ผู้บริโภค ร้องผู้ตรวจการฯ สอบ กสท.ไม่ปฏิบัติหน้าที่ แก้ปัญหาจอดำ
ผู้บริโภคฯ ร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน สอบ กสท. ไม่ปฏิบัติหน้าที่แก้ปัญหาจอดำ ระบุมีผู้บริโภคเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านครัวเรือน
วันที่ 21 มิถุนายน สหพันธ์องค์กรผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค นำโดย น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เข้ายื่นหนังสือต่อประธานผู้ตรวจการแผ่นดินและคณะ ขอให้ตรวจสอบการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และอาจเข้าข่ายการละเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) จนทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยกว่า 10 ล้านครัวเรือนที่ไม่สามารถรับชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลยูโรได้ ยกเว้น น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสท. เสียงข้างน้อยที่สนับสุนนการดำเนินการตามมติของสหพันธ์องค์กรผู้บริโภคและได้สงวนความเห็นเสียงข้างน้อยไว้
โดยหนังสือร้องเรียนดังกล่าวระบุว่า กสท. ไม่ได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนแผนแม่บทกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์แห่งชาติ และอาจเข้าข่ายการละเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่ของ กสท. ดังนี้
1.การดำเนินการของ กสท. อาจจะถือเป็นการละเมิดหลักการพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 47 ที่ระบุว่าในการให้บริการสื่อสาธารณะนั้น จะต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ ในด้านการศึกษา วัฒนธรรม ความมั่นคงของชาติ ประโยชน์สาธารณะอื่นๆ และการแข่งขันที่เสรีและเป็นธรรม
2.การไม่ดำเนินการกับสถานีโทรทัศน์ ช่อง 3, 5 และ 9 ที่อาจจะเข้าข่ายละเลยพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงวิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 มาตรา 27 (13) ให้ กสท. คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนมิให้ถูกเอาเปรียบจากผู้ประกอบกิจการและคุ้มครองสิทธิในความเป็นส่วนตัวและเสรีภาพของบุคคลในการสื่อสารถึงกันโดยทางโทรคมนาคม และส่งเสริมสิทธิเสรีภาพและความเสมอภาคของประชาชนในการเข้าถึงและใช้ประโยชน์คลื่นความถี่ที่ใช้ในกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม
3.อาจจะเข้าข่ายละเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 31 วรรคสองต่อบริษัทแกรมมี่ “ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ หรือกิจการโทรคมนาคมดำเนินการใดๆในประการที่น่าจะเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคโดยอาศัยการใช้เครือข่ายหรือการโฆษณาอันมีลักษณะเป็นการค้ากำไรเกินควร หรือก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ ไม่ว่าด้วยวิธีการใดตามหลักเกณฑ์ที่ กสทช.กำหนด ให้ กสทช.มีอำนาจสั่งระงับการดำเนินการดังกล่าวได้
4.สามารถมีคำสั่งให้ฟรีทีวี ช่อง 3, 5 และ 9 ระงับการดำเนินการในประการที่น่าจะเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค โดยให้ทำการแพร่ภาพและเสียงรายการถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร 2012 ผ่านระบบการส่งทางภาคพื้นดินและทางอากาศโดยผ่านระบบจานรับสัญญาณดาวเทียมหรือดำเนินการใดๆ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับชมผ่านการรับสัญญาณทุกประเภทตามที่เคยปฏิบัติโดยด่วนที่สุด
5.อาจจะเข้าข่ายการละเลยและไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ในการออกคำสั่งทางปกครองกับช่อง 3, 5 และ 9 ในฐานะผู้มีสิทธิประกอบกิจการ เมื่อสถานีฯดังกล่าว หยุดให้บริการสาธารณะในบางช่องทางที่ดำเนินการอยู่ตามปกติ ในบางช่วงเวลาหรือมีการออกอากาศเพียงบางช่องทาง จึงเป็นการขัดต่อแผนแม่บทกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ รวมทั้งอาจขัดต่อมาตรา 27 (13) ในการส่งเสริมสิทธิเสรีภาพและความเสมอภาคของประชาชนในการเข้าถึงและใช้ประโยชน์คลื่นความถี่ที่ใช้ในกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ หรือแม้แต่ กสทช. จะยังมิได้กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจัดทำผังรายการสำหรับใบอนุญาตแต่ละประเภทไว้ก็ตาม แต่การที่ผู้ประกอบกิจการจะเปลี่ยนแปลงผังรายการจากเดิมก็จะต้องแจ้งให้ กสทช. พิจารณาก่อนตามมาตรา 34 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 ซึ่งการถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร 2012 เป็นการเปลี่ยนแปลงผังรายการจากผังรายการเดิมของสถานีวิทยุโทรทัศน์ ช่อง 3, 5 และ 9 ซึ่งได้มีข้อตกลงกับบริษัทในเครือแกรมมี่ล่วงหน้าเป็นเวลานาน
6. อาจจะเข้าข่ายการละเลยหรือยกเว้นการดำเนินการตามมาตรา 32 ต่อการกระทำอันเป็นการผูกขาด ลด หรือจำกัดการแข่งขันในการประกอบกิจการกระจายเสียง หรือกิจการโทรทัศน์ ให้หมายรวมถึงการถือครองธุรกิจในกิจการที่เกี่ยวเนื่องกันในการใช้วัสดุหรืออุปกรณ์ติดตั้งเป็นพิเศษเพื่อรับสัญญาณเสียงหรือภาพในลักษณะที่กีดกันการแข่งขันอย่างเป็นธรรม
และ 7.อาจจะละเลยการตรวจสอบอันเป็นประโยชน์ต่อการคุ้มครองผู้บริโภค ในการตรวจสอบผู้รับใบอนุญาต คือการสื่อสารแห่งประเทศไทย (กสท.) หากไม่มีการขออนุญาต เนื่องจากร่วมมือกับเอกชนในการส่งและตัดสัญญาณ ทำให้เอกชนบางรายได้ประโยชน์ และทำให้ผู้บริโภคไม่สามารถเข้าถึงบริการฟรีทีวีในครั้งนี้ ซึ่งอาจเข้าข่ายสมคบกระทำความผิดด้วย