มูลนิธิSCGประกาศผล ‘รางวัลศิลปะเพื่อเยาวชนไทย’ 2555

มูลนิธิเอสซีจี ประกาศผล สุดยอดผลงานสร้างสรรค์ ‘รางวัลศิลปะเพื่อเยาวชนไทย’ 2555 แจ้งเกิดยุวศิลปินเลือดใหม่แห่งวงการศิลปะ 6 สาขา พร้อมเปิดนิทรรศการแสดงผลงาน ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป์

มูลนิธิเอสซีจี (SCG Foundation) ประกาศผลเยาวชนผู้ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมและรางวัลดีเด่นของเวทีการประกวดศิลปะระดับเยาวชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ‘รางวัลศิลปะเพื่อเยาวชนไทย’ ประจำปี 2555 หรือ Young Thai Artist Award 2012 พร้อมชวนคนไทยร่วมภาคภูมิใจกับผลงานสุดสร้างสรรค์ของ ยุวศิลปินรุ่นใหม่ไฟแรงที่ผ่านการกลั่นกรองจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิกว่า 60 ท่าน ในนิทรรศการรางวัลศิลปะเพื่อเยาวชนไทย ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ นี้

สุรนุช ธงศิลา กรรมการและผู้จัดการมูลนิธิเอสซีจี กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของโครงการ “ด้วยเชื่อว่ามนุษย์เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าที่สุด มูลนิธิเอสซีจี จึงดำเนินโครงการหลากหลายมิติเพื่อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในทุกช่วงวัย สำหรับวัยเด็กและเยาวชนซึ่งเป็นอนาคตของชาติ นอกจากมูลนิธิฯ จะเพิ่มโอกาสทางการศึกษาและพัฒนาศักยภาพด้านการเรียนของเด็กและเยาวชนแล้ว ยังส่งเสริมความสามารถด้านอื่นๆ ของเยาวชนควบคู่กันไปด้วยโดยเฉพาะความสามารถด้านศิลปะ จึงเป็นที่มาเวทีการประกวดศิลปะระดับเยาวชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ‘โครงการศิลปะเพื่อเยาวชนไทย’ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ Young Thai Artist Award ซึ่งรวบรวมการประกวดศิลปะถึง 6 สาขาเข้าไว้ในเวทีเดียวกัน ได้แก่ ศิลปะ 2 มิติ, ศิลปะ 3 มิติ, ภาพถ่าย, ภาพยนตร์, วรรณกรรม และการประพันธ์ดนตรี โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศที่เปิดสอนด้านศิลปะ” ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา มูลนิธิฯ ดำเนินโครงการรางวัลศิลปะเพื่อเยาวชนไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อเปิดพื้นที่ให้เยาวชนที่มีใจรักศิลปะและมีความมุ่งมั่น ทุ่มเท ได้แสดงความความสามารถ ประชันฝีมือ สร้างสรรค์ผลงานอย่างหลากหลาย โดยผลงานที่ผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มข้นจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและเชี่ยวชาญด้านศิลปะ ซึ่งประกอบด้วยศิลปินแห่งชาติ ศิลปินชั้นเยี่ยม กว่า 70 ท่าน ล้วนได้รับการได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในแวดวงศิลปะว่ามีคุณภาพโดดเด่น ในปีนี้มีผลงานที่ผ่านการคัดเลือกเข้ารอบสุดท้ายจำนวน 35 ท่าน ทุกชิ้นงานเต็มเปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ สำหรับผลงานที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมทั้ง 6 สาขา ประจำปี 2555 มี ดังนี้

ศิลปะ 2 มิติ (Two-Dimensional Art) ได้แก่ “พูดและฟัง” 

โดย นางสาวณภัทร ปิยะวงศ์วัฒนา คณะจิตรกรรมประติกรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร

ศิลปะ 3 มิติ (Three-Dimension Art) ได้แก่ “อสุภสัญญา"

โดย นายไกรวุฒิ ปัญญาไว คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ภาพถ่าย (Photography) ได้แก่ "เสื่อมสลาย”

โดย นางสาวสุดารัตน์ วงนางาม คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

ภาพยนตร์ (Film) ได้แก่ “Battle” 

โดย นายไท ประดิษฐเกษร คณะนิเทศศาสตร์ ภาพยนตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

วรรณกรรม (Literature) ได้แก่ “ความตายในเดือนรอมฎอน” 

โดย นางสาวอุมมีสาลาม อุมาร คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี 

และการประพันธ์ดนตรี (Music Composition) ได้แก่ “ชุดประดาน้ำและผีเสื้อ”

โดย วิวรรธน์ สุทธิแย้ม วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล

Young Thai Artist Award เปรียบเสมือนประตูบานแรกของน้องๆ เยาวชนคนรักศิลปะ ที่ช่วยเปิด โลกทัศน์ทำให้มองเห็นมุมมองที่แตกต่าง ได้พบเห็นผลงานแปลกใหม่จากเพื่อนหลากหลายสถาบันทั่วประเทศ โดยผู้รับรางวัลยอดเยี่ยมของแต่ละสาขานอกจากจะได้รับเงินรางวัล 150,000 บาทแล้ว ยังได้ร่วมเดินทางไปทัศนศึกษาต่างประเทศ เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ หาแรงบันดาลใจ เพิ่มพูนความรู้ใหม่ในการรังสรรค์ผลงานศิลปะ ส่วนผู้ได้รับรางวัลดีเด่นจะได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท รวมมูลค่ารางวัลทั้งสิ้นกว่า 2.4 ล้านบาท 

กรรมการสาขาศิลปะ 2 มิติ ได้ให้ความเห็นถึงผลงานยอดเยี่ยมว่า “ผลงานชิ้นนี้มีความโดดเด่นในการสะท้อนความรู้สึกและแนวคิดของศิลปินออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม เมื่อมองกลับไปที่แนวความคิดนั้น ตัวศิลปินเคยได้รับอุบัติเหตุในวัยเด็กจนทำให้สูญเสียการได้ยินไปจากหูข้างหนึ่ง ซึ่งความพิการนี้อาจลุกลามทำให้เป็นคนหูหนวกได้หากไม่ได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี ภายใต้ความรู้สึกหวาดกลัวที่จะสูญเสียนั้นได้ถูกสะท้อนออกมาเป็นเสียงร้องเรียกที่ทำให้เราสัมผัสได้ว่าศิลปินต้องการที่จะเรียกร้องการได้ยินเพื่อเติมเต็มชีวิตของเขาให้สมบูรณ์ และสิ่งเดียวที่สามารถแสดงออกมาได้ คือจินตนาการที่เขาสร้างสรรค์อย่างทรงพลังในผลงานภาพพิมพ์ชิ้นนี้” กรรมการสาขาศิลปะ 3 มิติ ได้ให้ความเห็นถึงผลงานยอดเยี่ยมว่า “ผลงานชิ้นนี้ ชื่อ ‘อสุภสัญญา’ เป็นผลงานที่สะท้อนอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิดในเนื้อหาชีวิตที่เกิดขึ้น อยู่ และดับไป ได้อย่างตรงไปตรงมา ความรู้สึกของผลงานที่ให้การปะทะต่อการมองเห็นในครั้งแรก ความสด ความชัดเจน ในการสื่อสารทางเทคนิคเชื่อมเหล็กที่สะท้อนแง่มุมทางพุทธธรรม ซึ่งว่าด้วยกฏแห่งธรรมชาติในชีวิตของมนุษย์ ‘อสุภสัญญา’ มีลักษณะเฉพาะตัวที่เด่นชัดในการแสดงออก และใช้เทคนิคที่สอดคล้องกับเนื้อหาที่แสดงออกซึ่งสะท้อนให้เห็นอารมณ์ในความไม่เที่ยง ความทุกข์ อนัตตา ที่เป็นไปในความเสื่อมของสังขารชีวิตได้อย่างดีเยี่ยม มากไปกว่านั้นยังเป็นผลงานประติมากรรมที่สามารถสร้างความสัมพันธ์ต่อเนื่องกันในรูปทรงได้อย่างสมบูรณ์”

กรรมการสาขาภาพถ่าย ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับผลงานยอดเยี่ยมว่า ภาพ “เสื่อมสลาย” ของนางสาวสุดารัตน์ วงนางาม เป็นภาพที่สมควรได้รับรางวัลยอดเยี่ยมสาขาภาพถ่าย เนื่องจากมีความคิดและการสื่อความหมายที่ชัดเจน ความพิเศษและลักษณะเด่นของงานอยู่ที่วิธีเสนอภาพถ่ายในลักษณะที่แปลกใหม่ ศิลปินนำวิธีการจักรสานอันเป็นภูมิปัญญาของท้องถิ่นอีสานมาเป็นเทคนิคในการสานร้อยภาพถ่ายของผู้เฒ่าผู้แก่ให้เป็นภาพในลักษณะของดิจิตอลในเชิงสัญลักษณ์ แสดงความเสื่อมสลายไปตามวัยและการเวลา นอกจากนี้สาระในงานยังสะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้งระหว่างความเจริญทางเทคโนโลยีและความเป็นพื้นบ้านที่สามารถอยู่ด้วยกันได้อย่างกลมกลืนและมีความหมาย ภาพผลงานโดยรวมให้ผลกระทบทางสายตาและผลกระทบทางจิตวิทยา ผู้ชมงานต้องใช้สมาธิในการดูงานเช่นเดียวกับศิลปินใช้สมาธิในการสร้างสรรค์ผลงาน รวมถึงการเสนอแง่คิด ผ่านภาษาของศิลปะภาพถ่ายด้วย”

กรรมการสาขาภาพยนตร์ ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับผลงานยอดเยี่ยมว่า “ไอเดียดีให้แง่คิด สามารถสื่อสารและเล่าเรื่องจากแนวคิดมาเป็นสื่อภาพยนตร์ได้อย่างชัดเจน เนื้อหาสะท้อนสภาพของสังคมปัจจุบันผ่าน ตัวละครที่เป็นพระหนุ่มและพระชรา แม้จะแตกต่างกันในวิธีการเทศนาและการใช้เครื่องมือการสื่อ แต่ท้ายที่สุดเนื้อหาของการเทศนาก็เหมือนกันคือคำสั่งสอนของพระพุทธศาสนา และความต่างในเรื่องอายุก็ไม่เป็นปัญหา หากมีการสื่อสารพูดจากันได้ ผู้สร้างภาพยนตร์เรื่องนี้มีความละเอียดและปราณีตกับการทำงานมาก มีการใช้สัญลักษณ์ที่เข้าใจได้ง่ายในภาพยนตร์”

กรรมการสาขาวรรณกรรม ได้ให้ความเห็นถึงผลงานยอดเยี่ยมว่า “เป็นเรื่องสั้นที่พูดถึงชีวิตของมุสลิมในแผ่นดินเดือด มีชั้นเชิงในการนำเสนอเรื่องราวและศิลปะในการถ่ายทอดให้เห็นบรรยากาศของเรื่อง รวมทั้งบรรยายให้เห็นภาพได้อย่างสุดวิเศษ สะท้อนด้านลึกของปรากฏการณ์ในชีวิต เนื้อหาร้อยเรียงกลมกลืนเป็นเอกภาพ ทำให้ผู้อ่านเกิดความเข้าอกเข้าใจในวัฒนธรรมของพี่น้องมุสลิม มองเห็นระเบียบวิธีคิดและวิถีชีวิตด้วย นอกจากนั้นผู้อ่านจะได้สัมผัสพื้นฐานแห่งพลังศรัทธาซึ่งจะนำไปสู่ความสุขที่แท้จริง”

สาขาสุดท้ายกรรมการสาขาการประพันธ์ดนตรี ได้ให้ความเห็นถึงผลงานยอดเยี่ยมว่า “ไม่เพียงแค่เป็นงานประพันธ์ที่แสดงออกถึงความเป็นเลิศด้านเทคนิค แต่ยังได้ถ่ายทอดความรู้สึกของงานวรรณกรรมที่เป็นแรงบันดาลใจจนได้งานเสียงที่มีความงดงามดังบทกวี แสดงให้เห็นถึงความต้องการของผู้ประพันธ์ในการถ่ายทอดความรู้สึกอย่างจริงใจมากกว่าการประพันธ์เพื่อการแข่งขันเท่านั้น” มูลนิธิเอสซีจี มุ่งมั่นส่งเสริมความสามารถของเยาวชนไทย ด้วยเชื่อมั่นในศักยภาพ และเห็นถึงพลังสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ที่บ่มเพาะประสบการณ์จากรั้วมหาวิทยาลัยก่อนที่จะเติบโตมาเป็นมืออาชีพในสายงานสร้างสรรค์ของตัวเอง โครงการรางวัลศิลปะเพื่อเยาวชนไทยจึงเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้เยาวชนผู้มีความมุ่งมั่นตั้งใจไม่หยุดยั้งสร้างสรรค์ผลงานศิลปะออกสู่สาธารณชน รวมถึงสร้างความตื่นตัวให้สังคมเกิดความซาบซึ้งกับคุณค่าของงานศิลปะและชื่นชมฝีมือของเยาวชนไทย อีกทั้งยังเป็นการยกระดับวงการศิลปะในประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับสากลมากขึ้น

และเพื่อเป็นเกียรติประวัติและเผยแพร่ความสามารถสุดยอดผลงานศิลปะสร้างสรรค์ด้านทัศนศิลป์ วรรณศิลป์ และคีตศิลป์ทั้ง 6 สาขาของเยาวชนไทยให้ประชาชน ได้ร่วมชื่นชม มูลนิธิเอสซีจีจึงจัดแสดงนิทรรศการผลงานยอดเยี่ยมและผลงานดีเด่นรางวัลศิลปะเพื่อเยาวชนไทย 2555 ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป (หอศิลปเจ้าฟ้า) กรุงเทพฯ ผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมนิทรรศการ “รางวัลศิลปะเพื่อเยาวชนไทย 2555” (Young Thai Artist Award 2012) ตั้งแต่วันนี้ - 28 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 9.00 – 16.00 น. ณ ห้องนิทรรศการ 5 – 8 พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป ถนนเจ้าฟ้า (หยุดวันจันทร์ วันอังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์) สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ มูลนิธิเอสซีจี โทร             0 2586 5214 , 0 2586 5506 หรือ www.scgfoundation.org และร่วมติดตามความคืบหน้าได้ที่ www.facebook.com/YoungThaiArtistAward