- Home
- Thaireform
- ในกระแส
- จัดซื้อจัดจ้างนำโด่ง ร้องภาคีเครือข่ายต้านคอร์รัปชั่น
จัดซื้อจัดจ้างนำโด่ง ร้องภาคีเครือข่ายต้านคอร์รัปชั่น
“วิวัฒน์ เจริญพาณิชย์ศิริ” ยัน ติดตามประเมินผลสอบทุจริตใกล้ชิด หวั่นองค์กรขาดความน่าเชื่อถือ พร้อมเสนอตัวเป็นทางเลือกให้ผู้ร้องทุกข์ ไม่ต้องไปร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.-สตง. ด้วยตนเอง
นายวิวัฒน์ เจริญพาณิชย์ศิริ ผู้อำนวยการ ศูนย์ภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น กล่าวกับ “ศูนย์ข้อมูลข่าวสารปฏิรูปประเทศไทย” ถึงความคืบหน้าในการดำเนินการ ภายหลังเปิดศูนย์รับเรื่องร้องเรียนการทุจริตเมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า ขณะนี้มีการแจ้งข้อมูลเข้ามาทางศูนย์ฯ จำนวนมาก ซึ่งข้อมูลดังกล่าวก็มีทั้งข้อร้องเรียน ข้อชี้แนะ รวมถึงการแจ้งเบาะแสการทุจริตต่างๆ ส่วนที่เป็นข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริตนั้น ขณะนี้มีจำนวน 100 กว่าเรื่องด้วยกัน
“ข้อร้องเรียนการทุจริตส่วนใหญ่นั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างในภาครัฐ นอกจากนี้ก็เป็นข้อร้องเรียนในลักษณะที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมต่างๆ”
เมื่อถามว่า ข้อร้องเรียนการทุจริตดังกล่าวนั้น มีโครงการเมกะโปรเจ็คร่วมด้วยหรือไม่ นายวิวัฒน์ กล่าวว่า ก็มีอยู่ด้วย แต่ในส่วนของรายละเอียด ชื่อโครงการและพยานต่างๆ นั้นยังไม่สามารถเปิดเผยได้ขณะนี้ ต้องรอจนกว่ากระบวนการดำเนินการจะไปถึงระดับหนึ่งเสียก่อน ถึงจะสามารถแจ้งต่อสาธารณชนได้
นายวิวัฒน์ กล่าวถึงขั้นตอนการดำเนินการรับเรื่องร้องเรียนว่า หลังจากที่ทางศูนย์ฯ รับเรื่องร้องเรียนมาแล้วก็จะนำมาคัดกรองดูว่า ข้อร้องเรียนใดบ้างที่ดี มีเหตุผล จากนั้นก็จะประสานไปยังหน่วยงานที่มีอำนาจทางกฎหมาย อาทิ สำนักงานป้องกันละปราบปรามการทุจริตการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เพื่อเชิญหน่วยงานดังกล่าวเข้ามาเป็นคณะกรรมการร่วมกัน รวมถึงคัดกรองเรื่องร้องทุกข์ไปดำเนินการสืบสวนสอบสวนเชิงลึกต่อไป เพราะหน่วยงานดังกล่าวมีความชำนาญการในการตรวจและคัดเลือกอยู่แล้ว ส่วนทางศูนย์ฯ นั้นจะทำหน้าที่เป็นผู้ติดประเมินผลการดำเนินงานดังกล่าว
“เราตระหนักดีว่า ที่ผ่านมาองค์กรหรือหน่วยงานต่างๆ ที่เปิดรับเรื่องร้องทุกข์แล้วไม่ผลงาน ในที่สุดองค์กรก็ขาดความเชื่อถือ ดังนั้นจึงเน้นเรื่องการติดตามผลอย่างมาก”นายวิวัฒน์ กล่าว และว่า อย่างไรก็ตาม ต้องเข้าใจด้วยว่าศูนย์ภาคีเครือข่ายฯ นั้นไม่ได้มีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะไปสอบสวนสืบสวน เราเพียงแต่ทำหน้าที่เฝ้าระวัง (Watch Dog) และเป็นอีกช่องทางหนึ่งสำหรับผู้ร้องเรียนที่ไม่ต้องไปร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. สตง. หรือ ป.ป.ท. ด้วยตนเอง ส่วนกระบวนการจะเป็นอย่างไรนั้นก็ขึ้นอยู่กับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง