ได้เงิน1.9 พันล.จากธุรกิจอื่น-ย้ายที่อยู่ไปแล้ว!เผยโฉม บ.หีบบัตรกกต.เชียงใหม่คดีม.44ล็อต9

เผยโฉม! ‘บ.ซอลิแทร์ฯ’ คู่สัญญาพิมพ์คู่มือ-หีบบัตร กกต.เชียงใหม่ วิธีพิเศษ ช่วงหลังยิ่งลักษณ์ ประกาศบุยสภาฯ เลือกตั้งใหม่ปี 57  ใช้บ้าน 2 ชั้น ทำออฟฟิศพร้อมโกดังย่านเพชรเกษม 67 คนในเผยเจ้าของอายุ 70 ปี มีประสบการณ์รับจ้างทำงานนับสิบปี ยันรายได้ 1.9 พันล. ปี 56 จากธุรกิจตัวอื่น ปัจจุบันย้ายอยู่ที่ใหม่แล้ว เผยปมถูก ‘สรรพากร’ ไล่บี้สอบภาษีฯ แล้ว อยู่ระหว่างชี้แจง

รายได้จากการทำธุรกิจปี 56 วงเงินกว่า 1.9 พันล้านบาท มาจากไหน? รายได้ดีขนาดนี้ทำไมต้องแจ้งเลิกกิจการ?

คือเงื่อนปมปริศนาสำคัญ ที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบ หลังขยายผลการตรวจสอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กรณี นายสุชาติ ใจภักดี อดีตผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำ จ.เชียงใหม่ (ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำ จ.เพชรบูรณ์) และ นายกฤษเรศ วังทะพันธ์ อดีตรองผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำ จ.เชียงใหม่ (ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำ จ.แม่ฮ่องสอน) ซึ่งปรากฏชื่ออยู่ในกลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐ 70 ราย ที่ถูก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ลงนามในคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 35/2560 เรื่อง ประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบเพิ่มเติม ครั้งที่ 9 ระงับการปฏิบัติราชการหรือหน้าที่เป็นการชั่วคราว เพื่อเข้าสู่กระบวนการตั้งคณะกรรมการสอบสวนจากหน่วยงานตนสังกัด อันเป็นผลมาจากถูก สตง.  ตรวจสอบพบปัญหาการจัดจ้างพิมพ์คู่มือกรรมการหน่วยเลือกตั้ง และจัดทำหีบบัตรด้วยวิธีพิเศษ ที่มีลักษณะเอื้อประโยชน์ให้เอกชนผู้ชนะ โดยจากการตรวจสอบข้อมูล บริษัท ซอลิแทร์ ออฟฟิซิน จำกัด ซึ่งปรากฏชื่อเป็นคู่สัญญาจัดจ้างพิมพ์คู่มือกรรมการหน่วยเลือกตั้งและจัดทำหีบบัตร ด้วยวิธีพิเศษ ของสำนักงาน กกต. ประจำจังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงปี 2557 หลังจากที่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศยุบสภาให้การเลือกตั้งใหม่ พบว่า ล่าสุดบริษัทฯ ได้จดทะเบียนเลิก ซึ่งนายทะเบียนได้รับจดทะเบียนไว้แล้ว เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2560 และขณะนี้ยังไม่ได้จดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี

ทั้งที่ ในช่วงปี 2556 บริษัทฯ นำส่งงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจ ที่นำส่งให้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ณ 25 ธันวาคม 2556 แจ้งว่า มีรายได้รวม 1,932,632,025.44 บาท แยกเป็น รายได้จากการขาย 1,932,631,606.58 บาท รายได้อื่น 418.86 บาท รวมรายจ่าย 1,930,827,797.31 บาท กำไรสุทธิ 1,384,276.94 บาท(อ่านประกอบ : โชว์รายได้1.9พันล.ก่อนแจ้งเลิกกิจการ!เปิดตัวบ.รับจ้างพิมพ์หีบบัตรกกต.เชียงใหม่คดีม.44, ข้องใจรายได้1.9พันล.แต่เลิกกิจการ!สตง.สั่งสอบบ.พิมพ์หีบบัตรกกต.เชียงใหม่คดีม.44เพิ่ม)

ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูล บริษัท ซอลิแทร์ ออฟฟิซิน จำกัด ตามที่แจ้งต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า คือ เลขที่ 1 ซ.เพชรเกษม 67 ถ.เพชรเกษม แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพมหานคร หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ได้พยายามติดตามผ่านทางเบอร์โทรศัพท์ของบริษัทฯ ที่แจ้งไว้ในเว็บไซต์สมุดหน้าเหลือง (http://www.yellowpages.co.th/profile/522432710097001) คือหมายเลข 02-809-2401-2 เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริงหลายครั้ง แต่ไม่มีผู้รับสาย

เมื่อเดินทางไปถึงพบว่า ที่ตั้งบริษัทฯ มีลักษณะเป็นบ้าน 2 ชั้น ทำเป็นออฟฟิศ ภายในมีรถยนต์จอดอยู่ 1 คัน และจักรยานยนตร์จำนวนหนึ่ง มีโกดังขนาดใหญ่สำหรับเก็บของอยู่ติดกัน ปรากฏเลขที่ตั้ง 392 แต่ไม่ปรากฏป้ายชื่อบริษัทดังกล่าว แต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เข้าไปติดต่อพนักงานบริษัทฯ รายหนึ่ง เพื่อขอสัมภาษณ์ นายสุจินต์ สว่างอารมณ์ กรรรมการผู้มีอำนาจและผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทฯ

พนักงานบริษัทฯ รายนี้ ยันยืนว่า ที่อยู่แห่งนี้ เคยเป็นที่ตั้งของบริษัท ซอลิแทร์ ออฟฟิซินฯ จริง แต่ย้ายออกไปแล้ว ไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว ไม่ทราบอยู่ที่ไหน พร้อมระบุให้ผู้สื่อข่าวรอครู่หนึ่ง ก่อนเชิญไปพบกับผู้ชายคนหนึ่ง ชื่อ นายชาย สุวรรณเกต (ดูภาพประกอบ)

นายชายกล่าวว่า ปัจจุบัน นายสุจินต์ อายุ 70 กว่าปีแล้ว จึงขอรับเรื่องแทน ซึ่งได้ข่าวมาว่าหน่วยงานราชการจะเข้ามาติดต่อบริษัทฯ แต่ไม่แน่ใจว่า กกต. หรือฝ่ายตรวจสอบของ กกต. จะเข้ามาติดต่อกับนายสุจินต์ ซึ่งก็นานหลายเดือนแล้ว ตั้งแต่บริษัท ซอลิแทร์ฯ ยังไม่ย้ายออกไป น่าจะประมาณ 3-4 เดือนแล้วที่จะเข้ามาขอข้อมูล และเงียบหายไป ก็มีโทรเข้ามาถามว่ามีใครเข้ามาหรือยัง แต่ก็ยังไม่มีใครเข้ามา

ผู้สื่อข่าวถามว่า บริษัท ซอลิแทร์ฯ ย้ายไปอยู่ที่ไหน และจะติดต่อได้อย่างไรบ้าง นายชายกล่าวว่า “บริษัทฯ ย้ายไปอยู่อีกที่หนึ่ง แต่ก็ยังสามารถติดต่อได้”

ผู้สื่อข่าวถามว่าบริษัท ซอลิแทร์ฯ เข้าไปรับงานกับ กกต. ได้อย่างไร นายชายกล่าวว่า “จริง ๆ บริษัทฯ รับทำงานกับทั้งท้องถิ่นและจังหวัด เราทำงานกับราชการอยู่แล้ว รับทำงานกับ กกต. มาเป็นสิบ ๆ ปีแล้ว และมีอีกหลายสิบบริษัทที่ทำงานอยู่กับทาง กกต.”

ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดเมื่อ มี.ค.ที่ผ่านมา บริษัท ซอลิแทร์ฯ จึงแจ้งจดทะเบียนเลิก นายชายกล่าว่า เนื่องจากต้องการเพิ่มทุนจดทะเบียนเพื่อให้สามารถรับงานได้มากขึ้น

เมื่อถามว่า ในช่วงปี 2556 ไม่ปรากฏข้อมูลว่าบริษัทฯ เป็นคู่สัญญารับจ้างงานจากหน่วยงานรัฐ แต่บริษัทฯ กลับระบุรายได้จำนวน 1.9 พันล้านบาท รายได้ส่วนนี้ มาจากไหน นายชายยืนยันว่า “เป็นรายได้จากธุรกิจตัวอื่น ไม่ได้ทำอย่างเดียว มีหลายอย่าง พวกส่งออก อะไรพวกนี้ ทำไมสื่อต้องเจาะไปถึงงบการเงินของ บริษัทฯ ด้วย”

เมื่อถามว่า  ล่าสุด บริษัทฯ ถูกกรมสรรพากรตรวจสอบภาษีอากร และสั่งระงับการจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี บริษัทฯ ได้ชี้แจงต่อกรมสรรพากรแล้วหรือไม่ นายชายกล่าวว่า “ทราบแล้ว อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการ พนักงานน่าจะเข้าไปชี้แจงแล้ว รายละเอียดลึกๆ ผมยังไม่ทราบ”

ทั้งหมดคือ ข้อมูลที่ตั้งสำนักงาน และสภาพปัจจุบันของ บริษัท ซอลิแทร์ฯ ที่ปรากฎชื่อเป็นคู่สัญญาจัดจ้างพิมพ์คู่มือกรรมการหน่วยเลือกตั้งและจัดทำหีบบัตร ด้วยวิธีพิเศษ ของสำนักงาน กกต. ประจำจังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงปี 2557 ภายหลังจากที่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศยุบสภาให้การเลือกตั้งใหม่  

ขณะที่สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบข้อสังเกตว่า  นับตั้งแต่จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อปี 2549 จนถึงปี 2553 บริษัทฯ มีรายได้อยู่ที่หลักสิบล้านบาท ก่อนที่ในช่วงปี 2554 จะแจ้งรายได้อยู่ที่ 123,384,316.11 บาท และขึ้นไปอยู่ที่ตัวเลข1,932,632,025.44 บาท (ช่วงรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์) ก่อนที่จะปรับลดลงมาอยู่ที่ 38,859,312.55 บาท ในปี 2557 และไม่ได้นำส่งงบการเงินอีก ในช่วงปี 2558-2559 (ช่วงการบริหารงานรัฐบาลคสช.) ก่อนจะแจ้งเลิกบริษัทไปในช่วงต้นปี 2560 ขณะที่ทุกปีบริษัทฯ มีผลกำไรอยู่แค่หลักแสนหรือหลักล้านบาทเศษๆ เท่านั้น

ขณะที่ฐานข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างหน่วยงานภาครัฐ ระบุว่า  นับตั้งแต่ปี 2549 -2557 บริษัท ซอลิแทร์ ออฟฟิซิน จำกัด ปรากฎชื่อเป็นคู่สัญญาหน่วยงานรัฐ จำนวน 9 สัญญา 17,069,240 บาท เท่านั้น งานส่วนใหญ่รับจ้างพิมพ์หีบบัตรและคูหาเลือกตั้ง ของสำนักงานกกต. ขณะที่ในช่วงปี 2556 ไม่ปรากฎข้อมูลว่าเป็นคู่สัญญารับจ้างงานจากหน่วยงานรัฐแต่อย่างใด 

และกำลังอยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบทั้งจาก สตง. ป.ป.ช. และกรมสรรพากรอยู่ในขณะนี้ 

อ่านประกอบ : 

รายได้พุ่งพรวด1.9พันล.ช่วงรบ.ยิ่งลักษณ์!แกะรอยบ.หีบบัตร กกต.เชียงใหม่ - สรรพากรบี้สอบภาษี

โชว์รายได้1.9พันล.ก่อนแจ้งเลิกกิจการ!เปิดตัวบ.รับจ้างพิมพ์หีบบัตรกกต.เชียงใหม่คดีม.44 

ข้องใจรายได้1.9พันล.แต่เลิกกิจการ!สตง.สั่งสอบบ.พิมพ์หีบบัตรกกต.เชียงใหม่คดีม.44เพิ่ม  

กปปส.ล้อมปิดส่งคู่มือหีบลต.ไม่ได้!คนกกต.เผยเหตุ2ผอ.เชียงใหม่โดนม.44-ไร้ทุจริตล้าน% 

ฉบับเต็ม!ผลสอบ สตง.คดี2ผอ.กกต. จ้างพิมพ์คู่มือ-หีบ ลต.สมัยอยู่เชียงใหม่ ก่อนถูก ม.44ล็อต9