บิ๊กดีเอสไอส่งหนังสือด่วน กกต.-ปิดห้องคุยขอบัญชีแบงก์บี้ 2 พรรคใหญ่
ดีเอสไอบี้ 2 พรรคใหญ่ส่งหนังสือด่วนที่สุด กกต. 3 ฉบับรวดใน 2 วันขอบัญชีเงินฝาก-เช็คเงินบริจาค บิ๊กสำนักคดีพิเศษอ้าง“จำเป็นเร่งด่วน”ปิดห้องคุยลับ คนนามสกุลเดียว“คุณหญิงอ้อ”
เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ส่งหนังสือ “ด่วนที่สุด” ถึงนายทะเบียนพรรคการเมือง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) 3 ฉบับในช่วงเวลา 2 วันเพื่อขอข้อมูลทางการเงินและเอกสารการรับบริจาคของ 2 พรรคการเมืองใหญ่
แหล่งข่าวจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผย “สำนักข่าวอิศรา” (www.isranews.org) ว่า เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2555 สำนักคดีอาญาพิเศษ 1 กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดย พ.ต.อ.นิรันดร์ อดุลยาศักดิ์ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 1 หัวหน้าคณะทำงานสืบสวน ได้ทำหนังสือ 2 ฉบับถึงนายทะเบียนพรรคการเมือง เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับการรับบริจาคเงินของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ซึ่งถูกกล่าวโทษต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษก่อนหน้านี้กรณีการบริจาคเงินว่าขัดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วนพรรคการเมือง พ.ศ.2550 มาตรา 57 วรรค 2 หรือไม่
หนังสือฉบับแรก คดี ภท.สำนักคดีอาญาพิเศษ 1 ดีเอสไอ ขอหลักฐาน 3 รายการ ได้แก่
1.หลักฐานแสดงสถานะพรรคการเมือง ใครเป็นหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค เหรัญญิก และกรรมการบริหารพรรคทั้งหมด ตั้งแต่ก่อตั้งจนถึงปัจจุบัน
2.หมายเลขบัญชีเงินฝากและจำนวนเงินที่เปิดบัญชีทุกบัญชี
3.ประกาศการรับบริจาคของพรรค ตามประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่องการกำหนดแบบหลักฐานการรับบริจาคและหลักเกณฑ์วิธีการเปิดเผยชื่อผู้บริจาคระหว่างปี 2550-ปัจจุบัน พร้อมเช็คสำเนาตั๋วแลกเงิน หรือเช็คกรณีบริจาคสองหมื่นบาท
หนังสือฉบับที่สอง คดี ปชป. ดีเอสไอขอข้อมูลประกาศการรับบริจาคของพรรคประชาธิปัตย์ การกำหนดแบบหลักฐาน หลักเกณฑ์วิธีการเปิดเผยชื่อผู้บริจาคต่อสาธารณชน พ.ศ.2550 ระหว่างปี 2550-ปัจจุบัน พร้อมสำเนาตั๋วแลกเงินหรือเช็คขีดคร่อมกรณีบริจาค 20,000 บาทขึ้นไป
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ดีเอสไอได้ขอให้สำนักงาน กกต.ส่งมอบข้อมูลเกี่ยวกับ 2 พรรคดังกล่าวในวันที่ 21 กันยายน 2555
ต่อมาวันที่ 19 กันยายน 2555 สำนักคดีอาญาพิเศษ 1 กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ส่งหนังสือถึงนายทะเบียนพรรคการเมือง ระบุว่า “ได้ประสานกับผู้เกี่ยวข้องแล้ว ปรากฏว่าเอกสารที่ขอตรวจสอบถ้ารอให้ครบจะเกิดความล่าช้า แต่เนื่องจากมีความจำเป็นเร่งด่วนต้องใช้” จึงได้ขอเอกสารของพรรคประชาธิปัตย์และภูมิใจไทย 2 รายการ ได้แก่
1.หลักฐานการรับบริจาค หลักเกณฑ์วิธีการเปิดเผยชื่อผู้บริจาคต่อสาธารณชน พ.ศ. 2550 ระหว่างปี 2550-2552 พร้อมสำเนาตั๋วแลกเงินหรือเช็คขีดคร่อมกรณีบริจาคสองหมื่นบาทขึ้นไป ส่วนปี 2553 ถึงปัจจุบันขอให้ส่งภายหลัง
2.หนังสือที่หัวหน้า ภท. แจ้งหมายเลขบัญชีเงินฝากและจำนวนเงินที่เปิดบัญชีของทุกบัญชี พร้อมสำเนาบัญชีเงินฝากที่ธนาคารไทยพาณิชย์รับรองแก่นายทะเบียนพรรคการเมือง โดยให้ส่งมอบหลักฐานให้สำนักคดีอาญาพิเศษ 1 ในวันที่ 21 กันยายน 2555
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า หลังจากส่งหนังสือ 3 ฉบับ วันที่ 21 กันยายน 2555 ซึ่งเป็นวันครบกำหนดที่ขอให้ กกต.ส่งหลักฐานให้ ดีเอสไอ พ.ต.อ.นิรันดร์ อดุลยาศักดิ์ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 1 ได้เดินทางไปประสานข้อมูลกับนางวราพร ณ ป้อมเพ็ชร (นามสกุลเดียวกับคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ หรือ ณ ป้อมเพ็ชร) ผู้อำนวยการฝ่ายตรวจสอบระบบบัญชี สำนักงาน กกต.ด้วยตัวเอง หลังจากปิดห้องพูดคุยกว่า 1 ชั่วโมง ทางดีเอสไอได้รับมอบเอกสารหลักฐานจาก สำนักงานกกต.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2550 มาตรา 57 วรรค 2 ระบุว่า “การบริจาคแก่พรรคการเมืองตั้งแต่ 20,000 บาทขึ้นไป จะต้องบริจาคโดยวิธีการสั่งจ่ายเป็นตั๋วแลกเงิน หรือเช็คขีดคร่อม”
น่าสังเกตว่าการขอหลักฐานคดีเงินบริจาคจากสำนักงาน กกต.ของดีเอสไอเกิดขึ้นในช่วงมีกระแสความขัดแย้งระหว่าง ปชป.กับนายธาริต เพ็งดิษฐ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กรณีการเสียชีวิตของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในช่วงการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และกรณีชายชุดดำ