ผ่าปมร้อน!ท่าที อผศ.กับข้อกล่าวหาจ้างช่วงขุดคลอง-แอบอ้าง 'ประวิตร' เรียกหัวคิว?

"...จากข้อมูลของกลุ่มบุคคลที่ออกมาร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทั้ง 2 กลุ่ม พบว่า มีข้อเท็จจริงที่ปรากฎเหมือนกัน คือ มีการกล่าวอ้างว่า อผศ. จ้างช่วงผู้รับเหมาเข้ามารับงานขุดลอกคลองต่อจริง และมีบุคคลบางกลุ่มได้รับผลประโยชน์จากการเรียกเก็บเงินค่าหัวคิวในการดำเนินงานด้วย แต่ดูเหมือนท่าทีของ อผศ.ในช่วงที่ผ่านมา จะไม่ค่อยเป็นเดือนเป็นร้อนกับข้อมูลในเรื่องนี้มากนัก.."

หากใครที่มีโอกาสติดตามข่าวกรณีองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (อผศ.) ถูกร้องเรียนเรื่องการเข้าไปรับงานขุดลอกคูคลอง จากหน่วยงานราชการต่างๆ ด้วยวิธีพิเศษ และนำมาจ้างช่วงเอกชนดำเนินการต่อ พร้อมกับกระแสข่าวว่ามีบุคคลกลุ่มหนึ่ง ได้รับผลประโยชน์ในเรื่องนี้ โดยการเข้าไปเรียกเก็บเงินค่าหัวคิวจากผู้รับเหมา ตามที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำข้อมูลมานำเสนอไปก่อนหน้านี้  

คงจะมีคำถามเกิดขึ้นในใจ 2 ประเด็น คือ 1. อผศ. มีการจ้างช่วงเอกชนเข้ามารับงานต่อจริงหรือ? 2. กลุ่มคนที่ได้รับประโยชน์จากการเรียกเก็บหัวคิวเอกชนคือใคร? 

เพื่อให้สาธารณชนมีความเข้าใจเกี่ยวกับข่าวนี้มากขึ้น สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org สรุปข้อเท็จจริงที่ได้รับจากการตรวจสอบมาไล่เรียงให้เห็นแบบชัดๆ ดังนี้ 

ประการที่ 1 ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อผศ. ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมว่า เป็นแหล่งสร้างรายได้ของเอกชนหลายราย ที่เข้ามาทำสัญญารับจ้างช่วงงานต่อจาก อผศ.  

กล่าว คือ หลังจากที่ อผศ.ได้รับว่าจ้างงานจากภาครัฐ บางประเภท ก็จะมาว่าจ้างเอกชนให้ทำงานต่อ เนื่องจาก อผศ.มีระเบียบเปิดช่องให้สามารถหาเอกชนเข้ามาร่วมการงานได้

อย่างไรก็ตาม ผลจากการดำเนินการในลักษณะดังกล่าว ส่งผลทำให้ อผศ. ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็น "เสือนอนกิน" หรือ "เป็นนายหน้า" ที่เข้าไปรับงานมา แต่สุดท้ายไม่ได้ทำเอง นั่งรอรับผลกำไรจากเอกชนที่รับงานไปทำแทน  

ประการที่ 2 กรณีการเข้าไปรับงานขุดลอกคูคลอง จากหน่วยงานราชการ ของ อผศ.  

สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า ภายหลังการรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พ.ค.2557 กระทรวงการคลัง ได้นำเสนอต่อที่ประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อให้รับทราบมติคณะกรรมการพิจารณาสิทธิพิเศษของหน่วยงานและรัฐวิสาหกิจ ในคราวประชุมครั้งที่ 1/2557เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2556 ที่ให้องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (อผศ.)ได้รับสิทธิพิเศษประเภทไม่บังคับในการรับจ้างพัฒนาหรือก่อสร้างปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำ งานขุดลอกคูคลอง ลำรางสาธารณะ งานสร้างฝายกั้นน้ำ และงานลอกท่อระบายน้ำ ให้แก่ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ

โดย อผศ.อ้างว่ามีความจำเป็นที่ต้องหารายได้มาสมทบงบประมาณในการสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ครอบครัวทหารผ่านศึก และทหารนอกประจำการที่อยู่ในความดูแลซึ่งปัจจุบันมีอยู่จำนวน 2 ล้านคนเศษ และอาจจะเพิ่มขึ้นอีกในอนาคตจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่3 จังหวัดชายแดนใต้เนื่องจากงบประมาณที่ได้รับจากกระทรวงกลาโหมไม่เพียงพอ และมีขีดความสามารถที่จะดำเนินการได้เอง ตลอดจนมีทหารผ่านศึกอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ

ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า อผศ.จะต้องเป็นผู้ดำเนินการเอง โดยมิได้เป็นการประกอบการงานหรือร่วมการงานหรือสมทบกับบุคคลอื่นไม่ว่าจะเป็นการค้าหรือการอื่น และกระทรวงการคลัง โดยคณะกรรมการพิจารณาสิทธิพิเศษฯ มีอำนาจในการระงับสิทธิพิเศษได้ ในกรณีที่ตรวจพบว่า อผศ.นำงานจ้างไปให้เอกชนรับช่วงดำเนินการต่อ

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่ อผศ. ได้รับสิทธิพิเศษในการเข้าไปรับงานขุดลอกคูคลองจากหน่วยงานรัฐ อผศ.ถูกร้องเรียนจากบุคคล 2 กลุ่ม ดังนี้ 

1. กลุ่มธรรมาภิบาลเครือข่ายภาคประชาชนต้านทุจริตและคอร์รัปชั่น นำโดย นายวิวัฒน์ สมบัติหลายประธานกลุ่มฯ 

เข้ายื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีที่มีบุคคลแอบอ้างชื่อของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในการเรียกรับผลประโยชน์และเก็บค่าหัวคิวโครงการขุดลอกแหล่งน้ำ ขององค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (อผศ.) เมื่อวันที่ 5 ก.พ.2558 ที่ผ่านมา 

กล่าวอ้างว่า ภายหลังจากที่ อผศ.ได้รับสิทธิพิเศษในการเป็นผู้รับจ้างเกี่ยวกับการปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำ งานขุดลอกคูคลอง โดยไม่ต้องมีการประกวดราคา และได้มีกลุ่มบุคคลที่แอบอ้างว่ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ พล.อ.ประวิตร ใช้ชื่อว่า "กลุ่มคุณนายอ." และ "ส.จ.ผู้กว้างขวางในสุพรรณบุรี" ไปเรียกเก็บค่าหัวคิว กับกลุ่มผู้ประกอบและผู้รับเหมาโครงการที่รับงานต่อจากองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกทั่วประเทศ ร้อยละ 40-50 จากทุกโครงการ โดยเก็บค่าจองโครงการล่วงหน้าร้อยละ 10-15 ส่วนที่เหลือต้องจ่ายให้ครบในวันที่เซ็นสัญญารับงาน ซึ่งคาดว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวเรียกรับเงินไปแล้วกว่า1,000 ล้านบาท โดยพิจารณาจากการเรียกเก็บล่วงหน้าร้อยละ15 ของโครงการ เทียบกับงบประมาณประจำปี 2558 จำนวน 8,000 ล้านบาท 

2. ผู้รับเหมาในจ.สงขลา เข้าร้องเรียนต่อนายถาวร เสนเนียม อดีต ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์

กล่าวอ้างว่า ได้ไปซื้อสัญญาขุดลอกคูคลองจาก อผศ. ที่ได้รับงานขุดลอกคูคลองราชการมาดำเนินการการต่อ เสียเงินในการซื้อสัญญาประมาณ 30% โดยในขั้นตอนจะต้องมีการนำเงินสดไปจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่บางคนใน อผศ.ที่ชั้น 6 โดยได้รับแจ้งว่า 10% จะนำเข้า อผศ. ส่วน 20 % มีการอ้างว่านำไปให้กับผู้ใหญ่บางคน

ขณะที่ ในการทำสัญญารับช่วงงานต่อนั้น อผศ. กับกลุ่มผู้รับเหมาจะทำในรูปบันทึกข้อตกลงเช่ายานพาหนะเครื่องมือเครื่องจักร โดยอผศ. จะเป็นผู้เช่าเครื่องมือจากผู้รับเหมา อ้างว่าเพื่อนำไปใช้ในการขุดลอกคลอง แต่ในความเป็นจริง อผศ.ไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการขุดคลอง แต่ผู้รับเหมาเป็นผู้ดำเนินการ

ส่วนเหตุผลที่ทำให้ผู้รับเหมามาร้องเรียน เนื่องจากยังไม่ได้รับการจ่ายเงินค่าจ้างตามที่ตกลงกันไว้กับอผศ. และผู้รับเหมาได้นำเอกสารสัญญามามอบไว้ให้บางส่วนด้วย 

ขณะที่ ผลการตรวจสอบยืนยันข้อมูล ของ สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันจาก ผู้รับเหมารายหนึ่ง ที่เข้ามาร้องเรียนกับ นายถาวร เสนเนียม ว่า เข้าไปรับจ้างงานขุดลอกคลองจาก อผศ. จริง 

พร้อมยืนยันว่า อผศ.ไม่ได้เป็นฝ่ายขุด ผู้รับเหมาเป็นฝ่ายขุดเอง 

"แต่ตอนนี้ ไม่มีอะไรแล้ว เพราะปัญหามันเคลียร์จบแล้ว ทางฝ่ายเราได้รับเงินว่าจ้างครบถ้วนแล้ว" 

ทั้งนี้ จากข้อมูลของกลุ่มบุคคลที่ออกมาร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทั้ง 2 กลุ่ม พบว่า มีข้อเท็จจริงที่ปรากฎเหมือนกัน คือ มีการกล่าวอ้างว่า อผศ. จ้างช่วงผู้รับเหมาเข้ามารับงานขุดลอกคลองต่อจริง และมีบุคคลบางกลุ่มได้รับผลประโยชน์จากการเรียกเก็บเงินค่าหัวคิวในการดำเนินงานด้วย 

แต่ดูเหมือนท่าทีของ อผศ.ในช่วงที่ผ่านมา จะไม่ค่อยเป็นเดือนเป็นร้อนกับข้อมูลในเรื่องนี้มากนัก

เห็นได้จากข้อเท็จจริง 2 ประการ คือ

1. สำนักข่าวอิศรา ได้พยายามติดต่อขอคำชี้แจง จาก พล.อ.รณชัย มัญชุสุนทรกุล ผอ.อผส. หลายครั้ง ผ่านโทรศัพท์มือถือส่วนตัว แต่ไม่สามารถติดต่อได้ และนับตั้งแต่มีข่าวปรากฎออกไปก็ไม่ได้รับการติดต่อจากผู้บริหารของ อผศ. หรือฝ่ายประชาสัมพันธ์ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องนี้แต่อย่างใด ทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญ และส่งผลกระทบภาพลักษณ์ของ อผศ.โดยตรง  

2. ล่าสุด เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2559 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ได้เดินทางไปที่ อผศ. เพื่อติดต่อขอสัมภาษณ์ นายวันชัย โชติวินิจกุล ผู้ชำนาญการ รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานกิจการเกษตรการอุตสาหกรรมและการบริหาร อผศ. คนในอผศ. เรียกว่า "ผอ."

ซึ่งปรากฎชื่ออยู่ในบันทึกข้อตกลงเช่ายานพาหนะ เครื่องมือ เครื่องจักร ที่ อผศ. ทำรวมกับผู้รับเหมา ในจ.สงขลา ที่เข้าร้องเรียนกับ นายถาวร แต่ไม่ได้รับคำชี้แจงเช่นกัน

พร้อมมีการเรียกเจ้าหน้าที่ รปภ. ให้มานำตัวนักข่าว จากหน้าห้องทำงาน ไปอยู่บริเวณด้านล่างอาคาร อผศ.ด้วย 

น่าสนใจว่า ทำไม อผศ. ถึงไม่ยอมชี้แจงข้อเท็จจริงให้สาธารณชนได้รับทราบว่า อผศ.จ้างช่วงผู้รับเหมา เข้ามารับงานขุดลอกคูคลองจริงหรือไม่? ถ้ามีปัญหาเรื่องนี้เกิดขึ้นจริง จะแก้ไขปัญหาอย่างไร?  ยินยอมให้กระทรวงการคลัง สั่งยกเลิกสิทธิพิเศษ ในการเข้าไปรับงานจากหน่วยงานราชการหรือไม่? 

และที่สำคัญสุด  กลุ่มคนที่ได้รับประโยชน์จากการเรียกเก็บหัวคิวเอกชนที่เข้ามารับงานมีจริงหรือไม่ ถ้ามีจริง อผศ. จะจัดการลงโทษคนกลุ่มนี้อย่างไร 

โดยเฉพาะ กลุ่มบุคคลที่ไปแอบอ้างชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นใบเบิกทาง เข้ามาหากิน เรียกรับผลประโยชน์เก็บเงินหัวคิว ซึ่งทำให้ พล.อ.ประวิตร ต้องเสื่อมเสียจากเรื่องนี้เป็นอย่างมาก

และอาจเป็นช่องโหว่สำคัญ ทำให้ถูก 'ผู้ไม่หวังดี' ใช้เป็นเครื่องมือในการโจมตีการทำงานของรัฐบาลทหารได้ 

ทั้งที่ อผศ. ยุคปัจจุบันอยู่ภายใต้การนำของ พล.อ.รณชัย หรือ บิ๊กมร นักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 16 ซึ่งได้ชื่อว่า เป็นนายทหารคนสนิทของ พล.อ.ประวิตร

แต่ในทางปฏิบัติ ท่าที อผศ. กับนิ่งเงียบแบบผิดสังเกต?

อ่านประกอบ : 

อผศ.เคลียร์เงินครบแล้ว! 'ผู้รับเหมา'ไม่ติดใจร้องเรียนปมจ้างช่วงขุดคลองต่อ

'ถาวร'ปูดผู้รับเหมาร้องอผศ.จ้างช่วงขุดคลอง! อ้างขนเงินจ่ายชั้น6 ให้ผู้ใหญ่20%

เผยมติ คสช.ไฟเขียวราชการจ้าง อผศ. ขุดคลอง หลังรปห.2ด. ก่อนถูกร้องปมหัวคิว

โชว์ชัดๆ หนังสือก.คลัง ชงให้สิทธิพิเศษ อผศ.รับขุดคลองราชการ หลังรปห.2 เดือน