- Home
- Thaireform
- ในกระแส
- ลดเบนซิล-ดีเซล กระทบโซฮอลล์ นักวิชาการพลังงาน เชื่อรบ.ต้องกู้เงินมาโปะเกิน 2 หมื่นล.
ลดเบนซิล-ดีเซล กระทบโซฮอลล์ นักวิชาการพลังงาน เชื่อรบ.ต้องกู้เงินมาโปะเกิน 2 หมื่นล.
ดร.เทียนไชย จงพีร์เพียร มองนโยบายพลังงานเร่งด่วน 1 ปี ชะลอเก็บเงินกองทุนฯ สวนทางระยะยาว 4 ปี อุตสาหกรรมผลิตเอทานอลต้องหยุดชะงัก แนะรบ. เพิ่มช่องว่างราคาเบนซิน-โซฮอลล์ เพื่อจูงใจผู้ใช้
ภายหลังที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ประกาศชะลอการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันซึ่งมีผลใช้ทันทีตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค. ซึ่งส่งผลให้ราคาน้ำมันเบนซินและดีเซลลดลง 3-8 บาท ในขณะที่ราคาแก๊สโซฮอลล์กลับไม่มีการเปลี่ยนแปลง จึงอาจกระทบต่อราคาอ้อยและมันสำปะหลัง ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตแก๊สโซฮอลล์มีราคาตกต่ำลงนั้น
ดร.เทียนไชย จงพีร์เพียร นักวิชาการด้านพลังงาน กล่าวกับศูนย์ข้อมูลข่าวสารปฏิรูปประเทศไทยถึงประเด็นดังกล่าวว่า ที่ผ่านมามีการพยายามผลักดันกิจการพลังงานทดแทน แต่เมื่อเจอการประกาศชะลอการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน อาจส่งผลให้การใช้พลังงานทดแทนเกิดการชะลอตัว และอุตสาหกรรมการผลิตเอทานอลคงต้องหยุดชะงักไปในระยะหนึ่ง แต่เชื่อว่า รัฐบาลจะต้องเร่งหามาตรการมารับมือกับปัญหาดังกล่าวต่อไป
ดร.เทียนไชย กล่าวว่า รัฐบาลต้องหามาตรการแก้ไขปัญหาราคาเบนซิน 91 ที่ลดลงมาใกล้เคียงกับราคาแก๊สโซฮอลล์ 91 ไม่ให้ช่องว่างของราคาใกล้เคียงกันมาก ไม่เช่นนั้นคนจะหันกลับไปใช้เบนซิน 91 แทน ส่วนเบนซิน 95 ไม่ค่อยมีผลหรือกระทบมากนัก ประเด็นดังกล่าวเป็นความเชื่อเรื่องคุณภาพของผู้ใช้ที่ค่อนข้างจะปรับเปลี่ยนได้ยาก และส่งผลให้ปริมาณการใช้แก๊สโซฮอลล์ไม่เป็นที่นิยม
“การปรับลดราคาดังกล่าว จะส่งผลให้การสนับสนุนแก๊สโซฮอลล์เป็นไปอย่างยากลำบากมากขึ้น จากเดิมที่ช่องว่างของเบนซิน 91 และแก๊สโซฮอลล์ 91 ห่างกันถึง 7.40 บาทยังไม่ค่อยมีคนหันมาใช้ คงต้องติดตามว่า รัฐบาลจะมีมาตรการแก้ไขอย่างไร” ดร.เทียนไชย กล่าว และว่า มีมาตรกาที่สามารถทำได้ คือ ลดภาษีสรรพสารมิตรที่ในเบื้องต้นจะยอมลดให้ 1.50 บาท รวมกับภาษีมหาดไทย 15 สตางค์ ภาษี vat รวมแล้วประมาณ 2 บาท ซึ่งหากทำได้จริง ก็น่าจะพอจูงใจกลุ่มที่ใช้แก๊สโซฮอลล์ไม่กลับไปใช้เบนซิน 91 แต่คงไม่แรงพอที่จะทำให้กลุ่มที่ใช้เบนซิน 91 หันกลับมาใช้แก๊สโซฮอลล์
นักวิชาการด้านพลังงาน กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาอุตสาหกรรมเอทานอลไปได้ไม่ค่อยไกล เนื่องจากผลิตแล้วขายไม่ค่อยได้ อุตสาหกรรมการผลิตก็ต้องหยุดชะงักในบางช่วงที่วัตถุดิบอย่างมันสำปะหลัง หรืออ้อยมีราคาแพง ซึ่งภาครัฐอาจต้องหาวิธีให้ช่วยผู้ผลิตบางกลุ่มที่มีปัญหาต้นทุนแพงในบางฤดูกาลให้สามารถยืนอยู่ เพื่อให้ต้นทุนใกล้เคียงกัน โรงงานผลิตได้อย่างสม่ำเสมอ และกิจการแก๊สโซฮอลล์ไม่หยุดชะงัก
“นโยบายพลังงานทดแทนในบ้านเราถือว่า พัฒนามาได้ไกลมาก เมื่อเทียบกับประเทศในแถบเพื่อนบ้านที่ไม่มีใครใช้เลย อุตสาหกรรมเอทานอลก็หวังจะให้มีการสนับสนุนให้กิจการพลังงานทดแทนเจริญก้าวหน้ากว่าที่เป็นอยู่ กระทรวงการคลัง กระทรวงแรงงานและกระทรวงเกษตร ต้องหันมาคุยกันว่า จะหามาตรการช่วยให้อุตสาหกรรมเอทานอลแข็งแรงและเป็นประโยชน์ในการผลิตพลังงานทดแทนของประเทศ เช่น เพิ่มโรงงานผลิต เพิ่มการรับซื้อวัตถุดิบที่จะช่วยชาวไร่โดยตรง เป็นนโยบายมองการณ์ไกลที่เป็นประโยชน์ เพราะหากรัฐปล่อยให้ภาคผู้ผลิตดูแลกันเองก็จะกระท่อนกระแท่นอย่างที่เป็นอยู่” นักวิชาการด้านพลังงาน กล่าว และว่า ต้องจับตาดู โครงสร้างราคาจะเป็นอย่างไรต่อไป จะมีการเพิ่มเงินชดเชยบางส่วนให้กองทุนน้ำมันหรือไม่ เพราะปัจจุบันกองทุนฯ ไม่มีรายได้แล้ว หากถึงขั้นติดลบ คงต้องกู้เงิน ซึ่งคิดว่า นโยบายรัฐบาลอาจจะต้องกู้ในเม็ดเงินมากกว่า 2 หมื่นล้าน แต่ก็นับว่าคุ้มค่ากว่ายุบเรื่องแก๊สโซฮอลล์
ดร.เทียนไชย กล่าวด้วยว่า นโยบายในกรอบระยะยาว 4 ปี ที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์แถลงออกมาค่อนข้างสอดคล้องกับทิศทางที่ทำกันมา คือ เพิ่มสัดส่วนของพลังงานทดแทนจากเดิม 20% ให้เป็น 25% อยู่ แต่นโยบายเร่งด่วน 1 ปีที่ประกาศชะลอการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันจะสวนทางกับนโยบาย 4 ปี ที่จะให้วางนโยบายระยะยาวยากขึ้น เป็นการถอยหลังกลับไปใหม่
“คาดว่า รัฐบาลคงทำนโยบายเร่งด่วนนี้แค่ในช่วงสั้นๆ ไม่เกิน 1 ปี เพราะเป็นนโยบายที่เคยหาเสียงไว้ หากไม่ทำก็อาจจะโดนโจมตีได้ แล้วรีบหาทางแก้ เพื่อไม่ให้ช่องว่างของราคาห่างกันเกินไปจนเกิดปัญหาใหญ่ ระยะหนึ่งก็ต้องยอมรับว่า ต้องปรับมาที่ราคาเดิม ซึ่งการปรับเพิ่มราคาคงไม่ใช่โจทย์ที่ง่ายอย่างแน่นอน ส่วนนโยบายระยะยาวแม้จะเป็นเรื่องดี แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ภาครัฐคงต้องทั้งเข็ญ ทั้งดึง ทั้งลากกันพอสมควรกว่าจะสำเร็จได้ เพราะต้นทุนพลังงานเหล่านี้แพง เป็นเหตุให้ทั่วโลกก็ยังทำเรื่องนี้ไม่สำเร็จ เพราะไม่สามารถแบกภาระได้ ทั้งนี้ ทั้งนโยบายระยะสั้น 1 ปีและระยะยาว 4 ปี ควรทำคู่ขนานกันไป เพราะการเปลี่ยนแปลงนโยบายพลังงานต้องใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน และไม่ใช่เรื่อง่าย”