- Home
- Thaireform
- ในกระแส
- 100 ปี สตรีสากลชี้ศิลปินทำงานศิลปะต้องไร้เพศ
100 ปี สตรีสากลชี้ศิลปินทำงานศิลปะต้องไร้เพศ
เผยงานศิลปะไม่จำเป็นต้องวิ่งตามกรอบสังคม - เศรษฐกิจ แนะจุดยืนอย่าหยุดเพียงเรื่องเพศ เชื่อในตัวบุรุษก็มีความเป็นสตรีแฝงอยู่ พร้อมย้ำไม่มีใครสามารถอยู่ในโลกได้โดยลำพัง
วันที่ 9 กุมภาพันธ์ คณะจัดงานเฉลิมฉลอง 100 ปี สตรีสากล จัดเวทีเสวนา "ศิลปินหญิงกับการขับเคลื่อนทางสังคมในมุมมองผู้ชาย" ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป กรุงเทพมหานคร
รศ.ธเนศ วงศ์ยานนาวา คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ในประวัติศาสตร์มีศิลปินที่เป็นผู้หญิงมากมาย เนื่องจากสิ่งที่มีอิทธิพลต่อสังคมในอดีตมีเพียง 2 สิ่งคือ ศิลปะและศาสนา ซึ่งแน่ชัดว่าพื้นที่ทางศิลปะนั้นสามารถเปิดทางให้ผู้หญิงเข้าไปเดินได้มากกว่าศาสนา ความเป็นจริงประการหนึ่งคือศิลปะมักอิงแรงบันดาลใจจากศาสนา ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีศาสดาองค์ใดในโลกเป็นผู้หญิง ในขณะเดียวกันแม้ผู้หญิงจะทำงานร่วมกับผู้ชายมาโดยตลอด แต่ความโด่งดังของชื่อเสียงกลับถูกบดบังอยู่ภายใต้เงาของวีรุบุรษ เนื่องจากเวทีศิลปะในอดีตเป็นพื้นที่ของการแสดงอุดมการณ์ หรือการเคลื่อนไหวทางสังคมที่ถูกมองว่าเป็นงานของชายชาติวีรบุรุษ
“หลักฐานสำคัญประการหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นว่าศิลปินชายนั้นโดดเด่นกว่าผู้หญิงเสมอคือการพิจารณาด้วยเงิน ซึ่งจะพบว่างานเขียนของผู้ชายสามารถทำรายได้มากมายเมื่อเทียบกับศิลปินหญิงในยุคเดียวกัน” รศ.ธเนศ กล่าว และว่า สังคมนิยมให้ความสำคัญกับการยกย่องความยิ่งใหญ่ เชิดชูความเป็นอัจฉริยะผ่านเงื่อนไขทางสังคมและเศรษฐกิจ เช่นทวีปยุโรปสมัยศตวรรษที่ 19 สังคมยกย่องศิลปินว่าเป็นผู้มีพลังเหนือมนุษย์ มีพรสวรรค์มาตั้งแต่เกิด ถูกเชิดชูว่าเป็นผู้เข้ามาเปลี่ยนโลก นั่นรวมถึงสังคมที่บีบกรอบบังคับว่าผู้ชายจะเป็นศิลปินที่ดีกว่าผู้หญิง
รศ.ธเนศ กล่าวอีกว่า ในโลกแห่งศตวรรษที่ 21 ที่พฤติกรรมของมนุษย์เริ่มเปลี่ยนไป ชายสามารถกลายเป็นหญิง หญิงสามารถกลายเป็นชาย หรือจะมีทั้งสองเพศก็เป็นได้ ดังนั้นศิลปะในยุคนี้ไม่จำเป็นต้องอยู่ภายใต้กรอบจำกัดของสังคม เช่นเดียวกันกับวันสตรีสากลอาจจะดูไม่เพียงพอในโลกปัจจุบัน เพราะในอนาคตอาจเกิดวันสากลของทุกเพศทุกวัยอีกมากมาย ดังนั้นจุดยืนของศิลปินต่อไปนี้คงไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่เรื่องเพศ หรือตกอยู่ภายใต้กรอบจำกัดโดยสังคมวัฒนธรรมอีกต่อไป
ขณะที่นายไพศาล เปลี่ยนบางช้าง ตัวแทนศิลปิน กล่าวว่า การทำงานศิลปะไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องเพศ จะเป็นชายหญิงหรือเพศอื่นก็สามารถทำงานออกมาให้ดีได้ เพราะงานศิลปะมีความเป็นตัวของมันเองอยู่ในกระบวนการที่ต้องการแสดงออก ซึ่งงานที่ออกมาแต่ละครั้งไม่สามารถกำหนดตัวตนของผู้ทำได้ว่าเป็นใคร ดังนั้นผู้หญิงก็สามารถพูดเรื่องสิ่งแวดล้อม การเมือง สังคมได้เช่นเดียวกันกับผู้ชาย
“ในขณะเดียวกันความเป็นบุรุษก็มีความเป็นสตรีแฝงอยู่ในตัว ไม่มีใครในสังคมโลกสามารถอยู่คนเดียวได้อย่างโดดเดี่ยว ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน ทุกคนสามารถโอบกอดกันได้ในมุมมนุษยธรรมโดยไม่ต้องคำนึงเรื่องเพศ ทั้งนี้สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดมีที่มาจากการสร้างกรอบกำหนดหลักเกณฑ์ต่างๆ ซึ่งทุกคนสามารถทำลายกรอบที่มาบดบังความคิดความอ่านนี้ได้"
นายไพศาล กล่าวด้วยว่า ผู้หญิงที่ทำงานเคลื่อนไหวทางสังคม ทำงานศิลปะมีอยู่จริง ซึ่งการเคลื่อนไหวทางสังคมดังกล่าวไม่จำเป็นต้องผ่านกระบวนการประท้วงเสมอไป ยังสามารถนำเสนอผ่านภาพวาด งานเขียน ฯลฯ ซึ่งศิลปินหญิงเป็นส่วนสำคัญที่มีพลังเทียบเท่ากับผู้ชาย เพราะการทำงานแต่ละครั้งต้องอาศัยการทำงานร่วมกันอย่างไร้เพศ แต่ต้องให้เกียรติซึ่งกันและ และเมื่อนั้นขบวนแห่งการเปลี่ยนแปลงสังคมจะเกิดขึ้น