อ้างติดประชุมก่อนหายเงียบ! 'ระนองรักษ์-ผู้ว่าฯโคราช-สถ.'ยังไม่แจงปมใช้เงินสะสมทำถนนยาง440ล.

'อิศรา'  ตามขอสัมภาษณ์ ผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกรณี อบจ.โคราช สบช่องใช้เงินสะสมอปท.ทำถนนยางพารา ชงเรื่องอนุมัติพรวด 240 โครงการ 440 ล้าน แต่ไม่สามารถติดต่อได้ เลขาฯ ระนองรักษ์  อ้างเจ้านายติดประชุมก่อนหายเงียบ เช่นเดียวกับผู้ว่าฯ วิเชียร ส่วนอธิบดี สถ. บอกมาประชุมที่กรมควบคุมมลพิษ แต่พอตามมาดักรอ กับไม่มีใครทราบกำหนดการนัดหมาย-เผย สตง. ป.ป.ช. ป.ป.ท. เตรียมลุยเปิดสอบทางการ 22 มี.ค.นี้ 

จากกรณีสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบข้อมูลว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครราชสีมา อาศัยข้ออ้างนโยบายของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) กระทรวงมหาดไทย ที่กำหนดนโยบายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) สามารถนำเงินสะสมของอปท.ออกมาใช้จ่ายในกรณีการจัดทำโครงสร้างพื้นฐานของประเทศได้ โดยเฉพาะการทำถนนที่กำหนดให้ใช้ส่วนผสมของยางพาราด้วย ในลักษณะเร่งรีบทำเรื่องขออนุมัติจ่ายเงินสะสมจำนวนกว่า 440 ล้านบาท หรือคิดเป็น100% ของเงินสะสมที่มีอยู่ทั้งหมด มาทำโครงการถนนยางพารา จำนวน 240 โครงการ พร้อมกันทันที

โดยมีการกำหนดมูลค่างานในโครงการให้มีวงเงินไม่เกิน 2 ล้านบาทจำนวนมาก เพื่อให้สามารถใช้วิธีการสอบราคาผู้รับเหมาได้ และเร่งรัดการดำเนินการจัดซื้อจ้างให้แล้ว เสร็จภายในวันที่ 20 เม.ย.2561 ทั้งที่ ตามนโยบายของกรมส่งเสริมฯ กำหนดว่าในช่วงหลังพ้นวันที่ 20 เม.ย.2561 ยังคงสามารถดำเนินการตามนโยบายเรื่องยางพาราได้ แต่ต้องใช้วิธีการจัดซื้อจัดจ้างปกติที่กำหนดไว้ในระเบียบราชการ

ขณะที่ ภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชัน จังหวัดนครราชสีมา ได้ทำหนังสือเป็นทางการถึง พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อแสดงความห่วงใยต่อปัญหาเรื่องนี้ และขอให้สั่งการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เข้ามาตรวจสอบโดยด่วนแล้ว (อ่านประกอบ : อบจ.โคราช สบช่อง สถ. ปล่อยผีใช้เงินสะสมเกลี้ยงคลังซอยงบทำถนนยาง440ล.-จี้บิ๊กตู่สอบด่วน , วอนบิ๊กตู่ช่วยด้วย! ฉบับเต็มภาคีต้านคอร์รัปชัน ชำแหละอบจ.โคราชถลุงเงินสะสมทำถนนยาง440ล.)

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ตลอดทั้งวันที่ 21 มี.ค.2561 ได้พยายามติดต่อผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรื่องนี้ให้ ชี้แจงข้อเท็จจริง ทั้งอบจ.นครราชสีมา ผู้ว่าราชการจังหวัด อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น แต่ไม่สามารถติดต่อได้แม้แต่รายเดียว

โดยในช่วงสาย วันที่ 21 มี.ค. 2561 ได้ติดต่อไปยัง ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี นายกอบจ.นครราชสีมา เพื่อชี้แจ้งกรณีดังกล่าว แต่ได้รับการแจ้งจากเจ้าหน้าที่หน้าห้องนายกอบจ.ฯ ว่า นายกอบจ.ฯ ติดประชุม ให้ติดต่อไปอีกครั้งในช่วงบ่าย เมื่อสำนักข่าวอิศราติดต่อไปอีกครั้งในเวลา 13.00 น. ก็ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่หน้าห้องว่า นายกอบจ.ฯ ต้องประชุมอีกชุดหนึ่ง เสร็จประมาณ 16.00 น. เมื่อถึงเวลา 16.00 น. สำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปอีกครั้งปรากฏว่า เบอร์ดังกล่าวไม่สามารถใช้การได้แล้ว 

ทางด้าน นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นั้น สำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปในช่วงบ่ายวันเดียวกัน เลขาหน้าห้องผู้ว่าฯ แจ้งว่า ผู้ว่าฯ ไม่สะดวก ติดประชุมที่พระตำหนักทิพย์พิมาน และไม่ได้รับการติดต่อกลับมาชี้แจงข้อเท็จจริงแต่อย่างใด

ส่วนกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) นั้น ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน สำนักข่าวอิศรา ได้เดินทางไปติดต่อขอสัมภาษณ์ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เลขาหน้าห้องอธิบดีฯ ได้แจ้งว่า ไปประชุมที่ กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) จะนำเรื่องดังกล่าวเรียนให้อธิบดีฯ ทราบ โดยอาจจะได้รับการชี้แจงทางโทรศัพท์ และได้รับแจ้งอีกว่า วันที่ 22 มี.ค. 2561 นี้  อธิบดีฯ ต้องเดินทางไปร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี ( ครม.) 

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลา15.00 น. สำนักข่าวอิศรา ได้เดินทางไปยัง กระทรวงทรัพยากรฯ เพื่อดักรอสัมภาษณ์อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น แต่เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ กรมควบคุมมลพิษ แจ้งว่า วันนี้ไม่มีหมายประชุมที่ระบุว่า  อธิบดีกรมส่งเสริมฯ มาประชุมที่กรมควบคุมมลพิษด้วย  และไม่ทราบว่า อธิบดีกรมส่งเสริมฯ ได้เดินทางมาหรือไม่ จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้แนะนำให้ไปสอบถามที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์กระทรวงทรัพยากรฯ แต่เมื่อไปติดต่อสอบถามตามคำแนะนำแล้ว ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์กระทรวงทรัพยากรฯ ก็ไม่ทราบข้อมูลเช่นกัน

ล่าสุด มีรายงานข่าวแจ้งว่า ในวันที่ 22 มี.ค.2561 นี้ เจ้าหน้าที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.)  จะเข้าไปตรวจสอบข้อมูลเอกสารหลักฐานการทำเรื่องขออนุมัติใช้เงินสะสมของอบจ.นครราชสีมา ในการทำโครงการถนนลาดยาง จำนวน 240 โครงการ ตามที่สำนักข่าวอิศรา นำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้