โครงสร้างดับไฟใต้ในยุค "คืนความสุข" ปฏิเสธไม่ได้ว่าบทบาทของกองทัพที่ขับเคลื่อนอยู่ในกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) อยู่ในฐานะ "พระเอก"
การเข้าควบคุมอำนาจการปกครองของทหารในนามคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เที่ยวนี้ แตกต่างจากเมื่อครั้งที่คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ คปค.ยึดอำนาจเมื่อปี 49 หลายประเด็น
ในขณะที่ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงใช้ "กลไกเดิม" ในการจัดการปัญหา โดยที่ยังไม่มี "กลไกใหม่" หรือ "กลไกพิเศษ" จากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เหมือนกับอีกหลายๆ ปัญหา
ในขณะที่หน่วยงานด้านความมั่นคงบางหน่วยมองว่า กระบวนการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของภาครัฐยังไม่เป็นเอกภาพ โดยเฉพาะบทบาทของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ที่ค่อนข้างสวนทางและไม่ค่อยเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.)
สถานการณ์ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ปีนี้ต้องยอมรับว่าวิกฤติหนัก เหยื่อความรุนแรงจำนวนมากเป็นผู้บริสุทธิ์ โดยเฉพาะเด็ก เยาวชน และผู้หญิง หากพิจารณาตามกลุ่มอาชีพ "ครู" ตกเป็นเป้าต่อเนื่องอยู่แล้ว และปีนี้ก็ถูกยิงเฉลี่ยเดือนละคน
เหตุจ่อยิงเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหญิงที่ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส เมื่อวันอังคารที่ 29 เม.ย.2557 ไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่ๆ...
สมาพันธ์คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด 15 จังหวัดภาคใต้ ร่วมประชุมและออกแถลงการณ์เรียกร้องให้อัยการยื่นอุทธรณ์คดีอุ้มฆ่า นายโมฮัมเหม็ด อัลรูไวลี่ นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย ที่ศาลอาญาพิพากษายกฟ้องกลุ่มจำเลยซึ่งเป็นอดีตตำรวจ 5 นาย
สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ช่วงนี้กลับมารุนแรงขึ้นอีกครั้ง หลังจากเกิดเหตุระเบิดครั้งใหญ่กลางเมืองยะลา และเหตุฆ่าสังหารแบบสะเทือนขวัญติดๆ กันหลายกรณี เช่น กราดยิงชาวบ้านขณะกำลังตักบาตรที่ อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี หรือฆ่าตัดคอผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหญิงเสียชีวิตพร้อมกับผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยอีกคนหนึ่ง ขณะเดินทางกลับจากประชุมที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา เป็นต้น
ผ่านมาครึ่งเดือนนับตั้งแต่มีการจับกุมมุสลิมต่างด้าวไม่ระบุสัญชาติได้ในป่ายางพารา ต.กำแพงเพชร อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ได้พยายามสร้างความกระจ่างเกี่ยวกับเชื้อชาติและที่มาของมุสลิมกลุ่มนี้ ทว่ายังคงมีบางประเด็นถูกตั้งคำถาม
มูลนิธิยุติธรรมเพื่อสันติภาพ คณะกรรมการนักนิติศาสตร์สากล (ไอซีเจ) และกองทุนรางวัลสมชาย นีละไพจิตร ร่วมกันจัดงาน "10 ปีทนายสมชาย นีละไพจิตร สูญหายโดยถูกบังคับ" มีการนำเสนองานวิจัยเรื่อง "คำสาปของความคลุมเครือ: การบังคับให้สูญหายในฐานะนวัตกรรมความรุนแรงทางการเมือง" ซึ่งอธิบายปรากฏการณ์ "อุ้มฆ่า-อุ้มหาย" ในประเทศไทยอย่างน่าสนใจ