คนขับรถอู้ฟู่ซื้อบ้านแพงหลายหลัง! เผยข้อมูลลับสอบอดีตผู้บริหารสหกรณ์รถไฟ คดี2.2 พันล.

เขียนวันที่

วันพุธ ที่ 05 กันยายน 2561 เวลา 09:46 น.

เขียนโดย

isranews

หมวดหมู่

Isranews | ข่าว | ข่าวทั่วไปศูนย์ข่าวสืบสวน | เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศรา | ข่าวเด่นสืบสวน

Tags

สหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ จำกัด | เงินกู้

เผยข้อมูลลับสอบคดีสหกรณ์ออมทรัพย์รถไฟปล่อยเงินกู้ 2.2 พันล้านล่าสุด ตามคุ้ยสอบ 2 ปม 'ทำสัญญาผิดระเบียบ -ขนเงินลงทุนทำธุรกิจอสังหาฯ เพชรบุรี' พบหลักฐานราคาประเมินที่ดินทำโครงการฯ ช่วงเริ่มแรก 190 บาท/ตร.ว. แต่ช่วงวางค้ำประกันราคาพุ่ง 1.5 หมื่นบาท - ตั้งข้อสังเกต คนขับรถอดีตผู้บริหารฯ บางราย อู้ฟู้ มีเงินซื้อบ้านแพงหลายหลัง

picddddssdsdeeeee5 9 18

สืบเนื่องจากสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ติดตามตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกปัญหาการปล่อยเงินกู้จำนวนกว่า 2.2 พันล้าน โดยไม่ถูกต้องตามระเบียบ ของกลุ่มอดีตผู้บริหารสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ จำกัด ภายหลังจากที่สหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ จำกัด ได้มีการจัดประชุมใหญ่วิสามัญเมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2561 ที่ผ่านมา เลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ (ชุดที่ 13) เข้ามาทำหน้าที่ โดย นายสาโรจน์ สุขแสงดาว พนักงานรถจักร ระดับ 8 ชำนาญการ การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานกรรมการ และมีคณะกรรมการอีก 14 คน ซึ่งก่อนหน้านี้กรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้มีการแต่งตั้งข้าราชการเข้ามาทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการบริหารสหกรณ์ชั่วคราวเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ทั้งการจัดทำแผนแก้ไขปัญหาการขาดสภาพคล่องและการส่งชำระหนี้ของสอ.สรฟ.เสนอให้สหกรณ์เจ้าหนี้พิจารณา และการดำเนินคดีอาญาและแพ่งกับอดีตผู้บริหารสหกรณ์ไปเบื้องต้นแล้ว (อ่านประกอบ :เรียกตัว 2 ขรก.ชี้แจง7ก.ย.นี้! ปธ.สหกรณ์รถไฟ สั่งล่าเส้นทางเงินกู้ 2.2พันล. ส่ง ตร.เพิ่ม)

ล่าสุด แหล่งข่าวจากสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ จำกัด เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา ว่า ขณะที่คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ ชุดใหม่ อยู่ระหว่างการตรวจสอบรวบรวมเอกสารหลักฐานการปล่อยกู้เงินจำนวน 2.2 พันล้านบาท ของ กลุ่มอดีตผู้บริหารฯ ชุดเก่า แบ่งออก 2 ประเด็นหลัก คือ

1. ข้อมูลการปล่อยกู้เงิน หลังมีการตรวจสอบพบว่า อดีตผู้บริหารฯ เริ่มมีการนำเงินออกจากสหกรณ์ไปจำนวน 343 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2552 โดยไม่ถูกต้องตามระเบียบ ก่อนที่ในช่วงปี 2559 จะถูกผู้สอบบัญชีอิสระตรวจสอบพบ และแจ้งเรื่องให้กรมส่งเสริมสหกรณ์เข้ามาตรวจสอบเป็นทางการ จึงมีการปรับปรุงแก้ไขการเรื่องการนำเงินออกไปให้ถูกต้อง จึงมีการจัดทำสัญญากู้เงินขึ้น จำนวน 199 สัญญา แต่สัญญาบางส่วนก็ยังมีปัญหาเรื่องหลักค้ำประกัน จึงมีการปรับแก้ไขสัญญาใหม่ เหลือจำนวน 43 สัญญา รวมวงเงินกู้กว่า 2.2 พันล้านบาท ในปัจจุบัน ซึ่งข้อมูลส่วนนี้ จะต้องมีการเข้าไปดูรายละเอียดสัญญาทั้งหมด ว่ามีการจัดทำถูกต้องตามระเบียบหรือไม่ เพราะเท่าที่ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบว่าสัญญาบางฉบับ ผู้กู้ ผู้อนุมัติ ที่ลงนามในสัญญาเป็นคนๆ เดียวกัน บางฉบับผู้อนุมัติไม่มีอำนาจลงนามด้วย

2. เส้นทางเงินหลังการปล่อยกู้ว่านำไปใช้ทำอะไร ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น พบว่า มีการกล่าวอ้างว่านำเงินไปลงทุนทำโครงการอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดเพชรบุรี โดยมีการจัดตั้งบริษัทขึ้นมารับผิดชอยโครงการเป็นทางการ แจ้งว่าจะให้สมาชิกได้รับสิทธิ์เข้าไปซื้อเป็นเจ้าของได้ในราคาแค่ 5,000 บาทต่อตารางวา แต่จากการลงพื้นที่ตรวจสอบราคาประเมินที่ดินในโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ พบว่า ราคาประเมินที่ดินบริเวณนี้ ช่วงเริ่มแรกที่ซื้อมาทำโครงการมีราคาอยู่ที่ 190-300 บาทต่อตารางวาเท่านั้น โดยที่ดินส่วนใหญ่มีชื่อของอดีตผู้บริหารสหกรณ์รายหนึ่งด้วย และที่ดินบริเวณนี้ยังถูกนำใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้ของอดีตผู้บริหาร ช่วงที่ถูกกรมส่งเสริมสหกรณ์เข้าไปตรวจสอบด้วย โดยแจ้งราคาประเมินอยู่ที่ 15,000 บาทต่อตารางวา ซึ่งสูงกว่าช่วงเริ่มแรกที่ซื้อมาอย่างมาก

"ขณะนี้คณะกรรมการฯ กำลังตรวจสอบรายละเอียดข้อมูลเอกสารหลักฐานต่างๆ ให้มีความถูกต้องครบถ้วนมากที่สุด เพื่อส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำไปใช้เป็นหลักฐานประกอบการสอบสวนอดีตผู้บริหารชุดเก่า เพื่อติดตามเงินจำนวน 2.2 พันล้าน คืนกลับมาทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ในการตรวจสอบข้อมูลเส้นทางเงินกู้ล่าสุดนั้น มีสมาชิกบางรายได้มีการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับสถานะของบุคคลใกล้ชิดอดีตผู้บริหารสหกรณ์บางราย ว่า มีสถานะเป็นเพียงแค่คนขับรถ ลูกน้องทำงานให้ แต่กลับมีเงินไปซื้อบ้านราคาแพงหลายหลังด้วย และปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็มีหลักฐานยืนยันว่า เจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมสหกรณ์บางราย รับทราบเรื่องที่เกิดขึ้นทุกอย่าง แต่กลับปล่อยปละละเลยไม่ดำเนินการแก้ไขปัญหาด้วย " แหล่งข่าวระบุ

สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ได้พยายามติดต่อขอสัมภาษณ์อดีตผู้บริหารสหกรณ์ฯ ที่ถูกตรวจสอบเรื่องนี้ ให้ชี้แจงข้อเท็จจริงอีกด้านแล้ว แต่ไม่สามารถติดต่อได้

ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายวีระชัย ศรีสวัสดิ์ หนึ่งในอดีตผู้บริหารฯ ที่ถูกตรวจสอบ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศราว่า ยังไม่สามารถให้ข้อมูลอะไรในขณะนี้ได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างขั้นตอนการให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

พร้อมยืนยันว่า "เรื่องการปล่อยเงินกู้สหกรณ์พวกผม ไม่มีความหนักใจอะไร เพราะมั่นใจในความบริสุทธิ์ เราทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนรวม"