- Home
- Thaireform
- ในกระแส
- ปฏิรูปประเทศมากกว่าอุดช่องโหว่ “นิธิ” ย้ำชัดต้องปรับถึงระดับโครงสร้าง
ปฏิรูปประเทศมากกว่าอุดช่องโหว่ “นิธิ” ย้ำชัดต้องปรับถึงระดับโครงสร้าง
ยันหากสังคมยังขาดดุลยภาพ ต่อไปคนจำนวนมากต้องไปเป็นลูกจ้างในภาคการเกษตร -ภาคอุตสาหกรรมที่ขาดทักษะ ไม่มีอำนาจต่อรอง ตั้งคำถาม แล้วคนไทยจะอยู่อย่างไร ในสภาพที่สังคมขาดดุลยภาพ และโลกกำลังเปลี่ยนแปลงเช่นทุกวันนี้
วันที่ 26 พฤศจิกายน ศ.ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์ นักวิชาการอิสระ และกรรมการปฏิรูป ปาฐกถาหัวข้อ "ดุลยภาพเศรษฐกิจ สังคมไทย บนความเปลี่ยนแปลงของระบบโลก" ในงานสัมมนา "ประเทศไทย 2554:พลิกความท้าทายสู่โอกาส" ณ ศูนย์การประชุมสหประชาชาติ ถนนราชดำเนินกลาง จัดโดยหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
ศ.ดร.นิธิ กล่าวว่า เรื่องดุลยภาพเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก ที่ผ่านมาเรามักจะไม่ค่อยสนใจเกี่ยวกับดุลยภาพของสังคมเราเท่าไหร่นัก มัวแต่นึกถึงแต่การพัฒนา การเสียโอกาส การเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส โดยไม่ค่อยสนใจ หรือให้ความสำคัญกับดุลยภาพในทางสังคม
“หากสังคมยังขาดดุลยภาพอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ก็ค่อนข้างชัดเจนว่า คนจำนวนมากต้องไปเป็นลูกจ้างในภาคการเกษตรที่อาจจะมีงานทำไม่ถึง 365 วันต่อปี อาจจะไม่ถึง 200 วันด้วยซ้ำ คนอีกจำนวนมากก็อาจไปเป็นลูกจ้างในภาคอุตสาหกรรมที่ขาดทักษะ ไม่มีอำนาจต่อรอง แล้วก็ต้องทำงานหนัก เสียสุขภาพ อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ คนจนเมืองก็น่าจะเพิ่มมากขึ้น”
กรรมการปฏิรูป กล่าวว่า ปัญหาที่สนใจมากกว่า การที่ประเทศไทยจะมีบทบาทแข่งขันกับประเทศอื่นได้หรือไม่ คือ แล้วคนไทยจะอยู่อย่างไร ในสภาพที่สังคมขาดดุลยภาพอย่างนี้ และโลกก็กำลังเปลี่ยนแปลง และส่วนใหญ่คนก็หลุดออกจากภาคการเกษตรแล้ว เพราะฉะนั้น ถ้าเราจะหันหน้ากลับมาหาการเกษตร ไม่ว่าจะเป็นเกษตรพึ่งตนเอง เกษตรอินทรีย์ หรือเกษตรอะไรก็แล้วแต่ ตนคิดว่า เหลือจำนวนน้อยลงมาก
ศ.ดร.นิธิ กล่าวถึงการปฏิรูปว่า การปฏิรูปที่แท้จริงไม่เกี่ยวกับการปรองดองทางการเมือง ไม่ได้ขึ้นอยู่กับรัฐบาลชุดนี้รัฐบาลเดียว แต่เป็นปัญหาอนาคตที่ยาวไกลกว่านั้น
“ปฏิรูปไม่ใช่การแก้ไขตัวระบบให้ทำงานได้ เพราะว่าปัญหาที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยทั้งหมด เกิดจากตัวระบบ ไม่ได้เกิดจากการที่ตัวระบบมีช่องโหว่ แล้วเราไปอุดช่องโหว่เหล่านั้น เพื่อหวังว่าตัวระบบจะสามารถทำงานได้ ตามเดิม เพราะฉะนั้นถ้าจะปฏิรูป ผมคิดว่ามันจะต้องหมายถึง การปรับถึงระดับโครงสร้าง”
และหากถามว่าใครจะเป็นคนปฏิรูป ศ.ดร.นิธิ กล่าวว่า ไม่มีรัฐบาลไหนทำ จนกว่าจะมีพลังอื่นมาบังคับให้รัฐบาลต้องทำ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลที่มาจากปากกระบอกปืน หรือรัฐบาลที่มาจากหีบเลือกตั้งล้วนแต่ถูกกำกับโดยพลังสังคม เหนืออื่นใดพลังของสังคมทั้งหมดจะต้องมีความตื่นตัวพร้อมที่จะปฏิรูป แล้วก็บีบบังคับให้นักการเมืองที่ไปตั้งรัฐบาลไม่มีทางเลือกอื่น ทั้งฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาล ในการที่จะนำประเทศแก้ไข ปรับเปลี่ยนสิ่งต่างๆ ที่นำประเทศของเราไปสู่การเปลี่ยนแปลง ที่จะทำให้เกิดดุลยภาพภายในประเทศเรามากขึ้น
“ความสำเร็จของการปฏิรูปจึงอยู่ที่จะสามารถขับเคลื่อนสังคมให้อยากปฏิรูปได้หรือไม่ คำว่าอยากปฏิรูป หมายถึงผลักดันให้รัฐปฏิรูป ให้องค์กรสังคมปฏิรูป ให้องค์กรเศรษฐกิจปฏิรูป ให้องค์กรอุตสาหกรรมปฏิรูป และในขณะเดียวกันก็คอยกำกับการปฏิรูปด้วย ไม่ใช่แค่ผลักดันเฉยๆ”
กรรมการปฏิรูป กล่าวถึงความยากของการปฏิรูป คือการที่คนไทยขาดพลังในการแก้ไขปัญหา เรากลายเป็นคนที่ไม่คิดว่าตัวเราจะสามารถแก้อะไรได้ คนไทยปัจจุบันเป็นคนน่าสมเพช ไม่เชื่อว่าเราจะแก้ปัญหาของตนเองได้ ดังนั้นเมื่อเกิดภาวะอย่างนี้ ยิ่งต้องการผลักดันให้สังคมอยากปฏิรูป