- Home
- Isranews
- แท็กซี่จะได้เลิกอ้างแก๊สหมด ส่งรถ ไม่รับคน ทีดีอาร์ไอ เสนอปรับค่าโดยสารตามระยะเวลาเดินทาง
แท็กซี่จะได้เลิกอ้างแก๊สหมด ส่งรถ ไม่รับคน ทีดีอาร์ไอ เสนอปรับค่าโดยสารตามระยะเวลาเดินทาง
ทีดีอาร์ไอ เผยผลศึกษาสะท้อนปัญหาการให้บริการแท็กซี่ ในเขตเมือง เหตุจราจรติดขัด คนเดินทางระยะสั้น ต้นเหตุอ้างแก๊สหมด ส่งรถ ปฏิเสธผู้โดยสาร เสนอ 3 แนวทางกำหนดค่าโดยสารสะท้อนต้นทุน-ค่าครองชีวิต ชี้อนาคตให้มีมาตรการ "ตัดแต้ม" คุมพฤติกรรมด้วย
วันที่ 14 มิ.ย. กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นต่อผลการศึกษา (ครั้งที่ 2) โครงการศึกษาการพัฒนาเพื่อความปลอดภัยและคุณภาพการให้บริการของรถแท็กซี่ โดยพิจารณาโครงสร้างต้นทุนและการประกอบการ ณ ห้องประชุมทิวลิป ชั้น 1 โรงแรมรามาการ์เด้น กรุงเทพฯ(ถ.วิภาวดี) โดยนายจงรักษ์ กิจสำราญกุล รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ฝ่ายปฏิบัติการ เป็นประธาน
ดร.สุเมธ องกิตติกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนการขนส่ง ทีดีอาร์ไอ นำเสนอผลศึกษา โครงการและข้อเสนอแนะ ว่า ปัญหาแท็กซี่ ที่พบมากสุด คือ การปฏิเสธผู้โดยสาร รองลงมา สภาพรถแท็กซี่ และผู้ขับมีกิริยาไม่สุภาพ
ขณะที่รูปแบบการประกอบการของรถแท็กซี่ในกรุงเทพ มีหลายรูปแบบ จากข้อมูลกรมการขนส่งทางบก ปี 2561 มีผู้ประกอบการแท็กซี่ ที่เป็นนิติบุคคล 60,179 คัน บุคคลธรรมดา 18,345 คัน รวมจำนวนแท็กซี่ในกรุงเทพ 79,102 คัน หรือคิดเป็นร้อยละ 95 ของจำนวนแท็กซี่ทั้งหมดที่จดทะเบียนในประเทศ (83,217 คัน) ซึ่งแตกต่างจากต่างประเทศ ที่มีรูปแบบของบริษัท
"ส่วนผู้ประกอบการแท็กซี่ในต่างจังหวัด พบว่า มีจำนวนไม่ถึง 4 พันคัน มีทั้งหมด 28 จังหวัดทั่วประเทศ ในพื้นที่ท่องเที่ยว และพื้นที่สำหรับอยู่อาศัย"
ดร.สุเมธ กล่าวอีกว่า หากเปรียบเทียบต้นทุนการให้บริการของรถแท็กซี่ ต่างจังหวัดกับกรุงเทพฯ ค่าเฉลี่ยต้นทุนการให้บริการแท็กซี่ ทั้งค่าผ่อนรถ/เช่าขับ/เช่าซื้อของกรุงเทพฯ สูงกว่าต่างจังหวัดที่ 721.66 บาทต่อวันต่อคัน และ 591.26 บาทต่อวันต่อคัน ตามลำดับ โดยชั่วโมงการให้บริการในกรุงเทพฯ สูงกว่าต่างจังหวัด ทำให้ค่าซ่อมบำรุงสูงกว่า
สำหรับต้นทุนการประกอบการรถแท็กซี่ ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยรายวันต่อคัน พบว่า พนักงานขับรถต้องจ่าย 1,175.38 บาทต่อวัน แต่มีรายได้เฉลี่ย 1,563 ต่อวัน (ยังไม่รวมรายได้ส่วนอื่นๆ)
ในส่วนของการแก้ไขปัญหากลไกราคา ผลการศึกษา มีความเห็นว่า
กรณีที่ 1 ยังสามารถคงอัตราค่าโดยสารที่ปัจจุบันไว้คงเดิม เริ่มต้น 35 บาท แต่ควรเพิ่มค่าโดยสารตามระยะเวลาเดินทาง แทนการคิดค่าโดยสารกรณีรถหยุดหรือเคลื่อนที่ไม่เกิน 6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยคิดอัตราค่าโดยสารตามระยะเวลารวมการเดินทางเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพการจราจรที่ติดขัดปัจจุบัน รวมถึงการทบทวนการปรับขึ้นค่าโดยสารตามปัจจัยต้นทุนที่เพิ่มขึ้น และปรับปรุงอัตราการบรรทุกผู้โดยสารของบริการรถแท็กซี่ทั้งระบบทุก 2 ปี เพื่อพิจารณากำหนดค่าโดยสารที่สอดคล้องกับความต้องการใช้บริการที่เกิดขึ้นจริง
"อัตราค่าโดยสารเดิม ที่เป็นอัตราค่าโดยสารตามระยะทาง ค่อนข้างสะท้อนต้นทุนได้ดีระดับหนึ่ง กิโลเมตรที่ 2-4 ไม่น่ามีปัญหา แต่อัตราค่าโดยสารเวลารถติดนาทีละ 2 บาท เป็นรายได้ที่ค่อนข้างน้อย ทีมวิจัยจึงเสนอปรับอัตราค่าโดยสารเวลารถติด บวกกับพิจารณาเวลา ซึ่งหลายประเทศมีการใช้ค่าเวลาบวกรวมไปด้วย" ดร.สุเมธ กล่าว
นอกจากนี้แนวทางการปรับอัตราค่าโดยสารรถแท็กซี่ กรณีที่ 2 ทีมวิจัยเสนอให้เปลี่ยนค่าโดยสารเริ่มต้น เป็น 40 บาท และกรณีที่ 3 เปลี่ยนค่าโดยสารเริ่มต้น 40 บาท บวกปรับค่าโดยสารตามระยะเวลาเดินทาง เพื่อดูรายได้คนขับแท็กซี่จะเพิ่มขึ้นมาเท่าไหร่ด้วย และหวังว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาแท็กซี่ไม่อยากวิ่งเข้าไปในพื้นที่การจราจรติดขัดได้
สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคลมาให้บริการแบบแท็กซี่ผ่านแอพพลิเคชั่น(TNC) นั้น มีความจำเป็นต้องมีระเบียบเพื่อกำกับดูแลการให้บริการ
พร้อมกันนี้ ผลการศึกษา มีข้อเสนอแนะให้มีระบบตัดแต้ม มาใช้ควบคุมพฤติกรรมผู้ขับขี่ และพัฒนาคุณภาพการให้บริการแท็กซี่ในอนาคตด้วย