- Home
- Thaireform
- ในกระแส
- อนุฯที่ดิน คปร. เตรียมลุยอีสาน-ใต้ ประมวลปัญหาให้ครบ 4 ภาค
อนุฯที่ดิน คปร. เตรียมลุยอีสาน-ใต้ ประมวลปัญหาให้ครบ 4 ภาค
ม.ร.ว.อคิน เผยที่ประชุมเห็นควรแบ่งคณะทำงานออกเป็น 7 กลุ่ม 'ที่ดิน, ป่า, คดีคนจนเกี่ยวทรัพยากร, น้ำ, แร่, ทะเล ,พลังงานและอุตสาหกรรม' แยกหาข้อมูลเฉพาะด้านอย่างละเอียด ขณะที่ 'เพิ่มศักดิ์' เล็งยื่นข้อเสนอกระจายการถือครองที่ดินต่อที่ประชุม คปร.สัปดาห์หน้า
วันที่ 6 มกราคม ม.ร.ว.อคิน รพีพัฒน์ กรรมการปฏิรูป ในฐานะประธานอนุกรรมการปฏิรูป ระบบการจัดการที่ดิน ฐานทรัพยากร สิ่งแวดล้อมและน้ำ ในคณะกรรมการปฏิรูป (คปร.) กล่าวภายหลังการประชุมอนุกรรมการเฉพาะประเด็น ณ โรงแรมรามาการ์เด้นส์ ว่า ที่ประชุมมีความเห็นร่วมกันให้แบ่งคณะทำงานออกเป็นกลุ่มย่อย 7 กลุ่ม โดยแบ่งเป็น กลุ่มนโยบายที่ดิน, ป่า, คดีคนจนเกี่ยวทรัพยากร, น้ำ, แร่, ทะเล ,พลังงานและอุตสาหกรรม เพื่อแยกกลุ่มกันหาข้อมูลเฉพาะด้านอย่างละเอียด อันนำมาสู่แนวทางแก้ไขปัญหาในอนาคต
“ขณะนี้อยู่ในกระบวนการสรรหาคณะทำงานของแต่ละกลุ่ม คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในเดือนมกราคมนี้ อย่างไรก็ตามการทำงานของทั้ง 7 กลุ่มนั้นจะดำเนินการควบคู่กันไป ซึ่งมีคณะอนุกรรมการที่ดินฯ คอยกำกับดูแลเช่นเคย”
ม.ร.ว.อคิน กล่าวถึงความคืบหน้าในการทำงานของคณะอนุกรรมการชุดนี้ว่า สัปดาห์หน้า ( 11 – 13 ม.ค.) จะมีการลงพื้นที่เพื่อรับฟังความคิดเห็น ครั้งที่ 3 ในเขตพื้นที่ภาคอีสานรวม 4 จังหวัดได้แก่ ขอนแก่น ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี เพื่อเข้าไปดูข้อเท็จจริงเกี่ยวกับปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านจากปัญหาข้อขัดแย้งด้านน้ำในภาคอีสาน พร้อมทั้งรับฟังข้อเสนอจากประชาชนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการจัดการน้ำ และในเดือนกุมภาพันธ์ มีแผนที่จะเดินทางไปรับฟังปัญหาจากชาวบ้านในบนพื้นที่ภาคใต้ ทั้งนี้ก็เพื่อประมวลปัญหาของชาวบ้านให้ครบทั้ง 4 ภาค พร้อมระดมความคิดเห็นหาแนวทางการแก้ไขเพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการปฏิรูปต่อไป
ด้าน ดร.เพิ่มศักดิ์ มกราภิรมย์ กรรมการปฏิรูป กล่าวว่า วันจันทร์หน้า (10 ม.ค.) คณะอนุกรรมการฯ เตรียมยื่นเอกสารข้อเสนอการกระจายและจำกัดการถือครองที่ดินต่อคณะกรรมการปฏิรูป ซึ่งเป็นการเสนอในเชิงหลักการเพื่อแก้ไขปัญหาของชาวบ้านในด้านที่ดิน ซึ่งรัฐบาลต้องขับเคลื่อนเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยปรับโครงสร้างใหม่ ทำทีเดียวทั่วประเทศไม่ต้องมีจังหวัดนำร่อง เพราะตอนนี้ปัญหาเรื่องที่ดินมีหลายหน่วยงานให้ความสนใจ ไม่ว่าจะเป็นทหาร กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นต้น
“เรื่องที่ดินต้องเริ่มจัดการที่โครงสร้างพื้นฐาน ภายในระยะเวลา 5 ปีรัฐบาลจะต้องจัดตั้งองค์กรเฉพาะกิจขึ้นมาหน้าที่ตรงนี้อย่างจริงจัง โดยองค์กรนี้ต้องรับภารกิจการกระจายถือครองที่ดิน พร้อมทั้งเสนอรูปแบบที่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างถาวรต่อไป ซึ่งหลังจากที่ได้นำเสนอเชิงหลักการแล้วนั้น จะต้องศึกษารายละเอียดกันต่อไปว่าในระดับกลไกการทำงานจะเป็นอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นการวางกติกา การกระจายการถือครอง จำกัดการถือครอง เกณฑ์มาตรที่จะใช้วัดแต่ละพื้นที่ว่าจะขับเคลื่อนปฏิบัติอย่างไรให้เป็นรูปธรรม” ดร.เพิ่มศักดิ์ กล่าว