ทองปริศนา 600 ล.โผล่? เบื้องหลังคดีรวยผิดปกติ‘สาธิต’-ป.ป.ช.ส่งเก็บที่ ธปท.
“…ปัญหาว่า เมื่อศาลพิพากษาว่าทองคำแท่งตามใบจองทองคำแท่ง จำนวน 5 ฉบับดังกล่าว ซึ่งมีมูลค่ากว่า 600 ล้านบาทไม่ใช่ทรัพย์สินของนายสาธิต รังคสิริ ที่ได้มาจากการร่ำรวยผิดปกติ และบริษัท ฮั่วเช่งเฮง คอมโมดิทัช จำกัด ก็ปฏิเสธว่า ทองคำแท่งดังกล่าวไม่ใช่ของบริษัท ฮั่วเช่งเฮง คอมโมดิทัช จำกัด เพราะมีการชำระเงินค่าทองคำแท่งครบถ้วนแล้วในนามของนายสาธิต รังคสิริ ซึ่งหากสุดท้ายหากไม่สามารถหาเจ้าของที่แท้จริงได้ อาจเกิดความเสียหายได้…”

สาธารณชนอาจทราบไปแล้วว่า เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2562 ที่ผ่านมา ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. นำโดยนายประจวบ สวัสดิประสงค์ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานคณะทำงาน ดำเนินการตรวจสอบความครบถ้วนถูกต้องของกลางคดีร่ำรวยผิดปกติของนายสาธิต รังคสิริ อดีตอธิบดีกรมสรรพากร เป็นทองคำแท่งหนัก 318 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 596 ล้านบาท ก่อนที่จะนำส่งทองคำแท่งดังกล่าวไปเก็บไว้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) (อ่านประกอบ : ครั้งแรก! ป.ป.ช.ตรวจนับทองแท่ง 594 ล.‘สาธิต รังคสิริ’ของกลางคดีรวยผิดปกติ)
นอกเหนือจากประเด็นนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ก่อตั้งสำนักงาน ป.ป.ช. ที่มีการตรวจนับความครบถ้วนถูกต้องของกลางในคดีที่มีมูลค่ามหาศาลขนาดนี้แล้ว
ยังมีประเด็นที่น่าสนใจซุกซ่อนอยู่คือ ทองคำแท่งดังกล่าวเป็นของใคร ?
เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2562 นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. แถลงถึงกรณีนี้ว่า จากการไต่สวนข้อเท็จจริงนายสาธิต รังคสิริ อดีตอธิบดีกรมสรรพากร และนายศุภกิจ ริยะการ สรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร 2 ถูกกล่าวหาว่าทุจริตในการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม ปรากฏข้อเท็จจริงว่า กลุ่มบริษัทที่สำแดงต่อกรมสรรพากรว่า ประกอบธุรกิจรับซื้อสินค้าจำพวกเศษโลหะ จากผู้ขายในประเทศ โดยเป็นผู้ประกอบกิจการส่งออกทั่วไปรายใหม่ เพื่อขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มจากสำนักงานสรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร 22 กรมสรรพากร ทั้งที่ไม่เป็นผู้ประกอบกิจการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ ไม่มีสิทธินำใบกำกับภาษีซื้อมาใช้ขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม และผู้ขายสินค้าไม่ได้ประกอบกิจการจริง เป็นผู้ไม่มีสิทธิออกใบกำกับภาษีซื้อ อันเป็นการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มอันเป็นเท็จ เมื่อเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ตรวจสอบพบว่า มีการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นจำนวนมากผิดปกติและปฏิบัติไม่ถูกต้องตามระเบียบของกรมสรรพากร นายสาธิต รังคสิริ กลับสั่งการระงับเรื่องไม่ให้เจ้าหน้าที่ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่
ในทางไต่สวนข้อเท็จจริงได้ความว่า เงินที่บริษัทดังกล่าวได้รับจากการคืนภาษีจากกรมสรรพากรโดยมิชอบ ได้มีการโอนไปมาระหว่างบริษัทในเครือข่าย และเงินส่วนหนึ่งได้โอนเข้าบัญชีผู้บริหารบริษัท ฮั่วเช่งเฮง คอมโมดิทัช จำกัด เพื่อซื้อทองคำแท่ง โดยระบุชื่อนายสาธิต รังคสิริ กับพวกเป็นผู้ซื้อในใบจองทองคำจากบริษัท ฮั่วเซ่งเฮง คอมโมดิทัช จำกัด จำนวน 5 ฉบับ คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงมีคำสั่งลงวันที่ 21 เมษายน 2558 ให้อายัดทองคำแท่งดังกล่าวที่มีการชำระเงินครบถ้วนแล้ว โดยมอบหมายให้ผู้บริหารบริษัท ฮั่วเช่งเฮง คอมโมดิทัช จำกัด เป็นผู้ครองครองดูแลหรือเก็บรักษาแทนคณะกรรมการ ป.ป.ช. และได้ส่งเรื่องนายสาธิต รังคสิริ ร่ำรวยผิดปกติ ไปยังสำนักตรวจสอบทรัพย์สินดำเนินการต่อไป
![]()
(ตู้เก็บทองคำแท่ง 600 ล.ของกลางคดีรวยผิดปกตินายสาธิต รังคสิริ ที่เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. นำไปตรวจสอบ)
ต่อมา เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2558 คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิดนายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร กับพวก ในความผิดอาญาฐานทุจริตในการคืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่ม และส่งสำนวนคดีไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีต่อไป โดยอัยการสูงสุดได้ยื่นฟ้องต่อศาลชั้นตันแล้วและคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล
สำหรับคดีร่ำรวยผิดปกติ เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ไต่สวนข้อเท็จจริง นายสาธิต รังคสิริ อธิบดี กรมสรรพากร และนายศุภกิจ ริยะการ สรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร 22 ทุจริตในการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม ได้ความว่า เงินที่บริษัทดังกล่าวได้รับจากการคืนภาษีจากกรมสรรพากรโดยมิชอบ ได้มีการโอนไปมาระหว่างบริษัทในเครือข่ายและเงินส่วนหนึ่งได้โอนเข้าบัญชีผู้บริหารของบริษัท ฮั่วเช่งเฮง คอมโมดิทัช จำกัด เพื่อซื้อทองคำแท่ง โดยระบุชื่อนายสาธิต รังคสิริ กับพวกเป็นผู้ซื้อ ในใบจองทองคำจากบริษัท ฮั่วเซ่งเฮง คอมโมดิทัช จำกัด จำนวน 5 ฉบับ
คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงมีคำสั่งลงวันที่ 30 ตุลาคม 2558 อายัดทองคำแท่งดังกล่าว โดยมอบหมายให้ผู้บริหารบริษัท ฮั่วเช่งเฮง คอมโมดิทัช จำกัด เป็นผู้ครองครองดูแลหรือเก็บรักษาแทนคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยเช่นกัน
ต่อมาเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2559 คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิดว่า นายสาธิต รังคสิริเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสรรพากร ร่ำรวยผิดปกติ และส่งเรื่องไปยังอัยการสูงสุด ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน โดยเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2562 ศาลชั้นต้นพิพากษายกคำขอบางส่วน โดยวินิจฉัยในส่วนทองคำแท่งตามใบจองทองคำแท่ง จำนวน 5 ฉบับดังกล่าวว่า ไม่ใช่ทรัพย์สินของนายสาธิต รังคสิริที่ได้มาจากการร่ำรวยผิดปกติ
ปัญหาว่า เมื่อศาลพิพากษาว่าทองคำแท่งตามใบจองทองคำแท่ง จำนวน 5 ฉบับดังกล่าว ซึ่งมีมูลค่ากว่า 600 ล้านบาทไม่ใช่ทรัพย์สินของนายสาธิต รังคสิริ ที่ได้มาจากการร่ำรวยผิดปกติ และบริษัท ฮั่วเช่งเฮง คอมโมดิทัช จำกัด ก็ปฏิเสธว่า ทองคำแท่งดังกล่าวไม่ใช่ของบริษัท ฮั่วเช่งเฮง คอมโมดิทัช จำกัด เพราะมีการชำระเงินค่าทองคำแท่งครบถ้วนแล้วในนามของนายสาธิต รังคสิริ ซึ่งหากสุดท้ายหากไม่สามารถหาเจ้าของที่แท้จริงได้ อาจเกิดความเสียหายได้
ดังนั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงได้มีมติเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2562 ให้บริษัท ฮั่วเช่งเฮง คอมโมดิทัช จำกัด ส่งมอบทองคำแท่งดังกล่าวข้างต้น รวมน้ำหนักทองคำแท่ง 318 กิโลกรัม ให้แก่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 แล้วนำไปเก็บรักษาไว้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อเป็นการรักษาผลประโยชน์ของแผ่นดิน ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการสมอ้างความเป็นเจ้าของในภายหลัง โดยคดีนี้อยู่ในระหว่างอัยการสูงสุดจะพิจารณาอุทธรณ์หรือไม่ และคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีหนังสือแจ้งให้อัยการสูงสุดพิจารณาอุทธรณ์แล้ว
หากพิจารณาตามคำแถลงของเลขาธิการ ป.ป.ช. เห็นได้ว่า ทองคำแท่งมูลค่า 600 ล้านบาทดังกล่าว แม้ข้อเท็จจริงจะระบุว่า นายสาธิต กับพวกเป็นผู้ซื้อก็ตาม แต่คำพิพากษาศาลชั้นต้น ระบุชัดเช่นกันว่า ทองคำแท่งเหล่านี้ไม่ใช่ทรัพย์สินของนายสาธิต ส่วนบริษัท ฮั่วเซงเฮงฯ ปฏิเสธเช่นกันว่าได้รับเงินชำระค่าทองคำแท่งหมดแล้ว จึงไม่มีสิทธิ์เป็นเจ้าของนั่นจึงนำไปสู่ว่า ทำไม ป.ป.ช. จึงต้องนำส่งทองคำแท่งดังกล่าวไปเก็บไว้ที่ ธปท. เพื่อป้องกันการสมอ้างเป็นเจ้าของมั่วซั่วภายหลังนั่นเอง
แต่ประเด็นปริศนาที่ยังไม่มีใครทราบขณะนี้คือ ใครเป็นเจ้าของที่แท้จริงในกรรมสิทธิ์ทองคำแท่งมูลค่ากว่า 600 ล้านบาทดังกล่าวกันแน่?
อ่านประกอบ :
ครั้งแรก! ป.ป.ช.ตรวจนับทองแท่ง 594 ล.‘สาธิต รังคสิริ’ของกลางคดีรวยผิดปกติ
อัยการส่งฟ้อง‘สาธิต-พวก’คดีแวต 4.3 พันล.-ศาลสั่งยึดทรัพย์‘สุวัฒน์’ 596 ล.ของแผ่นดิน
สั่ง‘สาธิต-อดีตซี 8-9’ชดใช้ 4 พันล.! เปิดผลสอบ กก.รับผิดทางละเมิด ก.คลังคดีคืนภาษี
พิพากษายึด 31 ล.‘อดีตซี 9’รวยผิดปกติคดีคืนภาษี-อสส.สั่งฟ้องอาญา‘สาธิต-พวก’แล้ว
ป.ป.ช.-อัยการตั้งคณะทำงานร่วมฯ ‘สาธิต-พวก’คดีทุจริตคืนภาษี ปมรวยผิดปกติไต่สวนในศาลแล้ว
EXCLUSIVE: พฤติการณ์ 32 บ.คืนภาษีเท็จในสำนวน ก.คลังก่อนสั่ง ‘สาธิต-พวก’ชดใช้ 4 พันล.
ป.ป.ช.-อัยการตั้งคณะทำงานร่วมฯ ‘สาธิต-พวก’คดีทุจริตคืนภาษี ปมรวยผิดปกติไต่สวนในศาลแล้ว
สั่ง‘สาธิต-อดีตซี 8-9’ชดใช้ 4 พันล.! เปิดผลสอบ กก.รับผิดทางละเมิด ก.คลังคดีคืนภาษี
ปิดคดีทุจริตคืนภาษี 4.3 พันล.ฟัน 6 ขรก. 28 เอกชน-4 บิ๊กรวยผิดปกติ 1.3 พันล.
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
