เปิดเอกสาร 2 ‘ผู้รับเหมา’ เทศบาลบางปะอิน มี ‘ผู้สอบบัญชี’ คนเดียวกัน! ก่อนคว้างานปี 57

เปิดเอกสารแบบนำส่ง ‘งบการเงิน’ 2 ผู้รับเหมา เทศบาลบางปะอิน บ.ช่อเพชญฯ - หจก.พี พี ซีฯ มี ‘ผู้สอบบัญชีฯ’ คนเดียวกัน ตั้งแต่ปี 56 ก่อนคว้างานปี 57 ขณะที่ ‘ผู้ถือหุ้นใหญ่’ ชี้แจง เข้าซื้อกิจการห้างฯ เมื่อปี 58 ก่อนหน้าเป็นคู่แข่งกัน

กรณีเทศบาลตำบลบางปะอินได้ออกประกาศ เรื่อง สอบราคาจ้างก่อสร้างปรับปรุงห้องประชุมสภาอาคารสำนักงานเทศบาลใหม่ หมู่ที่ 9 ตำบลบ้านเลน ลงวันที่ 5 ก.ย. 2557 ราคากลาง 500,000 บาท ต่อมา วันที่ 19 ก.ย. 2557 ออกประกาศให้ บริษัท ช่อเพชญโยธาการ จำกัด เป็นผู้ชนะการเสนอราคา พบว่า ผู้เสนอราคา 2 รายจาก 3 ราย คือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) พี พี ซี ก่อสร้าง และ บริษัท ช่อเพชญโยธาการ จำกัด มี กรรมการและผู้ถือหุ้นล่าสุด ปี 2558 ของทั้งสองแห่ง เป็น ‘คนเดียวกัน’ (อ่านประกอบ : รับเหมาห้องประชุมสภาเทศบาลบางปะอิน ‘ผู้ชนะ-คู่เทียบ’ มี ‘กก.-ผู้ถือหุ้น’ คนเดียวกัน)

ต่อมา น.ส.วารุณี รารามนัติ กรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท ช่อเพชญฯ และ หจก.พี พี ซีฯ ชี้แจงต่อผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า เพิ่งซื้อกิจการ หจก.พี พี ซีฯ เมื่อประมาณช่วงปี 2558 ซึ่งเป็นช่วงเวลาหลังจากที่การประกวดราคาของเทศบาล ต.บางปะอิน เสร็จสิ้นไปแล้ว (อ่านประกอบ : ผู้รับเหมาห้องเทศบาลบางปะอินแจงปมนั่ง กก.บ.คู่เทียบ ปี 58 หลังได้งานปี 57)

ล่าสุด จากการตรวจสอบพบว่า 

หนึ่ง ‘แบบนำส่งงบการเงิน’ (แบบ ส.บช.3) บริษัท ช่อเพชญโยธาการ จำกัด รอบปีบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 2556 ที่นำส่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้า วันที่ 25 พ.ย. 2557 พบว่า ผู้ทำบัญชีคือ นายธนกฤษ เครือโลมา ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต คือ ‘น.ส.อรวรรณ สุ่มมาตย์’ ระบุวันที่รับรองงบการเงิน 30 เม.ย. 2557 

ขณะที่ ‘แบบนำส่งงบการเงิน’ (แบบ ส.บช.3) ของ หจก. พี.พี.ซี ก่อสร้าง รอบปีบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.2556 นำส่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้า วันที่ 29 พ.ค.2557 ระบุผู้ทำบัญชีคือ นายจรูญศรี โพธิ์ชัยเลิศ และผู้สอบบัญชีรับอนุญาต คือ ‘น.ส.อรวรรณ สุ่มมาตย์’ (แต่มีรอยขีดทับ) (ดูเอกสารประกอบ) ระบุวันที่รับรองงบการเงิน 21 พ.ค. 2557

และ ‘แบบนำส่งงบการเงิน’ (แบบ ส.บช.3) บริษัท ช่อเพชญโยธาการ จำกัด รอบปีบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 2557 ที่นำส่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้า วันที่ 2 มิ.ย. 2558 พบว่า ผู้ทำบัญชีคือ นายธนกฤษ เครือโลมา ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต คือ ‘น.ส.อรวรรณ สุ่มมาตย์’

ขณะที่ ‘แบบนำส่งงบการเงิน’ (แบบ ส.บช.3) ของ หจก. พี.พี.ซี ก่อสร้าง รอบปีบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 2557 ที่นำส่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้า วันที่ 17 มี.ค. 2558 ผู้ทำบัญชีคือ น.ส.พรธิดา อ่ำทอง และ ผู้สอบสอบบัญชี คือ น.ส.สุกัญญา วงษ์ลคร

สอง จากการตรวจสอบหนังสือบริคณห์สนธิ พบว่า นายธนกฤษ เครือโลมา เป็นผู้ลงลายมือรับรองเป็นพยาน และเป็นผู้รับมอบอำนาจจาก น.ส.วารุณี รารามนัติ ในการยื่นจดทะเบียนจัดตั้ง บริษัท ช่อเพชญโยธาการ จำกัด เมื่อ 17 มิ.ย.2552 และในการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทฯ มี นายสุวัชร ภัทรกุลพงษ์ เป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาต

สาม ในเอกสารการยื่นจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมที่ตั้งสำนักงาน บริษัท ช่อเพชญโยธาการ จำกัด เมื่อ 14 มี.ค. 2557 (ก่อนประกวดราคารับเหมาห้องประชุมสภาเทศบาลบางปะอิน) น.ส.วารุณี รารามนัติ มอบอำนาจให้ นายฉัตรชัย ดาบโกสัย เป็นผู้รับมอบอำนาจยื่นจดทะเบียนต่อนายทะเบียนฯ และมีนายสุวัชร ภัทรกุลพงษ์ เป็นผู้สอบบัญชีฯ ในการยื่นจดทะเบียนเปลี่ยนแปลง ‘ผู้เป็นหุ้นส่วน’ หจก.พี.ซี.ซี ก่อสร้าง เมื่อ 29 ก.ย.2558 (หลังประกวดราคารับเหมาห้องประชุมสภาเทศบาลบางปะอิน) จาก นายใหม่ ยงพลจุลศร เป็น น.ส.วารุณี รารามนัติ (จำนวน 800,000 บาท - 80%) นายใหม่มอบอำนาจให้ นายฉัตรชัย ดาบโกสัย เป็นผู้รับมอบอำนาจยื่นจดทะเบียนต่อนายทะเบียนฯ อีกเช่นกัน และมีนายสุวัชร ภัทรกุลพงษ์ เป็นผู้สอบบัญชีฯ

ทั้งนี้ ผู้เป็นหุ้นส่วนของ หจก.พี.พี.ซี ก่อสร้าง ณ เมื่อ 29 ก.ย.2558 มี น.ส.วารุณี รารามนัติ ลงหุ้นใหญ่ด้วยเงิน 800,000 บาท นางวรรณา แก้วเหมือน จำนวน 200,000 บาท

ก่อนหน้านี้ ในช่วงก่อตั้งเมื่อ 28 พ.ย. 2555 นายใหม่ ยงพลจุลศร (ระบุอายุ 26 ปี) ถือหุ้น 800,000 บาท นางวรรณา แก้วเหมือน จำนวน 200,000 บาท

ส่วน บริษัท ช่อเพชญโยธาการ จำกัด มี น.ส.วารุณี รารามณัติ ถือหุ้นใหญ่และเป็นกรรมการมาตั้งแต่ก่อตั้ง 17 มิ.ย. 2552

นี่คือ ข้อมูลจากเอกสารของนิติบุคคลทั้งสองแห่ง ที่เข้าร่วมเสนอราคารับเหมากับเทศบาลบางปะอิน

และ บริษัท ช่อเพชญโยธาการ จำกัด เป็นผู้ชนะ โดยทำสัญญาวันที่ 26 ก.ย. 2557 (ทั้งสองรายร่วมเสนอราคาอีกหลายโครงการ)

กรณีนี้ น.ส.วารุณี รารามณัติ เข้ามาถือหุ้นใหญ่ หจก.พี.พี.ซี ก่อสร้าง ในช่วงปี 2558 ซึ่งเป็นช่วงหลังทำสัญญา วันที่ 26 ก.ย. 2557 แต่น่าสังเกตว่า ผู้รับเหมาทั้งสองรายใช้ ‘ผู้สอบบัญชี’ คนเดียวกันตั้งแต่ปี 2556

อย่างไรก็ตาม อาจเป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่  ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแต่ละบุคคล ?