ล้วงแผน‘โอฬาร’กุนซือ‘ปู’ผู้คิดจำนำข้าว ทำไปแล้วจะเอาเงินที่ไหนจ่าย?
"...จนศาลต้องให้ฝ่ายอัยการถามซ้ำหลายรอบ กระทั่งนายโอฬาร ยืนยันว่า “คิดอยู่แล้วถึงวิธีการจ่ายเงิน คิดปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ในโครงการแล้วว่า หากดำเนินงานจะกระทบอะไรบ้าง ถ้าไม่ได้คิดจะกำหนดเงินได้อย่างไร” แต่ไม่ได้ตอบว่าจะนำเงินจากส่วนไหนมาจ่าย..."
ยังคงต้องขึ้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอยู่เรื่อย ๆ !
สำหรับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ตกเป็นจำเลยในคดีที่อัยการสูงสุด (อสส.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง คดีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว ที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการไต่สวนพยานฝ่ายจำเลย
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า วันนี้ (7/10/59) มีนายวุฒิพงศ์ วิบูลย์วงศ์ อดีตรองอัยการสูงสุด และนายโอฬาร ไชยประวัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรี สมัยรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย และอดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี (น.ส.ยิ่งลักษณ์) เข้าเบิกความเป็นพยาน
นายวุฒิพงศ์ เบิกความสรุปได้ว่า ในช่วงมีการแต่งตั้งคณะทำงานร่วมพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์คดี ระหว่างผู้แทนฝ่ายอัยการ และผู้แทนฝ่ายสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดย อสส. ขณะนั้น ได้มอบหมายให้นายวุฒิพงศ์รับผิดชอบเป็นผู้แทนฝ่ายอัยการ โดยตนเข้าร่วมประชุมทั้งหมด 2 ครั้ง จากการประชุมทั้งหมด 5 ครั้ง โดยเข้าร่วมประชุมในครั้งที่ 2 เพราะครั้งแรกนั้น ได้ทำหนังสือขอเลื่อนไปยังสำนักงาน ป.ป.ช. แล้ว เนื่องจากติดราชการ เบื้องต้นคาดว่าฝ่ายผู้แทน ป.ป.ช. จะเลื่อนให้ แต่ท้ายสุดกลับไม่เลื่อน จึงทำให้ไม่ได้เข้าประชุม โดยฝ่ายผู้แทน ป.ป.ช. อ้างว่า ตามกฎหมายหากไม่ประชุมนัดแรกภายใน 14 วัน ป.ป.ช. มีสิทธิ์ฟ้องคดีได้เอง อย่างไรก็ดีตามคำพิพากษาศาลฎีกาฯ ก่อนหน้านี้เคยวินิจฉัยแล้วว่า ตามกฎหมายที่ระบุ 14 วัน เป็นแค่การเร่งรัด ไม่ใช่เงื่อนไขที่จะนำไปฟ้องคดีเองได้ ซึ่ง อสส. ขณะนั้น ได้มอบหมายให้นายสุรศักดิ์ ศรีรัตน์ตระกูล อธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน เดินทางไปแทน
ต่อมาในครั้งที่ 2 ตนได้เข้าร่วมประชุม โดยที่ประชุมมีมติให้ตนเป็นประธานในที่ประชุม เบื้องต้นสำนวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ระบุว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ปล่อยปละละเลยโครงการรับจำนำข้าวจึงทำให้เกิดความเสียหาย แต่ฝ่ายผู้แทน ป.ป.ช. ได้สรุปสาระสำคัญมาว่า โครงการรับจำนำข้าวพบการทุจริตในทุกขั้นตอน ฝ่ายผู้แทนอัยการจึงได้ขอให้ฝ่ายผู้แทน ป.ป.ช. สรุปสาระสำคัญเกี่ยวกับการทุจริตในทุกขั้นตอนว่าเป็นอย่างไร
นายวุฒิพงศ์ เบิกความอีกว่า ในการประชุมครั้งที่ 3 ฝ่ายผู้แทน ป.ป.ช. ได้สรุปสาระสำคัญทำเป็นตารางเกี่ยวกับขั้นตอนการทุจริต โดยมีตอนหนึ่งสรุปได้ว่า โครงการรับจำนำข้าวทำขึ้นเพื่อประโยชน์ตกแก่พ่อค้าข้าว และนักธุรกิจค้าข้าว รวมไปถึงยังมี รัฐมนตรีบางรายเลี่ยงการตรวจสอบข้อเท็จจริง ปล่อยให้มีการทุจริต และสมยอมกับการทุจริตดังกล่าวด้วย ซึ่งไม่มีในสำนวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เช่นกัน หลังจากนั้นตนจึงได้ทำหนังสือไปถึง อสส. เพื่อพิจารณาชี้ขาดข้อไม่สมบูรณ์ในคดีนี้ กระทั่งในการประชุมครั้งที่ 4 ตนติดราชการ จึงไม่ได้เดินทางไป แต่ อสส. มอบหมายให้นายสุรศักดิ์ เดินทางไปแทน ตนได้สอบถามความคืบหน้าจากนายสุรศักดิ์ พบว่า ยังไม่สามารถสรุปข้อไม่สมบูรณ์ได้
“ต่อมาช่วงต้นปี 2558 ได้มีสื่อมวลชนโทรหา จึงเพิ่งทราบว่ามีการประชุมครั้งที่ 5 ไปแล้ว และที่ประชุมร่วมฯ ได้ส่งความเห็นให้กับ อสส. เพื่อชี้ขาดไปแล้ว ตอนหลังผมถึงเพิ่งรู้จากเลขานุการคณะทำงานร่วมฯฝ่ายอัยการ ว่ามีการส่งหนังสือด่วนมาให้ผมตอนช่วงเวลาประมาณบ่ายสองโมง ซึ่งผมติดภารกิจราชการอยู่ แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่เห็นหนังสือฉบับนั้น หลังจากนั้นมาก็ไม่รู้เรื่องอะไรอีก จนกระทั่งอีกไม่กี่วันต่อมา อสส. ได้ลงนามสั่งฟ้องคดี แล้วก็มีการแต่งตั้งคณะทำงานฝ่ายอัยการเพื่อสู้คดีในชั้นศาล ผมก็ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องอีก” นายวุฒิพงศ์ กล่าว
@ปัดเอี่ยวสัมพันธ์ ‘ยิ่งลักษณ์-เพื่อไทย’
ทั้งนี้ฝ่ายอัยการได้ซักนายวุฒิพงศ์ ในประเด็นความเชื่อมโยงเกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย นายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในประเด็นเคยดำรงตำแหน่งอธิบดีอัยการภาค 5 จ.เชียงใหม่ เป็นที่ปรึกษาหลายคณะในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ของวุฒิสภา และเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจ 3-4 แห่ง แต่นายวุฒิพงศ์ ปฏิเสธไม่เคยรู้จักนักการเมืองพรรคเพื่อไทยเป็นการส่วนตัว ส่วนกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ รู้จักแค่เพราะเป็นประธานรุ่นที่ 12 ในการเรียนหลักสูตรผู้บริหารระดับสูง สถาบันวิทยาการตลาดทุน (หลักสูตร วตท.) เท่านั้น ส่วนการร่วมเป็น กมธ. ของวุฒิสภา เพราะประธาน กมธ. หลายคณะเชิญมา ส่วนการเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจหลายแห่งนั้น ตนเป็นแค่ 3 แห่งตามกฏหมาย และไม่ใช่แค่แต่งตั้งในยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่ในยุคปัจจุบันก็ยังได้รับการแต่งตั้งอยู่
@อดีตกุนซือยิ่งลักษณ์ เผยตอนคิดโครงการไม่ได้วางแผนเอาเงินไหนจ่ายจำนำข้าว
ฝ่ายอัยการได้ซักนายโอฬารหลายครั้ง ในประเด็นที่นายโอฬารเบิกความว่า ในช่วงเป็นที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยนั้น เคยคิดหรือวางแผนหรือไม่ว่า หากทำโครงการรับจำนำข้าวแล้ว จะนำเงินจากส่วนไหนมาเป็นค่าใช้จ่าย เป็นเงินกู้ หรือเงินจากที่ไหน
นายโอฬาร อธิบายบ่ายเบี่ยงไปนอกประเด็น โดยมักกล่าวเปรียบเทียบถึงความคุ้มค่าของโครงการประกันราคาข้าวของนายอภิสิทธิ์ กับโครงการรับจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จนศาลต้องให้ฝ่ายอัยการถามซ้ำหลายรอบ กระทั่งนายโอฬาร ยืนยันว่า “คิดอยู่แล้วถึงวิธีการจ่ายเงิน คิดปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ในโครงการแล้วว่า หากดำเนินงานจะกระทบอะไรบ้าง ถ้าไม่ได้คิดจะกำหนดเงินได้อย่างไร” แต่ไม่ได้ตอบว่าจะนำเงินจากส่วนไหนมาจ่าย
อัยการซักอีกว่า ทราบหรือไม่ว่า เงินที่นำมาใช้ดังกล่าวเป็นเงินกู้ และปัจจุบันดอกเบี้ยก็ยังเดินอยู่ นายโอฬารตอบสั้น ๆ ว่า “ทราบ”
ฝ่ายอัยการซักอีกว่า ในช่วงเป็นที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย เคยคิดหรือวางแผนหรือไม่ว่า หากเก็บข้าวไว้ในสต็อกของโครงการรับจำนำข้าวแล้ว มีระยะเวลาในการระบายข้าวออกไปอย่างไร และระบายด้วยวิธีไหนบ้าง
นายโอฬาร เบิกความว่า ระยะเวลาในการระบายข้าวตามการประเมินนั้น อยู่ในช่วง 4-6 เดือน โดยระหว่างนั้นจะมีข้าวไหลมาหมุนเวียนกันไปตลอด ทั้งนี้ยืนยันว่า สต็อกข้าวทุกแห่งควรจะต้องมีข้าวอยู่ตลอดแล้วหมุนเวียนต่อเนื่องกัน เพื่อป้องกันหากในอนาคตเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันจนทำให้ทำการเกษตรไม่ได้ และอาจกระทบต่อความมั่นคงทางอาหาร ส่วนเรื่องการระบายข้าวนั้นทำได้หลายวิธี แต่ต้องดูตลาดขณะนั้นด้วยว่า ความต้องการเป็นอย่างไร
ทั้งนี้นายโอฬาร เบิกความยืนยันว่า เป็นที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย จนกระทั่งวันที่ 31 ม.ค. 2555 จึงดำรงตำแหน่งเป็นประธานผู้แทนการค้าไทย ซึ่งหลังจากนั้นแล้วก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวในรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าวอีก ดังนั้นจึงไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเลขการปิดบัญชีข้าว หรือการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี)
อ่านประกอบ :
'บิ๊กซีพี'การันตีจำนำข้าวช่วยชาวนา-ปัดปมสัมพันธ์เครือญาติแกนนำ พท.เอื้อ ปย.
เบื้องลึก!การหาทางช่วย'ยิ่งลักษณ์'จนสุดเหวี่ยง! ลดค่าเสียหายคดีข้าวเหลือร้อยละ 20
โชว์ชัดค่าเสียหายจำนำข้าว 1.7 แสนล. ‘ปู’จ่ายแค่ 20%-วิจารณ์ขรมคำนวณผิด?
ไม่มีข้าวถูกสวมสิทธิ์! ‘วราเทพ’ให้การคดี'ปู'-เลขขาดทุน 5 แสนล.ไม่ถูกต้อง
‘อัยการ’ซัก‘ยิ่งลักษณ์’ตอบ! ท่าที‘นารีขี่ม้าขาว’แจงคดีข้าว-ไฉนสอบไม่เจอทุจริต?
ปัญหาเกิดจากฝ่ายปฏิบัติ! ‘ยิ่งลักษณ์’ แจงศาลคดีข้าว-ลั่นสอบทุจริตแล้วไม่เจอ
สารพัดเรื่องไม่โปร่งใส-ส่อทุจริต! ‘สุภา’เข้าให้ถ้อยคำคดีข้าว‘ยิ่งลักษณ์’
มติ 7-0 เสียง ป.ป.ช.ฟัน“ยิ่งลักษณ์”คดีจำนำข้าว ชงวุฒิถอด-"สถาพร"ถอนตัว
อวสาน"ยิ่งลักษณ์" มติสนช. 190:18 ตัดสิทธิ์การเมือง 5 ปี "นิคม-สมศักดิ์" รอด