- Home
- Thaireform
- ในกระแส
- คนนนท์ จี้ ผู้ว่าฯ เจรจา กทม.เปิด ปตร.คลองมหาสวัสดิ์-ยื่นคำขาดเข้าบ้าน 1 ธ.ค.
คนนนท์ จี้ ผู้ว่าฯ เจรจา กทม.เปิด ปตร.คลองมหาสวัสดิ์-ยื่นคำขาดเข้าบ้าน 1 ธ.ค.
ผู้ว่าฯนนท์ นัด ปชช.ฟังผลเจรจา 20 พ.ย.นี้ เผย ระดมเครื่องสูบกว่า 1,000 เครื่องเร่งระบายน้ำ ด้าน ส.ส.ฉลอง ประกาศกร้าว น้ำไม่ลด “ผมรับผิดชอบเอง”
วันที่ 18 พฤศจิกายน ที่ศาลากลางจังหวัดนนทบุรี ชาวบ้านจากอำเภอบางกรวย บางบัวทอง บางใหญ่ และไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี ประมาณ 500 คน เข้าพบนายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี เพื่อให้แก้ปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ดังกล่าวซึ่งกินเวลา 1 เดือนเศษให้ลดลงโดยเร็ว โดยตัวแทนชาวบ้านเรียกร้อง ให้มีการเปิดประตูระบายน้ำบริเวณคลองมหาสวัสดิ์ เพื่อระบายน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ให้มีระดับลดลง 20 เซนติเมตร เนื่องจากเห็นว่าพื้นที่บางกรวยยังมีระดับท่วมสูง ขณะที่เขตบางพลัด กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพื้นที่ติดต่อน้ำได้ลดลงจนแห้งแล้ว จึงเห็นว่า น่าจะมีการแบ่งเบาน้ำเพื่อช่วยชาวบ้านในฝั่งนนทบุรีบ้าง
ขณะเดียวกันก็ได้มีการเสนอให้มีการระบายน้ำในลักษณะน้ำล้นข้ามคันกระสอบทราย และเรียกร้องให้ผู้ว่าฯนนทบุรี ประสานงานไปยังผู้ว่าฯ กทม. โดยเร็ว นอกจากนี้ได้ยื่นคำขาดด้วยว่า 1 ธ.ค. นี้ ประชาชนต้องสามารถกลับเข้าสู่บ้านเรือนได้ในวันที่ โดยระดับน้ำไม่ต้องถึงขั้นแห้งสนิท เพียงแต่ระดับน้ำไม่ควรสูงเกิน 20 ซม. เพื่อให้สามารถสัญจรและกลับเข้าไปพักอาศัยในบ้านเรือนได้ หลังจากผู้คนส่วนใหญ่อพยพออกมาจากบ้านเรือนเป็นเวลาเดือนเศษแล้ว
ด้านนายวิเชียร กล่าวว่า ทางจังหวัดนนทบุรีกำลังเร่งสูบน้ำออกทางแม่น้ำท่าจีน เนื่องจากการแก้ปัญหาต้องไม่เดือดร้อนใคร ขณะเดียวกันได้มีการเร่งเพิ่มศักยภาพการระบายน้ำโดยได้ประสานกับนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อระดมเครื่องสูบน้ำจากจังหวัดต่างๆ ที่สถานการณ์น้ำคลี่คลายแล้วเข้ามาช่วยสูบน้ำในจังหวัดนนทบุรี
“เบื้องต้นได้รับการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำพญานาคจากจังหวัดนครสวรรค์ 1,000 เครื่อง และเครื่องสูบน้ำขนาด 12 นิ้วจากจังหวัดชัยนาทจำนวน 5 เครื่อง นอกจากนี้กระทรวงทรัพย์ฯ ยังสนับสนุนเครื่องสูบน้ำอีก 20 เครื่อง คาดว่า น้ำในพื้นที่บางกรวย บางบัวทอง บางใหญ่ จะท่วมขังในพื้นที่ถึงสิ้นเดือนธันวาคม ขณะที่อำเภอไทรน้อยนั้นคาดว่าจะท่วมนานอีก 4 เดือน เนื่องจากเป็นพื้นที่ต่ำ แต่เนื่องจากข้อเรียกร้องของประชาชนคือวันที่ 1 ธ.ค. ตนจะเร่งประสานงานไปยังผู้ว่าฯ กทม. โดยเร็ว ทั้งนี้ คงต้องขอเวลาในการหารือก่อน โดยในวันอาทิตย์ที่ 20 พ.ย. เวลา 13.00 น. จะนำข้อสรุปมาแจ้งต่อประชาชนให้ทราบอีกครั้ง ณ ศาลากลางจังหวัดนนทบุรี”
ส่วนเรื่องการเยียวยานั้น ผู้ว่าฯ กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านเรือนที่เสียหายพร้อมถ่ายภาพ โดยประชาชนสามารถนำบัตรประชาชนมายื่นเพื่อขอรับเงินเยียวยา 5,000 บาทได้ทันที ขณะที่แบบคำร้องสามารถดาวน์โหลดได้ทางเว็บไซต์ของจังหวัด ส่วนมาตรการถาวรในการรับมือน้ำท่วมปีถัดไป ทางจังหวัดได้เสนองบประมาณในการสร้างประตูระบายน้ำ แนวเขื่อนซีเมนต์ และเขื่อนแนวคลองมหาสวัสดิ์
"ขณะที่นนทบุรีมีงบประมาณเพียง 100 ล้านบาทเท่านั้นจึงไม่สามารถสร้างเขื่อนได้ ขณะที่ฝั่งกรุงเทพฯ ได้งบประมาณกว่า 30,000 ล้านบาทในการสร้างเขื่อนดังกล่าว"
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ระหว่างการประชุมชาวบ้านรายหนึ่งตั้งคำถามว่า หากน้ำไม่ลด ประชาชนไม่สามารถกลับเข้าบ้านในวันที่ 1 ธ.ค.นี้ จะลาออกหรือไม่ โดยนายฉลอง เรี่ยวแรง ส.ส.จังหวัดนนทบุรี พรรคเพื่อไทย ซึ่งเข้าร่วมประชุมในขณะนั้น ประกาศจะรับผิดชอบเอง แต่ต้องตกลงให้เข้าใจว่า น้ำลดในระดับที่สามารถกลับเข้าบ้านได้ ไม่ได้หมายความว่า แห้งสนิท ซึ่งอาจมีน้ำเอ่อบนถนนบ้าง และถ้าเป็นไปตามเงื่อนไขดังกล่าว ก็พร้อมจะรับผิดชอบ และจะช่วยประสานไปยังผู้ว่าฯ กทม.อีกทางหนึ่งให้มีการเปิดประตูระบายน้ำคลองมหาสวัสดิ์ตามที่ประชาชนร้องขอ
ส่วนกรณีที่คนไทรน้อยต้องท่วมนานถึง 4 เดือนนั้น นายฉลอง กล่าวว่า คนไทรน้อย หรือผู้ที่เป็นชาวนนทบุรีแท้ๆ นั้นสามารถอยู่กับน้ำได้ เพราะชินกับธรรมชาติและเข้าใจดีว่า น้ำจากทางภาคเหนือ ทั้งจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปทุมธานีต้องแห้งเสียก่อน ในพื้นที่ดังกล่าวน้ำถึงจะลด ส่วนประชาชนที่เดือดร้อนส่วนใหญ่เป็นหมู่บ้านจัดสรร เมื่อไม่เห็นความชัดเจนในการบริหารจัดการก็ทนไม่ได้ ดังนั้น ข้อเรียกร้องต่างๆ ตนจะจัดการทันที