ร้องสอบ‘บิ๊กป้อม’รับทรัพย์สินเกิน 3 พันบ. ปมนาฬิกาหรู-9เดือน ป.ป.ช.ยังไม่สรุป

เขียนวันที่

วันพุธ ที่ 12 กันยายน 2561 เวลา 13:25 น.

เขียนโดย

isranews

หมวดหมู่

Tags

‘ศรีสุวรรณ’ ร้อง ป.ป.ช. สอบ ‘บิ๊กป้อม’ หนที่สาม! อ้างคำให้สัมภาษณ์เคยยืมเพื่อนมาใส่แต่คืนแล้ว เข้าข่ายรับทรัพย์สินเกิน 3,000 บ.จากบุคคลอื่น ตาม ม.103-128 พ.ร.บ.ป.ป.ช. ก่อนหน้านี้ยื่นสอบยื่นทรัพย์สินเท็จ-รวยผิดปกติ – ผ่านไป 9 เดือน ป.ป.ช. ยังแสวงข้อเท็จจริง ตามเอกสารจากผู้ผลิตนาฬิกาที่ ตปท. อยู่ยังไม่ตั้งอนุฯไต่สวน

PIC srisuwan 12 9 61 1

เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2561 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวหา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย ป.ป.ช. เพิ่มเติม กรณีให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อมวลชนว่า เคยยืมนาฬิกาเพื่อนมาใส่เป็น 10 ปี และคืนไปหมดแล้วนั้น อาจเข้าข่ายตามมาตรา 103 หรือ 128 แห่ง พ.ร.บ.ป.ป.ช. ตามประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช. เรื่อง หลักเกณฑ์การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยธรรมจรรยาของเจ้าหน้าที่รัฐ พ.ศ.2543

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า กรณีเมื่อวันที่ 10 ก.ย. 2561 ที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเกี่ยวกับการครอบครองนาฬิกาหรูหลายเรือน มูลค่าหลายล้านบาท โดยไม่แจ้งหรือปรากฏอยู่ในบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินที่ต้องรายงานหรือแจ้งต่อ ป.ป.ช. ตามที่กฎหมายบัญญัติ โดย พล.อ.ประวิตร ระบุว่า “นาฬิกาไม่ใช่ของผม เพราะยืมเขามา และก็ใส่มาเป็น 10 ปี จนใส่กี่เรือนต่อกี่เรือน ตอนนี้คืนเขาไปหมดแล้ว” นั้น คำให้สัมภาษณ์ดังกล่าวเป็นการยอมรับความจริงต่อสาธารณะว่า พล.อ.ประวิตร มีและครอบครองนาฬิกาหรูดังกล่าวจริง แม้ในคำให้สัมภาษณ์จะอ้างว่าได้คืนเจ้าของไปแล้วก็หาได้พ้นความผิดไม่ เพราะถือว่าสำเร็จแล้วตามกฎหมาย

นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า กรณีดังกล่าวอาจเข้าข่ายรับประโยชน์จากบุคคลอื่น หรือการรับประโยชน์อื่นใด ที่มีมูลค่าเกินกว่า 3,000 บาท ขัดต่อมาตรา 103 หรือมาตรา 128 แห่ง พ.ร.บ.ป.ป.ช. ประกอบประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช. เรื่อง หลักเกณฑ์การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยธรรมจรรยาของเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ.2543 ดังนั้นแม้ พล.อ.ประวิตร ใช้ข้ออ้างว่า คืนนาฬิกาให้กับเจ้าของไปแล้วก็หาได้พ้นความผิดในมาตราดังกล่าวไปได้ แต่เพื่อปิดทางดิ้นออก และไม่ให้ ป.ป.ช. ใช้เป็นข้ออ้างว่า ไม่มีข้อหาดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยจึงต้องมายื่นคำร้องนี้ไว้ และเป็นการเร่งให้ ป.ป.ช. รีบสรุปสำนวนโดยเร็วต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้นายศรีสุวรรณ เคยยื่นคำร้องกล่าวหา พล.อ.ประวิตร เกี่ยวกับกรณีครอบครองนาฬิกาหรูแล้ว 2 กรณี ได้แก่ กรณีจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. อันเป็นเท็จ และกรณีร่ำรวยผิดปกติ ส่วนความคืบหน้าในกรณีดังกล่าว นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์นี้ช่วงปลายปี 2560 ปัจจุบันสำนักงาน ป.ป.ช. ยังอยู่ระหว่างแสวงข้อเท็จจริงโดยติดต่อไปยังบริษัทผู้ผลิตนาฬิกาหรูที่ต่างประเทศเพื่อนำมาประกอบในสำนวน ยังไม่มีการตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน และยังไม่มีมติชี้ขาดกรณีนี้แต่อย่างใด