- Home
- Isranews
- เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศรา
- "ป.ป.ช." ไม่ให้ "ยิ่งลักษณ์"เลื่อนแจงข้อกล่าวหาคดีจำนำข้าว เพราะ..?
"ป.ป.ช." ไม่ให้ "ยิ่งลักษณ์"เลื่อนแจงข้อกล่าวหาคดีจำนำข้าว เพราะ..?
"..หากผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหาด้วยตนเอง และสอบถามจากพนักงานเจ้าหน้าที่ในการชี้แจงแก้ ข้อกล่าวหาด้วยตนเองก็สามารถที่จะเข้าใจข้อกล่าวหาได้เป็นอย่างดี เมื่อไม่ได้มารับทราบข้อกล่าวหาและตรวจพยานหลักฐานด้วยตนเอง โดยมอบหมายให้ทนายความมาดำเนินการแทน จึงไม่สามารถเข้าใจข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายในกระบวนการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาได้อย่างครบถ้วนตรงกัน.."
เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2557 ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่เห็นชอบให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี เข้าชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาในกรณีร้องขอให้ถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ จากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องจากมีพฤติการณ์ส่อว่าจงใจใช้อานาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติ แห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย กรณีโครงการรับจำนำข้าว ตามกำหนดเดิมคือ วันที่ 31 มีนาคม 2557 นี้ ไม่เห็นชอบให้เลื่อนการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาออกไปอีก 45 วัน ในเว็บไซต์ ของสำนักงาน ป.ป.ช.
โดยมีเนื้อหาสาระดังนี้
"น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้มีหนังสือลงวันที่ 27 มีนาคม 2557 เพื่อขอขยายระยะเวลายื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา และนำสืบแก้ข้อกล่าวหาออกไปอีก 45 วัน นับตั้งแต่วันที่31 มีนาคม 2557
โดยอ้างเหตุผลสรุปได้ว่า การรวบรวมพยานหลักฐานที่อยู่ในหลายหน่วยงาน เพื่อนำมาประกอบในการจัดทำการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ยังไม่แล้วเสร็จประกอบกับทนายความผู้รับมอบอานาจเพิ่งเข้าตรวจพยานหลักฐานในสำนวนไต่สวนข้อเท็จจริง เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2557 ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาจะต้องใช้เวลาในการตรวจสอบเอกสารหลักฐาน จึงไม่สามารถชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาได้ทัน
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วเห็นว่า กระบวนการดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงในชั้นชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของผู้ถูกกล่าวหาตามระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยการไต่สวนข้อเท็จจริง (พ.ศ. 2555) ข้อ 11 ประกอบข้อ 40 กำหนดไว้ว่าผู้ถูกกล่าวหาสามารถยื่นคำร้องเป็นหนังสือพร้อมด้วยเหตุผลต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อขอตรวจพยานหลักฐานในสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริง เพื่อประกอบการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาได้
ทั้งนี้เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะอนุญาตให้ผู้ถูกกล่าวหาตรวจพยานหลักฐานตามที่ร้องขอก็ได้
เว้นแต่เป็นพยานหลักฐานที่มีผลกระทบต่อความปลอดภัยของพยานบุคคลฯ หรือข้อมูลใดเกี่ยวกับการกระทำผิดตามที่กล่าวหา หรือกระทบต่อสาระสำคัญของสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงโดยประการอื่น ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีอำนาจที่จะปฏิเสธ ไม่อนุญาตให้มีการตรวจพยานหลักฐานตามที่ผู้ถูกกล่าวหาร้องขอ
และในกรณีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. อนุญาตให้ผู้ถูกกล่าวหาตรวจสอบพยานหลักฐานได้ ให้ผู้ถูกกล่าวหามีสิทธิขอจดบันทึกหรือคัดลอกเอกสารในสำนวนได้ตามสมควรเท่าที่จะไม่กระทบต่อรูปคดีหรือการคุ้มครองบุคคลที่เกี่ยวข้อง
โดยผู้ถูกกล่าวหาอาจนำทนายความหรือบุคคลที่ไว้ใจเข้าช่วยเหลือในการตรวจพยานหลักฐานด้วยก็ได้ ซึ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ทนายความเป็นผู้ดำเนินการตรวจพยานหลักฐานในสำนวนแทน
โดยมิได้มาดำเนินการตรวจสอบพยานหลักฐานด้วยตนเอง
ด้วยเหตุผลว่า เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองอยู่ในสภาวะไม่ปกติและมีกลุ่ม กปปส. ประกาศว่าจะไล่ล่าตัว จึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยและความสงบ หากต้องเดินทางมาด้วยตนเอง
คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงมีมติอนุญาตให้ทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เข้าทำการตรวจพยานหลักฐานแทนได้ ซึ่งเป็นกรณีมีพฤติการณ์พิเศษ ทั้งนี้ให้เฉพาะแต่การตรวจพยานหลักฐานเท่านั้น กระบวนการไต่สวนอื่นๆ ทนายความไม่สามารถกระทำการแทนผู้ถูกกล่าวหาได้
ประกอบกับผู้ถูกกล่าวหาเคยขอเลื่อนการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหามาแล้วครั้งหนึ่ง โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติอนุญาตให้ขยายเวลาการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาออกไปอีก 15 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 31 มีนาคม 2557 (รวมเป็นเวลา 32 วัน นับจากวันรับทราบข้อกล่าวหา)
ทั้งนี้หากผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหาด้วยตนเอง และสอบถามจากพนักงานเจ้าหน้าที่ในการชี้แจงแก้ ข้อกล่าวหาด้วยตนเองก็สามารถที่จะเข้าใจข้อกล่าวหาได้เป็นอย่างดี
เมื่อไม่ได้มารับทราบข้อกล่าวหาและตรวจพยานหลักฐานด้วยตนเอง โดยมอบหมายให้ทนายความมาดำเนินการแทน จึงไม่สามารถเข้าใจข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายในกระบวนการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาได้อย่างครบถ้วนตรงกัน
จึงมีมติให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาด้วยตนเองไม่ว่าจะด้วยวาจาหรือลายลักษณ์อักษร ภายในกำหนดเดิม (วันที่ 31 มีนาคม 2557)
ทั้งนี้ หากผู้ถูกกล่าวหาประสงค์จะเพิ่มเติมพยานหลักฐานในการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาก็สามารถกระทำได้โดยระบุมา ในคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา
จึงแถลงมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน