างให้มันเข้ารูปเข้ารอย ทำงานให้เดินหน้ากันได้ ไม่ใช่ทำแต่สิ่งที่รัฐบาลอยากให้ทำ สมช.ต้องทำเพื่อเสนอรัฐบาล ไม่ใช่ให้รัฐบาลมาเสนอแล้วจึงทำ”
พลันที่ “ศาลปกครองสูงสุด” ขึ้นบัลลังค์อ่านคำพิพากษาคดี “ถวิล เปลี่ยนศรี” ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฟ้องร้อง “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม โอนย้ายพ้นจากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ไม่เป็นธรรม
บรรดา “ข้าราชการสมช.” นั่งฟังอย่างใจจดในจ่อ และเมื่อสิ้นเสียงการอ่านคำพิพากษาของ “ศาลปกครองสูงสุด” เสียงเฮในหัวใจของ “ข้าราชการสมช.” ดังลั่น
ทว่ายังมี “ข้าราชการสมช.” ส่วนน้อยถึงกับออกอาการเสียวสันหลัง เพราะเลือกแทงหวยเทใจเลือกอยู่กับ “พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร” เลขาธิการสมช. ไปแล้ว
เมื่อ “ศาลปกครองสูงสุด” มีคำสั่งให้คืนตำแหน่งให้ “ถวิล” คนแรกที่ต้องหลีกทางให้หนีไม่พ้น “พล.ท.ภราดร” แม้จะยังยืนยันว่าให้รอ “ยิ่งลักษณ์” นำชื่อ “ถวิล” ขึ้นโปรดเกล้าฯก่อน ถึงจะเดินออกจากสมช.
แต่เส้นตาย 45 วัน ที่ “ศาลปกครองสูงสุด” ขีดไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้ “ยิ่งลักษณ์” เล่นแร่แปรธาตุ การันตีได้อย่างดีว่า “ถวิล” เขี่ย “พล.ท.ภราดร” ตกเก้าอี้แน่นอน
นอกจาก “พล.ท.ภราดร” แล้ว ในโครงสร้างของสมช. แคนดิเดตที่จะต้องตกเก้าอี้ตามนาย คงหนีไม่พ้น “พล.ท.พงศกร รอดชมภู” ที่ย้ายข้ามห้วยจาก “กองทัพบก” มาพึ่งบารมี “เพื่อนรัก” นั่งเก้าอี้ “รองเลขาฯสมช.”
โดย “พล.ท.พงศกร” ได้รับมอบหมายจาก “พล.ท.ภราดร” ให้ดูแลปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทว่า “พล.ท.พงศกร” กลับโดนแรงต้านในพื้นที่อย่างหนัก เพราะชาวบ้านไม่ไว้ใจ และเรียกร้องให้นำ “สมเกียรติ บุญชู” ที่ปรึกษานายกฯ อดีตรองเลขาธิการสมช. มาทำงานแทน
“พล.ท.พงศกร” โดนต้านหนักจน “ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้” (ศอ.บต.) อดรนทนไม่ไหวแต่งตั้งให้ “สมเกียรติ” มานั่งที่ปรึกษาศอ.บต. ช่วยลดแรงต้านได้เปราะหนึ่ง
กระนั้นการที่ “ถวิล” จะเขี่ย “พล.ท.พงศกร” ให้พ้นจากตำแหน่งภายในเวลา 5-6 เดือน ยังถือเป็นเรื่องยาก เพราะต้องนำเรื่องเข้า “ครม.” และหากมี “ครม.ชุดใหม่” ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าจะมาจากขั้วไหนหรือมาจาก “สี” ใด
อีกคนหนึ่งที่จะต้องหลบฉากไปพร้อม “พล.ท.ภราดร” คือ “พล.ท.สมชาย วัชระนาค” ที่เข้ามาเป็นมือขวาดูแลงานสมช.ให้เกือบทั้งหมด
บทสรุปคือการรีเทิร์นของ “ถวิล” มาพร้อมแบล็คลิสต์ “อดีตคนในกองทัพ” 10 กว่าคนที่มาโตในสมช.ยุค “พล.ท.ภราดร” ต้องส่งตัวกับ “กองทัพ” เกือบยกเซ็ต
ทว่าความยากอยู่ที่ “ข้าราชการสมช.” ขณะนี้แบ่งเป็น 2 พรรค 2 พวก ฝั่งละครึ่งๆ สาย “ถวิล” ที่กำลังกลับมาแข็งแรง สาย “พล.ท.ภราดร” ที่จะอ่อนแรงไป
โจทย์ของ “ถวิล” คือจะทำอย่างไรให้สมช.กลับมาแข็งแรงเป็นเอกภาพเหมือนก่อนที่ “ถวิล” จะถูกย้ายออกไป
“ถวิล” ระบุต่อว่า “เท่าที่ทราบมางานในสมช.หลายด้านไม่เดินเลย เพราะพล.ท.ภราดรมัวทำงานสนองการเมือง ไม่ได้คิดว่าภัยความมั่นคงมีหลายมิติ สมช.ในฐานะฝ่ายนโยบายควรเกาะติดสถาณการณ์ทั้งหมด ทั้งภัยความมั่นคงทางเทคโนโลยี ความมั่นคงชายแดนทั้งประเทศ ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ”
“แม้ผมจะมีเวลา 5-6 เดือน แต่อยากเข้าไปปรับเปลี่ยนหลายอย่างให้มันเข้ารูปเข้ารอย ทำงานให้เดินหน้ากันได้ ไม่ใช่ทำแต่สิ่งที่รัฐบาลอยากให้ทำ สมช.ต้องทำเพื่อเสนอรัฐบาล ไม่ใช่ให้รัฐบาลมาเสนอแล้วจึงทำ” แหล่งข่าวกล่าว
“ถวิล” ระบุไว้ว่า “มันทำงานด้วยกันไม่ได้อยู่แล้ว เพราะมันไม่ใช่มืออาชีพ มาด้วยวาระแอบแฝง เอาคนเข้ามานั่งทั้งที่ไม่มีประสบการณ์การทำงาน”
โดย “ถวิล” ทิ้งท้ายว่า “ผมชนะคดีคนในสมช.ดีใจมากกว่าผมอีก”
ทั้งหมดคืออนาคตของ “สมช.” ภายในการกุมบังเหียนคำรบสองของ “ถวิล เปลี่ยนศรี” ผู้ไม่เคย “เปลี่ยนสี”
ภาพจาก www.matichon.co.th