ยื่นนายกฯสอบ จนท.ดีเอสไอใช้อำนาจเกินเลย อายัดบัญชี 15 เดือน -ไม่แตะผู้ค้ารายใหญ่

เขียนวันที่

วันศุกร์ ที่ 09 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 16:30 น.

เขียนโดย

isranews

หมวดหมู่

Tags

ตัวแทนกลุ่มสหกรณ์วิเศษฯ ยกขบวนยื่นหนังสือ พล.อ.ประยุทธ์ ขอให้ตั้ง กก.สอบ ปม ดีเอสไออายัดบัญชีเงินฝากตั้งแต่ พ.ย.59 คดีจัดซื้ออาหารดิบเรือนจำสุพรรณฯ ป่านนี้ไม่เสร็จ ไม่ถึงอัยการ ไม่แจ้งข้อหาผู้ร่วมเสนอราคาทั้งที่อ้างร่วมกันฮั้ว ซัดเกรงกระทบผู้ค้ารายใหญ่ ก่อนหน้าร้อง รมว.ยุติธรรม ด้วย

090218 nnews

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อช่วงวันที่ 9 ก.พ.2561 ตัวแทนสหกรณ์การเกษตรวิเศษชัยชาญ จำกัด เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่าน ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล

1.ขอให้มีบัญชาสั่งการให้กระทรวงยุติธรรมตั้งคณะกรรมการสอบสวน กรณีผู้อำนวยการกองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการ รวกรมสอบสวนคดีพิเศษ สั่งอายัดเงินในบัญชีของสหกรณ์การเกษตรวิเศษชัยชาญ จำกัด และมีคำสั่งให้กรมราชทัณฑ์ ชะลอการจ่ายเงินค่าอาหารดิบสำหรับใช้เลี้ยงผู้ต้องขัง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 และปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 ที่กรมราชทัณฑ์มีหน้าที่จะต้องจ่ายเงินให้สหกรณ์การเกษตรวิเศษชัยชาญ จำกัด เป็นเวลากว่า 15 เดือน ตามที่ได้ลงนามในสัญญาจะซื้อจะขายกับเรือนจำ 4 แห่ง เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบและเกินความจำเป็นอันควรกระทำ เกินอำนาจหน้าที่ ทำให้ได้รับความเดือดร้อน และถูกตัวแทนในการจัดส่งอาหารดิบสำหรับใช้เลี้ยงผู้ต้องขัง ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายอยู่ในขณะนี้

2.มีบัญชาสั่งการให้กระทรวงยุติธรรมสั่งให้กรมสอบสวนคดีพิเศษถอนการอายัดเงินของสหกรณ์พร้อมทั้งตั้งคณะกรรมการสอบสวนเจ้าหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ 2 คน เห็นควรให้นายกรัฐมนตรีมีบัญชาสั่งการให้กระทรวงยุติธรรม พิจารณาสั่งย้าย ให้ไปปฏิบัติหน้าที่ราชการในหน่วยงานอื่น แล้วจึงดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อลงโทษต่อไป

ทั้งนี้ หนังสือถึงนายกฯสรุปสาระสำคัญดังนี้

1.การที่ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญา ของดีเอสไอ ได้ใช้อำนาจสั่งอายัดเงินในบัญชีของสหกรณ์การเกษตรวิเศษชัยชาญ จำกัด ซึ่งเป็นเงินที่ได้มาจากการจำหน่ายอาหารดิบ สำหรับใช้เลี้ยงผู้ต้องขัง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2559 ให้กับเรือนจำจังหวัดอ่างทอง เรือนจำกลางลพบุรี เรือนจำจังหวัดปทุมธานี เรือนจำกลางสมุทรสงคราม เรือนจำจังหวัดสระบุรี ไว้ตั้งแต่วันที่ 18 พ.ย. 2559 จนถึงปัจจุบัน นับเป็นระยะเวลานานมากถึง 15 เดือน แต่กรมสอบสวนคดีพิเศษก็ยังไม่สามารถรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อส่งให้อัยการพิจารณาได้นั้นจึงปรากฏข้อเท็จจริงให้เป็นที่ประจักษ์แล้วว่าไม่มีการสอบสวนเพื่อแสวงหาพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงให้เป็นที่เรียบร้อยเสียก่อนแล้วจึงทำการสั่งอายัดเงินของสหกรณ์การเกษตรวิเศษชัยชาญ จำกัด

2.พนักงานสอบสวนดีเอสไอ สั่งอายัดเงินค่าอาหารดิบสำหรับใช้เลี้ยงผู้ต้องขังในบัญชีของสหกรณ์และได้แจ้งข้อกล่าวหากับสหกรณ์การเกษตรวิเศษชัยชาญ จำกัด ว่าได้มีการตกลงร่วมกันในการเสนอราคากับชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด ที่เรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรี ตั้งแต่วันที่ 12 ม.ค.2560 จนถึงปัจจุบัน นับเป็นระยะเวลามากถึง 13 เดือนแล้ว แต่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาพร้อมทั้งทำการสั่งอายัดเงินในบัญชีของชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด ดังเช่นการปฏิบัติกับสหกรณ์การเกษตรวิเศษชัยชาญ จำกัด แต่ประการใด

3. ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 สหกรณ์การเกษตรวิเศษชัยชาญ จำกัด ได้เข้าร่วมแข่งขันการเสนอราคากับองค์การตลาด กระทรวงมหาดไทย กันเพียง 2 ราย ที่เรือนจำจังหวัดอ่างทอง เรือนจำกลางสมุทรสงคราม เรือนจำจังหวัดปทุมธานีและเรือนจำกลางลพบุรี แต่สหกรณ์การเกษตรวิเศษชัยชาญ จำกัด ก็ยังถูกเจ้าหน้าที่ดีเอสไอกล่าวหาว่าสหกรณ์ได้มีการตกลงร่วมกันในการเสนอราคากับชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด พร้อมทั้งทำการสั่งอายัดเงินของสหกรณ์เอาไว้ทั้งหมดเช่นเดียวกัน

อีกทั้งในการเสนอราคาที่เรือนจำจังหวัดสระบุรี นอกจากสหกรณ์การเกษตรวิเศษชัยชาญ จำกัด จะเข้าร่วมแข่งขันการเสนอราคากับชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด แล้วก็ยังมีองค์การตลาด กระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมแข่งขันการเสนอราคาอีก 1 รายด้วย แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่เคยมีการแจ้งข้อกล่าวหากับองค์การตลาด กระทรวงมหาดไทย ในข้อหาเดียวกันกับสหกรณ์การเกษตรวิเศษชัยชาญ จำกัด แต่ประการใด

4.การจัดซื้ออาหารดิบสำหรับใช้เลี้ยงผู้ต้องขัง โดยวิธีกรณีพิเศษของเรือนจำจังหวัดอ่างทอง เรือนจำกลางลพบุรี เรือนจำจังหวัดปทุมธานี เรือนจำกลางสมุทรสงคราม เรือนจำจังหวัดสระบุรีและเรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรีนั้น เรือนจำจะเป็นผู้ใช้ดุลพินิจ แจ้งให้หน่วยงานที่ได้รับสิทธิพิเศษตามมติคณะรัฐมนตรี คือ องค์การตลาด กระทรวงมหาดไทย องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร องค์การคลังสินค้า ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด และสถาบันเกษตรกรให้มาเสนอราคา ฉะนั้น ด้วยเหตุผลดังกล่าวสหกรณ์การเกษตรวิเศษชัยชาญ จำกัด จึงไม่อาจที่จะทราบได้ว่าเรือนจำต่างๆดังกล่าวได้แจ้งให้หน่วยงานใดมาเสนอราคาบ้าง และก็ไม่สามารถที่จะทราบได้ว่าจะมีหน่วยงานใดมาเสนอราคาบ้าง อีกทั้งยังเห็นว่าการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เสนอราคาทุกรายว่า ผู้เสนอราคารายใดมีประโยชน์ร่วมกันหรือไม่ ก็เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการจัดซื้อโดยตรง และถ้าในกรณีที่คณะกรรมการฯตรวจพบว่าผู้เสนอราคารายใด มีประโยชน์ร่วมกัน คณะกรรมการจะต้องตัดสิทธิ์ผู้เสนอราคาดังกล่าว พร้อมทั้งต้องแจ้งความดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติเกี่ยวกับการกระทำความผิดในการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 กับผู้เสนอราคาที่มีประโยชน์ร่วมกันต่อไป

5. สหกรณ์การเกษตรวิเศษชัยชาญ จำกัด ได้มีโอกาสเข้าร่วมเสนอราคาในการจัดซื้ออาหารดิบสำหรับใช้เลี้ยงผู้ต้องขังครั้งแรก ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 ที่เรือนจำจังหวัดสระบุรี เรือนจำจังหวัดอ่างทอง เรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เรือนจำกลางพระนครศรีอยุธยา ทัณฑสถานบำบัดพิเศษพระนครศรีอยุธยา และ ทัณฑสถานวัยหนุ่มพระนครศรีอยุธยา ซึ่งในการเสนอราคาดังกล่าว ถึงแม้สหกรณ์การเกษตรวิเศษชัยชาญ จำกัด จะเสนอราคาสู้องค์การตลาด กระทรวงมหาดไทยและชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด ไม่ได้ แต่การที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมเสนอราคาของสหกรณ์ ก็ได้ส่งผลทำให้องค์การตลาด กระทรวงมหาดไทย และชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด ต้องลดราคาลงมาสู้กับราคาของสหกรณ์ จนทำให้ราชการสามารถประหยัดงบประมาณลงได้มากกว่า 100,000,000 บาท(หนึ่งร้อยล้านบาท) แต่สหกรณ์การเกษตรวิเศษชัยชาญ จำกัด ไม่ถูกดำเนินคดี ดังเช่น การเสนอราคาที่เรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรี ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2559

6. ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด เป็นคู่สัญญาในการจัดส่งอาหารดิบสำหรับใช้เลี้ยงผู้ต้องขังของเรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรี และเรือนจำจังหวัดสระบุรี มาอย่างต่อเนื่องโดยตลอดทุกปีงบประมาณ การจัดซื้อในปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 สหกรณ์การเกษตรวิเศษชัยชาญ จำกัด ได้มีโอกาสเข้าร่วมแข่งขันการเสนอราคากับชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด และสหกรณ์การเกษตรวิเศษชัยชาญ จำกัด ได้เสนอราคาต่ำกว่าราคากลางประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ และเป็นผู้ชนะในการเสนอราคา ได้เป็นคู่สัญญากับเรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรี แต่ถูกชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด ร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี จนทำให้ถูกสั่งให้หยุดการส่งอาหารดิบสำหรับใช้เลี้ยงผู้ต้องขัง ให้กับเรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นระยะเวลา 13 วัน แต่กรมสอบสวนคดีพิเศษก็ยังเห็นว่าสหกรณ์การเกษตรวิเศษชัยชาญ จำกัด ได้มีการตกลงร่วมกันในการเสนอราคากับชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด ได้อีก

ฉะนั้น จากรายละเอียดดังกล่าวข้างต้น จึงปรากฏข้อเท็จจริงให้เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า สหกรณ์การเกษตรวิเศษชัยชาญไม่มีพฤติกรรมในการตกลงร่วมกันในการเสนอราคากับชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด เลยแม้แต่ครั้งเดียว

ในตอนท้ายของหนังสือระบุว่า สหกรณ์การเกษตรวิเศษชัยชาญ จำกัด ไม่เคยปฏิเสธการบังคับใช้กฎหมายของกรมสอบสวนคดีพิเศษ แต่ขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินคดีกับสหกรณ์การเกษตรวิเศษชัยชาญ จำกัด ด้วยความเป็นธรรม และอย่าให้มีการใช้เทคนิคในการสืบสวนสอบสวน เพื่อประวิงเวลาจนทำให้เกิดความเสียหายกับสหกรณ์การเกษตรวิเศษชัยชาญ จำกัด อีกทั้งยังได้มีการร้องขอเพื่อให้เปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน แต่การร้องขอของสหกรณ์ไม่เป็นผล จนทำให้สหกรณ์การเกษตรวิเศษชัยชาญ จำกัด ได้รับความเดือดร้อนและเสียหาย เนื่องจากถูกตัวแทนในการจำหน่ายอาหารดิบของสหกรณ์ ทั้งในปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 และ พ.ศ. 2560 ฟ้องร้องเรียกเงินค่าอาหารดิบ ที่ถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษ สั่งอายัดมาเป็นระยะเวลานานมากถึง 15 เดือน พร้อมดอกเบี้ยและค่าเสียหายต่างๆอยู่ในขณะนี้

“สหกรณ์การเกษตรวิเศษชัยชาญ จำกัด พร้อมด้วยตัวแทน เคยร้องเรียนต่อฯพณฯนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอดว่า การจัดซื้ออาหารดิบสำหรับใช้เลี้ยงผู้ต้องขังของกรมราชทัณฑ์ มีการผูกขาดจากกลุ่มผู้ค้ารายใหญ่และมีกรณีการทุจริตเกิดขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก อีกทั้งการที่สหกรณ์การเกษตรวิเศษชัยชาญ จำกัด จะได้เป็นคู่สัญญากับเรือนจำแต่ละครั้ง ก็ยังถูกกลุ่มผู้ค้ารายใหญ่ทำการร้องเรียนให้ชะลอการลงนามในสัญญามาโดยตลอด เช่นกรณีที่เกิดขึ้นที่เรือนจำพิเศษพัทยา ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ที่สหกรณ์เป็นผู้ชนะในการเสนอราคา แต่ไม่สามารถลงนามในสัญญาได้ เนื่องจากถูกอธิบดีกรมราชทัณฑ์(ในขณะนั้น) สั่งให้ชะลอการลงนามในสัญญาไว้ และสามารถลงนามในสัญญาได้ต่อเมื่อระยะเวลาตามสัญญาเหลือเพียง 25 วัน จากระยะเวลาที่กำหนดไว้จำนวน 300 วัน และในกรณีที่ถูกคำสั่งให้หยุดการส่งอาหารดิบสำหรับใช้เลี้ยงผู้ต้องขังให้กับเรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นระยะเวลา 13 วัน ตามที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น"

ระบุอีกว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้สั่งให้ทำการอายัดเงินในบัญชีของสหกรณ์การเกษตรวิเศษชัยชาญ จำกัด ตั้งแต่วันที่ 18 พ.ย. 2559 จนถึงขณะนี้ รวมระยะเวลานานมากถึง 15 เดือน และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ยังได้มีหมายเรียกให้สหกรณ์การเกษตรวิเศษชัยชาญ จำกัด ไปรับทราบข้อกล่าวหากับกรมสอบสวนคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 12 ม.ค. 2560 ซึ่งนับจนถึงปัจจุบัน กรมสอบสวนคดีพิเศษ ยังไม่เคยแจ้งข้อกล่าวหาและทำการสั่งอายัดเงินในบัญชีของชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด เลยแม้แต่น้อย อีกทั้งยังไม่เคยมีการกล่าวหาว่าองค์การตลาด กระทรวงมหาดไทย ได้มีการตกลงร่วมกันในการเสนอราคากับสหกรณ์การเกษตรวิเศษชัยชาญ จำกัด และชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด แต่ประการใด

ดังนั้น ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น จึงทำให้เชื่อว่าการที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ไม่แจ้งข้อกล่าวหาและสั่งอายัดเงินในบัญชีของชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด พร้อมหรือในเวลาเดียวกันกับสหกรณ์การเกษตรวิเศษชัยชาญ จำกัด และไม่มีการกล่าวหาองค์การตลาด กระทรวงมหาดไทย ด้วยนั้น อาจจะเกิดจากผู้ค้าอาหารดิบรายใหญ่ของกรมราชทัณฑ์ทั้งหมดตามบัญชีรายชื่อที่แนบมาพร้อมนี้ล้วน เป็นตัวแทนในการจำหน่ายอาหารดิบสำหรับใช้เลี้ยงผู้ต้องขังของชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด และองค์การตลาด กระทรวงมหาดไทย โดยทั้งสิ้น ซึ่งถ้าหากทำการแจ้งข้อกล่าวหาหรือทำการสั่งอายัดเงินกับชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด และองค์การตลาด กระทรวงมหาดไทย จะส่งผลกระทบทำให้ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด องค์การตลาด กระทรวงมหาดไทย และตัวแทนจำหน่ายซึ่งเป็นผู้ค้ารายใหญ่ของกรมราชทัณฑ์ ได้รับความเดือดร้อนและเสียหายเป็นวงกว้างมากยิ่งกว่าสหกรณ์การเกษตรวิเศษชัยชาญ จำกัด

สำนักข่าวอิศรารายงานว่า เมื่อวันที่ 6 ก.พ.2561 ที่ผ่านมา นายสำรวย วงษ์สนอง ประธานกรรมการ สหกรณ์การเกษตรวิเศษชัยชาญ จำกัด ยื่นหนังสือถึง พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ร้องเรียนในเรื่องดังกล่าวด้วย

ก่อนหน้านี้ นายสำรวย ยื่นฟ้อง เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ กรณีสั่งอายัดบัญชีธนาคารของโจทก์โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและการสืบสวนสอบสวนใช้ระยะเวลานานเกินสมควร ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย โดยศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้เลื่อนนัดฟังคำสั่งอีกครั้งในวันที่ 20 ก.พ.2561

090218 111