- Home
- Thaireform
- ในกระแส
- รมว.คลัง จับมือภาคเอกชน เปิดแนวคิด บ.สีขาว ตรวจสอบทุจริตจัดซื้อจัดจ้าง
รมว.คลัง จับมือภาคเอกชน เปิดแนวคิด บ.สีขาว ตรวจสอบทุจริตจัดซื้อจัดจ้าง
ธีระชัย แนะหน่วยงานรัฐเปิดเผยข้อมูล เผยแพร่บนเว็บไซต์ สร้างความโปร่งใสแก่สาธารณชน ด้าน กรรมการหอการค้าเผย หากภาครัฐจริงจัง เอกชนพร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการเพื่อกำหนดมาตรการทางธุรกิจสำหรับป้องกัน การทุจริตคอร์รัปชั่น ว่า ที่ประชุมได้รับทราบการดำเนินงานของคณะกรรมการฯ ชุดก่อนที่ได้มีการจัดตั้งในปี 2551 และเห็นว่าเป็นประโยชน์สามารถนำมาสานต่อได้
"ทั้งนี้ ได้กำหนดแนวทางให้ภาครัฐและเอกชนร่วมกันจัดตั้งกลุ่มบริษัทสีขาว เพื่อตรวจสอบกระบวนการและขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างให้เป็นไปด้วยความโปร่งใส โดยให้ภาคเอกชนไปศึกษารายละเอียด อาทิ คุณสมบัติของผู้ที่จะเข้ามาเป็นคณะกรรมการ หลักเกณฑ์ในการลงโทษผู้ทุจริต โดยเฉพาะหากพบมีเอกชนทุจริต จะแก้ปัญหาหรือกำกับดูแล ตรวจสอบกันเองอย่างไร"
นอกจากนี้ นายธีระชัย กล่าวอีกว่า เพื่อเพิ่มความโปร่งใสให้กับหน่วยงานต่างๆ ต้องมีการรวบรวมข้อมูลการกำหนดราคากลาง กระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ตลอดจนการส่งมอบและตรวจรับงาน รวมถึงข้อร้องเรียนขึ้นเผยแพร่บนเว็บไซต์ เพื่อให้สาธารณชนและผู้ประกอบธุรกิจเข้ามาตรวจสอบข้อมูลได้ ทั้งจากเว็บไซต์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเว็บไซต์หลักของกรมบัญชีกลาง
"ขณะเดียวกัน จะนำรูปแบบของการจัดการทุจริตคอร์รัปชั่นในต่างประเทศเข้ามาปรับใช้ในการตรวจสอบ โดยอาจนำร่องในบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จะต้องมีการควบคุมระบบภายในไม่ให้เกิดการทุจริต พร้อมมอบหมายให้ทีมงานไปหารือร่วมกับสภาวิชาชีพบัญชี ในการเข้าตรวจสอบความผิดปกติของบัญชีในบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หากเกิดข้อสงสัยหรือมีข้อร้องเรียน"
ด้าน นายวิชัย อัศรัสกร กรรมการเลขาธิการหอการค้าไทย กล่าวว่า ในที่ประชุมได้มีการพูดถึงเรื่องการบังคับใช้กฎหมายใหม่ การบังคับให้ใช้กฎหมายอย่างเปิดเผยข้อมูลต่างๆ ซึ่งทาง รมว.ก็ไล่เลียงมาทางกรมบัญชีกลางว่าจะปฏิบัติตามกฎหมายอย่างไร
"ส่วนในเรื่องของการเปิดเผยงบประมาณของทุกกระทรวง ทบวง กรม และTOR ว่าแต่ละโครงการมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง ซึ่งรวมถึงราคากลางของแต่ละโครงการด้วย ทั้งหมดนี้เป็นในส่วนของการเปิดเผยก่อนที่จะมีการประมูล นอกจากนี้ในช่วงการประมูล ก็ยังต้องมีขั้นตอนต่างๆ เช่น การเปิดเผยรายชื่อ ผู้ที่เข้าร่วมประมูล ร่วมถึงขั้นตอนประมูลต่างๆ"
นายวิชัย กล่าวต่อว่า ในเรื่องของการจัดซื้อจัดจ้างนั้นครอบคลุมหมด ไม่ใช่เป็นเรื่องงบฟื้นฟูน้ำท่วมเพียงอย่างเดียว ซึ่งในเรื่องนี้ที่ประชุมนั้นให้ทางภาคเอกชนเข้าไปช่วยดูในเรื่องของหลักเกณฑ์และการเปิดเผยข้อมูลต่างๆ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ให้ภาคเอกชนเข้าไปดูว่าขั้นตอนไม่มากจนเกินไปจนทำให้การอนุมัติงบประมาณล่าช้า และไม่ได้นำไปใช้ประโยชน์ตามที่ตั้งใจไว้
"การที่ รมว.คลัง ขึ้นมาเป็นประธานเองนั้น เป็นเรื่องที่ดี และเป็นการขยับระดับการทำงาน เพราะจะทำให้มีการขับเคลื่อนที่มากขึ้น และหาก รมว.คลังมีความจริงเอาจังตามที่ร่วมประชุม ทางภาคเอกชนก็ยืนยันว่าจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่"