ศาลอุทธรณ์ ยืนโทษจำคุก 'อดีตนายกฯท่าบ่อ หนองคาย-พร้อมเมีย' คดีเบิกเงินกลุ่มอาชีพสตรี

เขียนวันที่

วันพฤหัสบดี ที่ 04 กรกฎาคม 2562 เวลา 10:30 น.

เขียนโดย

isranews

หมวดหมู่

ข่าว | Isranews | ข่าวทั่วไปศูนย์ข่าวสืบสวน | เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศรา

แพร่คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ยืนโทษจำคุก 3 ปี 4 ด. 'สุรศักดิ์ โสตะวงศ์' อดีตนายกเทศมนตรีเมืองท่าบ่อ หนองคาย โดยไม่รอลงอาญา คดีเบิกจ่ายเงินโครงการขอรับเงินสนับสนุนกลุ่มอาชีพสตรี ปี 47,50 ส่วนเมีย-พวก 2 ราย โดนคนละ 2 ปี 2 ด. แต่ให้โอกาสรอการลงโทษไว้คนละ 2 ปี

picayoyoyoyo6 24

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ยืนโทษจำคุก 3 ปี 4 เดือน นายสุรศักดิ์ โสตะวงศ์ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย โดยไม่รอลงอาญา ส่วนพวก 3 ราย คือ นายณรงค์ วีระศิริ นายธีระยุทธ เงาศรี และนางทีน่า โสตะวงศ์ (ภรรยา นายสุรศักดิ์) คนละ 2 ปี 2 เดือน โดยให้โอกาสรอการ ลงโทษจําคุกไว้คนละ 2 ปี ตามความผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 ในคดีเบิกจ่ายเงินโครงการขอรับเงินสนับสนุนกลุ่มอาชีพสตรีปี 2547 และปี 2550

ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิด เมื่อวันที่ 23 เม.ย. 2558 ว่า นายสุรศักดิ์ โสตะวงศ์ พร้อมด้วย นายณรงค์ วีระศิริ นายธีระยุทธ เงาศรี และนางทีน่า โสตะวงศ์ (ภรรยา นายสุรศักดิ์) มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 , 157 และมาตรา 162 (1), (4) ประกอบมาตรา 86 มาตรา 90

โดยศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 28 ก.พ.2561 ว่าจำเลยทั้ง 4 ราย มีความผิดทางอาญาดังนี้

นายสุรศักดิ์ โสตะวงศ์ ผิดตามม. 151 และ ม.157 ม. 162 (4) ประกอบ ม. 83

นายณรงค์ วีระศิริ และนายธีระยุทธ เงาศรี ผิดตาม ม.157 ม. 162 (4) ประกอบ ม. 83 และ ม. 151 ประกอบ ม. 86

นางทีน่า โสตะวงศ์ (ภรรยา นายสุรศักดิ์) ผิดตาม ม. 151 ม. 157 ม. 162 (4)

ขณะที่การกระทําของจําเลยทั้งสี่เป็นการกระทําต่อเนื่องในคราวเดียวกันมีเจตนาเดียวกัน จึงเป็นการกระทํากรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทให้ลงโทษ นายสุรศักดิ์ โสตะวงศ์ ใน ป.อาญา ม.151 และลงโทษ นายณรงค์ วีระศิริ นายธีระยุทธ เงาศรี และนางทีน่า โสตะวงศ์ (ภรรยา นายสุรศักดิ์) ใน ป.อาญา ม. 151 ประกอบ ม. 86 ซึ่งเป็นบทหนักที่สุดตาม ม. 90

โดยให้จําคุก นายสุรศักดิ์ โสตะวงศ์ มีกําหนด 5 ปี

นายณรงค์ วีระศิริ นายธีระยุทธ เงาศรี และนางทีน่า โสตะวงศ์ (ภรรยา นายสุรศักดิ์) ให้จำคุกคนละ 3 ปี 4 เดือน และปรับคนละ 12,000 บาท

แต่ลดโทษให้จําเลยทั้งสี่หนึ่งในสาม ตามม. 78 คงจําคุก นายสุรศักดิ์ โสตะวงศ์ มีกําหนด 3 ปี 4 เดือน

ส่วนนายณรงค์ วีระศิริ นายธีระยุทธ เงาศรี และนางทีน่า โสตะวงศ์ (ภรรยา นายสุรศักดิ์) ให้ลงโทษจำคุกมีกําหนดคนละ 2 ปี 2 เดือน พร้อมปรับเงินคนละ 8,000 บาท แต่เห็นสมควรให้โอกาสรอการลงโทษจําคุกไว้ คนละ 2 ปี ตาม ม. 56 หากไม่ชําระค่าปรับให้จัดการตาม ม.29, 30

ต่อมาเมื่อวันที่ 7 ส.ค.2561 ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาว่า นายสุรศักดิ์ โสตะวงศ์ ผิดตาม ม. 151 ส่วน นายณรงค์ วีระศิริ นายธีระยุทธ เงาศรี และนางทีน่า โสตะวงศ์ (ภรรยา นายสุรศักดิ์) ผิดตามม.151 ประกอบ ม.86 ให้ยกฟ้องโจทก์ในความผิดตาม ม. 162 นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคําพิพากษาศาลชั้นต้น

ทั้งนี้ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท

เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีการประชุมเมื่อวันที่ 21 มี.ค. 2562 มีมติเห็นชอบตามความเห็นของอัยการสูงสุดที่จะไม่ฎีกาคําพิพากษาของศาลอุทธรณ์

pictareeee7 4 19