ปธ.นพเก้ารวมใจปัดเป็นนอมินี‘ศุภชัย-คลองจั่น’-ขายทรัพย์สินทุนจีนหมื่น ล.ใช้หนี้

เขียนวันที่

วันอังคาร ที่ 02 สิงหาคม 2559 เวลา 14:39 น.

เขียนโดย

isranews

หมวดหมู่

Tags

สหกรณ์เคหสถานนพเก้ารวมใจ | สหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจำกัด | สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น

ปธ.สหกรณ์นพเก้ารวมใจฯ ตั้งโต๊ะแถลง ปัดเป็นนอมินี ‘ศุภชัย-สหกรณ์คลองจั่น’ ยันไม่เคยรู้จักกันส่วนตัว ไม่เชื่อตรวจสอบได้ เตรียมขายทรัพย์สินทั้งหมดแก่ทุนจีน ‘Hebei-มอนเทอเรย์ฯ’ กว่าหมื่นล้าน ใช้หนี้

PIC achiradet 2 8 59 1

จากกรณีสหกรณ์เคหสถานนพเก้ารวมใจ ถูกสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยื่นฟ้องต่อศาลมีนบุรี เรียกคืนเงินต้น+ดอกเบี้ยเงินฝากรวมเป็นเงินกว่า 1,063 ล้านบา เนื่องจากสหกรณ์นพเก้ารวมใจฯ ไม่ยอมคืนเงินต้น+ดอกเบี้ยตามกำหนด

อย่างไรก็ดีนายอชิรเดช หรือวนวัชร์ กนโชติชัยวัชร์ ประธานสหกรณ์นพเก้ารวมใจฯ เคยระบุว่า กรณีนี้เกิดขึ้นจากสาเหตุที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ มีหนังสือมาขอให้ระงับการทำโครงการบ้านจัดสรร ‘บ้านสวนสารคาม’ ที่นำเงินฝากจากสหกรณ์จุฬาฯมาลงทุน รวมมูลค่าปัจจุบันกว่าพันล้านบาท ทำให้ไม่สามารถขายบ้านให้กับสมาชิกสหกรณ์อื่น ๆ ได้ แต่ปัจจุบันได้ติดต่อกลุ่มทุนจากประเทศจีนเพื่อให้เข้ามาซื้อทรัพย์สินดังกล่าวแล้ว คาดว่าจะจำหน่ายได้ภายในสิ้นปี 2559 นั้น

(อ่านประกอบ : ถูกคำสั่งระงับทำบ้านจัดสรร! ปธ.นพเก้ารวมใจขายต่อทุนจีนพัน ล.คืน‘จุฬา’ครบแน่)

ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า นายอชิรเดช หรือวนวัชร์ ได้เชิญผู้สื่อข่าวไปที่สหกรณ์นพเก้ารวมใจฯ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องต่าง ๆ ร่วมกันกับคณะกรรมการสหกรณ์นพเก้ารวมใจ

นายอชิรเดช หรือวนวัชร์ กล่าวถึงกรณีการฝากเงินของสหกรณ์จุฬาฯ ว่า กรณีนี้เริ่มต้นจากที่สหกรณ์จุฬาฯ และสหกรณ์ออมทรัพย์อื่น ๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น สหกรณ์ออมทรัพย์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม สหกรณ์ออมทรัพย์มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สหกรณ์ออมทรัพย์สาธารณสุขมหาสารคาม เป็นต้น ได้เซ็นสัญญาความร่วมมือกัน (MOU) เพื่อก่อสร้างที่พักแล้วขายในราคาถูกให้กับบรรดาสมาชิกสหกรณ์เหล่านั้น จึงได้เลือกสหกรณ์นพเก้ารวมใจฯ เป็นผู้ลงมือก่อสร้าง โดยสหกรณ์จุฬาฯ ได้ทยอยฝากเงินกับสหกรณ์นพเก้ารวมใจฯ เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง นับตั้งแต่ปี 2554 และดำเนินการแล้วเสร็จไปแล้ว 2 เฟสแรก เมื่อประมาณปี 2557 รวมมูลค่ากว่าพันล้านบาท อย่างไรก็ดีช่วงกลางปี 2557 กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ส่งหนังสือมา มีคำสั่งให้ระงับการดำเนินการโครงการ ‘บ้านสวนสารคาม’ ไว้ก่อน เนื่องจากขัดกับ พ.ร.บ.สหกรณ์ฯ ที่ระบุว่า ในการก่อสร้างสิ่งใดสามารถขายได้แค่สมาชิกภายในสหกรณ์ตนเองเท่านั้น ไม่สามารถขายให้กับสมาชิกสหกรณ์อื่นได้ และต้องระงับโครงการดังกล่าวภายใน 180 วัน

นายอชิรเดช กล่าวอีกว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว สหกรณ์นพเก้ารวมใจฯ พยายามชี้แจงข้อเท็จจริง และส่งหนังสืออุทธรณ์ไปยังกรมส่งเสริมสหกรณ์ เนื่องจากระยะเวลา 180 วันสั้นเกินไป แต่เรื่องก็เงียบหายไป กระทั่งช่วงต้นปี 2559 กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ส่งหนังสือตอบกลับมายังสหกรณ์นพเก้ารวมใจฯ โดยระบุเนื้อหาทำนองว่า อนุมัติให้ระงับโครงการดังกล่าวภายใน 1 ปี 2 เดือน และอนุมัติให้ขายต่อกับกลุ่มทุนอื่นที่ไม่ใช่สหกรณ์นพเก้ารวมใจฯ ไปจัดการได้ ซึ่งตนได้ติดต่อไปยังกลุ่มทุนจีนแล้วคือ Hebei Saving Energy Investment Company Limited ร่วมกันกับกลุ่มทุนจากไทยคือ บริษัท มอนเทอเรย์ พาร์ค รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) โดยกลุ่มทุน Hebei ได้ตรวจสอบเครดิตกับธนาคารจากประเทศจีนแล้ว พบว่า มีสินทรัพย์มากกว่า 3,000 ล้านบาทหยวน หรือประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาท ในการที่จะนำมาซื้อทรัพย์สินจากสหกรณ์นพเก้ารวมใจฯทั้งหมด

“การขายครั้งนี้ เป็นการขายสินทรัพย์ของสหกรณ์นพเก้ารวมใจฯทั้งหมด ไม่ใช่แค่โครงการบ้านสวนสารคาม ซึ่งทรัพย์สินทั้งหมดของเรามีประมาณกว่าหมื่นล้านบาท ดังนั้นการขายครั้งนี้ เมื่อได้เงินมาเราก็นำไปคืนเจ้าหนี้ เช่น สหกรณ์จุฬาฯ ที่เราติดไว้ประมาณ 1,063 ล้านบาท รวมถึงลูกหนี้รายอื่น ๆ ด้วย ส่วนเงินที่เหลือก็จะนำมาบริหารจัดการสหกรณ์ฯต่อไป” นายอชิรเดช กล่าว

เมื่อถามว่า สหกรณ์นพเก้ารวมใจฯถูกมองว่ามีความสัมพันธ์กับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น นายอชิรเดช กล่าวว่า ในฐานะที่ทำงานในแวดวงธุรกิจการก่อสร้าง ก็รู้จักกันหมด นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์คลองจั่นฯ ก็รู้จัก แต่เขาจะรู้จักตนหรือไม่ ไม่ทราบ เพราะเขาก็โด่งดังในแวดวงสหกรณ์ รวมถึงเรื่องราวคดีความต่าง ๆ แต่ยืนยันว่า ไม่มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์ หรือความเกี่ยวโยงอะไรกับสหกรณ์คลองจั่นฯ และนายศุภชัย แต่อย่างใด

“สหกรณ์ฯเราไม่เคยปล่อยกู้หรือกู้เงินจากสหกรณ์คลองจั่นฯ ไม่เคยทำธุรกรรมร่วมกัน ผมไม่เคยรู้จักกับเขา (นายศุภชัย) เป็นการส่วนตัว รู้แค่ว่าเขาดัง เขามีคดีความอยู่ แต่ที่ถูกเชื่อมโยงเพราะเราเป็นหนี้สหกรณ์จุฬาฯเหมือนกัน คนก็เลยมองว่า ผมหรือสหกรณ์ฯเราเป็นนอมินีให้เขา ซึ่งไม่จริง ผมก็ดำเนินงานสหกรณ์ฯของผม ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกัน เรื่องนี้ตรวจสอบได้ทั้งหมด” นายอชิรเดช กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบข้อมูลกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า บริษัท มอนเทอเรย์ พาร์ค รีสอร์ท จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 2557 ทุนปัจจุบัน 193,417,000 บาท ตั้งอยู่ที่ 98 ม.15 ต.ท้ายทุ่ง อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร ประกอบธุรกิจเช่า หรือดำเนินกิจการเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ของตนเอง หรือผู้อื่น

อ่านประกอบ :