'มิตติ'โอนหุ้นให้ถือแทน หลังยืมเงินทำสนามบอล5ล.!ธีระชัยแจงปมชื่อโผล่บ.เชียงรายยูไนเต็ดฯ

'ธีระชัย รัตนกมลพร' เจ้าของบมจ.ดิทโต้ มาเองถึงสำนักข่าวอิศรา ติดต่อขอแจงปมโผล่ชื่อถือหุ้นใหญ่บ.เชียงราย ยูไนเต็ด คลับ เผยที่มาให้เงินยืมช่วยพัฒนาสนามฟุตบอล 5 ล. 'มิตติ ติยะไพรัช' เพื่อนน้องชายเกรงใจ เลยโอนหุ้นมาให้ถือครองเป็นหลักประกันใช้หนี้ แต่ไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวการบริหารงาน ปัดสายสัมพันธ์ลึกลูกน้องเสี่ยกำพล โผล่ชื่อเข้าถือหุ้นพร้อมกัน ยันทำธุรกิจโปร่งใส เตรียมโอนหุ้นคืนหมดแล้ว  

สืบเนื่องจากสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท เชียงราย ยูไนเต็ด คลับ จำกัด ที่ดูแลบริหารจัดการทีมฟุตบอลสโมสร สิงห์เชียงราย ยูไนเต็ด พบว่า นายธีระชัย รัตนกมลพร กรรมการ และผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) (มหาชน) ที่ทำธุรกิจจำหน่ายและให้บริการด้านเครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องพิมพ์ และระบบจัดการเอกสารครบวงจร  ปรากฎชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ แทน นายมิตติ ติยะไพรัช ประธานสโมสรฟุตบอล (อ่านประกอบ : ขุมธุรกิจ'ธีระชัย'หุ้นใหญ่เชียงรายยูไนเต็ด-โกยงานเช่าเครื่องถ่ายรัฐ247ล.-อดีตบิ๊กตร.นั่งกก.,  ละเอียดยิบ!เส้นทาง'บ.เชียงรายยูไนเต็ดฯ'ก่อน'ธีระชัย'โผล่หุ้นใหญ่-คนใกล้ชิดลูกเสี่ยกำพล เคยนั่งกก.ด้วย?) 

ล่าสุดในช่วงสายวันที่ 26 ม.ค.2561 นายธีระชัย รัตนกมลพร ได้เดินทางมาที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org เพื่อติดต่อชี้แจงข้อเท็จจริงการปรากฎชื่อเข้าไปถือหุ้นบริษัท เชียงราย ยูไนเต็ด คลับ จำกัด ด้วยตนเอง โดยยืนยันว่า ตนรู้จักกับนายมิตติ ติยะไพรัช เพราะเป็นเพื่อนของน้องชาย ทั้งสองมีความตั้งใจที่จะทำทีมฟุตบอลให้ประสบความสำเร็จ เลยมาปรึกษาตนเพื่อขอยืมเงินไปลงทุนพัฒนาสนามฟุตบอลให้ทันสมัย ผ่านมาตรฐานการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตนเห็นว่ามีความตั้งใจจริง จึงได้ให้ยืมเงินไป

"ผมให้เงินฮั่น (นายมิตติ ติยะไพรัช)ยืมไปประมาณ 5 ล้านบาท เท่ากับทุนจดทะเบียนบริษัท เชียงรายฯ โดยไม่ได้คิดดอกเบี้ยอะไร เพราะอยากช่วยสนับสนุนเขา เพราะเห็นว่าเป็นคนที่ชอบฟุตบอลมาก และตั้งใจทำงานจริงๆ แต่ฮั่นเขาก็เกรงใจ เลยโอนหุ้นของเขามาให้ผมถือไว้ทั้งหมดเป็นหลักประกันการให้ยืมเงินครั้งนี้ และนั้นก็เป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงปรากฎชื่อเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ตามที่อิศราไปตรวจสอบพบ"

นายธีระชัย ยังยืนยันว่า ในช่วงที่เข้าไปถือหุ้นใหญ่บริษัท เชียงรายฯ ไม่ได้มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องเรื่องการบริหารทีมฟุตบอลแต่อย่างใด

เมื่อถามว่า รู้จักนายธิติพัฒน์ ธิติพันธุ์ คนสนิท นายกำพล วิระเทพสุภรณ์ ผู้ต้องหาในคดีค้ามนุษย์ กรณี'วิคตอเรียซีเคร็ท'หรือไม่ เพราะเข้ามาปรากฎชื่อเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท เชียงรายฯ  พร้อมกัน และต่อมายังได้รับโอนหุ้นจำนวน 2พันหุ้น ของ นายธิติพัฒน์ ด้วย

นายธีระชัย ชี้แจงว่า ตนก็เพิ่งทราบว่า ได้รับโอนหุ้นจำนวน 2,000 หุ้น ต่อจากนายธิติพัฒน์ (เดิมนายธีระชัย ปรากฎชื่อถือหุ้นอยู่จำนวน 44,000 หุ้น ต่อมาได้รับโอนหุ้นต่อจากนายธิติพัฒน์ ธิติพันธุ์ ที่เข้ามาเป็นกรรมการและถือหุ้นบริษัทอยู่ 2,000 หุ้น ทำให้มีหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 46,000 หุ้น)   จากข้อมูลที่สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบเหมือนกัน ซึ่งจากการสอบถามไปยังนายมิตติ ติยะไพรัช ก็ได้รับคำชี้แจงว่า นายธิติพัฒน์ ธิติพันธุ์ เป็นเพื่อนของ นายธนพล วิระเทพสุภรณ์ (บุตรชายนายกำพล) อดีตรองประธานสโมสร สิงห์เชียงราย ยูไนเต็ด ที่ลาออกไป เข้ามาเสนอตัวว่าอยากจะทำทีมฟุตบอลด้วย และขอเข้ามาถือหุ้นด้วยจำนวน 2,000 หุ้น แต่ยังไม่ได้มีการชำระเงินค่าหุ้นอะไร แต่พอทำไปได้ไม่นาน ก็ไม่สามารถทำงานเรื่องการพัฒนาทีมตามที่พูดคุยไว้ได้ นายมิตติ ก็เลยเอาหุ้นคืนกลับมา แล้วโอนหุ้นจำนวนนี้มาไว้ที่ตนแทนอีกครั้ง 

"ผมไม่ได้รู้จัก สนิทสนม หรือทำธุรกิจอะไรร่วมกับ นายธิติพัฒน์  ส่วนนายกำพล ก็ไม่เคยทำธุรกิจอะไรร่วมกัน และที่มีข่าวก่อนหน้านี้ ว่าเคยปรากฎชื่อเป็นหนึ่งในบุคคล ที่ได้รับการเสนอขายหุ้นในราคาหุ้นละ 1 บาท (เป็นการขายให้กับบุคคลในวงจํากัด (Private Placement)) จาก บริษัท อควา คอร์เปอเรชัน จํากัด (มหาชน) นั้น เพราะมีคนเสนอชื่อไป แต่ผมเป็นฝ่ายปฏิเสธไม่รับไปเอง " 

นายธีระชัย ยังกล่าวต่อไปว่า เหตุผลที่ต้องเข้าชี้แจงกับสำนักข่าวอิศราครั้งนี้ เพราะต้องการให้สาธารณชนรับทราบข้อเท็จจริงทั้งหมด พูดกันตรงไปตรงมาไม่มีอะไรปิดบัง และไม่ต้องการที่ถูกโยงเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องคดีความอะไรที่ปรากฎเป็นข่าวดังอยู่ตอนนี้ด้วย เนื่องจากไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรด้วย ซึ่งที่ผ่านมาก็ทำธุรกิจปกติ ตั้งใจทำงานให้ธุรกิจของตนเองประสบความสำเร็จเท่านั้น 

นายธีระชัย ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับการถือหุ้นใหญ่ในบริษัท  เชียงรายฯ นั้น ล่าสุด ได้พูดคุยกับ นายมิตติ ติยะไพรัช แล้ว ว่าจะโอนหุ้นทั้งหมดคืนกลับไปให้นายมิตติ ตามเดิม ส่วนนายมิตติจะคืนเงินที่ยืมไปเมื่อไรก็ค่อยว่ากันในอนาคต ตนไม่ได้ติดขัดปัญหาอะไรในเรื่องนั้น เพราะวัตถุประสงค์ในการให้ยืมเงินไป คือ การช่วยสนับสนุนการพัฒนาทีมฟุตบอลให้ประสบความสำเร็จเท่านั้น