"การถือทิฐิ ความรุนแรง ความสุดโต่ง เป็นตัวทำลายศาสนาและคุณค่าความเป็นมนุษย์" เป็นคำกล่าวของ เชค อุมาร์ อุบัย ฮาซานะห์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยค้นคว้าและอิสลามศึกษา กระทรวงศาสนสมบัติ ประเทศกาตาร์ หนึ่งในองค์ปาฐกของงานสัมนานานาชาติเรื่อง "อิสลามศึกษาในโลกที่เปลี่ยนแปลง : โอกาสและสิ่งท้าทาย" ที่วิทยาลัยอิสลามศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี (ม.อ.ปัตตานี) ระหว่างวันที่ 14 -16 ม.ค.
ก่อนจะผ่านช่วงเวลาแห่งเทศกาลปีใหม่ในแบบฉบับสากล อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บิน ชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ) ผู้ช่วยผู้จัดการโรงเรียนจริยธรรมศึกษามูลนิธิ อ.จะนะ จ.สงขลา เขียนบทความดีๆ และให้ความรู้เกี่ยวกับข้อแตกต่างระหว่าง "ปีใหม่อิสลาม" กับ "ปีใหม่สากล"
"ที่ผ่านมารัฐบาลและ ศอ.บต.อยากให้มีทีวีของประชาชนที่เป็นภาษามลายู ให้พี่น้องประชาชนได้มีช่องทีวีมลายูของเขา เพราะตอนนี้มีทีวีที่เป็นภาษาไทยเยอะมาก จึงอยากให้มีช่องเฉพาะ โดย ศอ.บต.จะเป็นผู้ช่วยในการส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดช่องทีวี และจะมีสถานีวิทยุที่เป็นภาษามลายูด้วย"
ในห้วง 1-2 เดือนที่ผ่านมามีเวทีของภาคประชาชน นิสิตนักศึกษา และภาคการเมืองในจังหวัดชายแดนภาคใต้หลายเวที ประเด็นที่เป็นข้อเสนอแนวทางดับไฟใต้ที่คล้ายคลึงกันก็คือ การขออำนาจในคนในพื้นที่ได้มีสิทธิมีเสียง "กำหนดชะตาชีวิตตนเอง" มากขึ้นกว่าเดิม
ในการประชุมร่วมกันระหว่างแกนนำครูกับหน่วยกำลังในพื้นที่เพื่อปรับมาตรการรักษาความปลอดภัยครู (รปภ.ครู) ตามบัญชาของนายกรัฐมนตรี ที่โรงแรม ซี.เอส.ปัตตานี อ.เมือง จ.ปัตตานี เมื่อบ่ายวันศุกร์ที่ 14 ธ.ค.2555
เอ่ยถึง "เอดส์" หลายคนไม่อยากต่อความยาว หลายคนสะอึกเพราะพบว่าตัวเองติดเชื้อเอชไอวีเข้าไปแล้ว ในอดีตผู้คนมักมองว่าคนที่เป็นโรคนี้น่ารังเกียจ ไม่มีใครอยากข้องเกี่ยวเพราะกลัวจะติดเชื้อไปด้วย ทั้งที่โรคนี้แพร่เชื้อได้ไม่กี่ช่องทาง
"บางครั้งผู้หญิงและผู้ชายมีความกลัว ความหวัง และแผนการที่แตกต่างกัน แต่ส่วนใหญ่ผู้หญิงและผู้ชายมีความฝันเดียวกันคือต้องการสันติภาพ"
วันอาทิตย์ที่ 25 พ.ย.2555 ในขณะที่ผู้คนในสังคมยังคงวิจารณ์กันไม่จบ เกี่ยวกับการประกาศยุติชุมนุมแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยของ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย ประธานองค์การพิทักษ์สยาม ที่ระดมมวลชนออกมาขับไล่รัฐบาลเมื่อ 1 วันก่อนหน้า
มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม เผยแพร่บทความที่ชื่อ "ความสำเร็จภายใต้กฎหมายความมั่นคง?" วิพากษ์มาตรการตามมาตรา 21 แห่ง พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ที่ฝ่ายความมั่นคงกำลังตีปี๊บความสำเร็จจากการเปิดช่องทางให้ผู้ที่อยู่ในขบวนการก่อความไม่สงบได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติสุขในสังคมโดยไม่ต้องถูกดำเนินคดี
"การเปิดโอกาสให้ผู้กระทำผิดกลับเป็นคนดี ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่ความเจ็บปวดที่เขาสร้างขึ้นมามันก็ยังเจ็บอยู่ไม่หาย แม้จะได้รับการชดใช้จากภาครัฐก็ตาม ฉันเห็นว่าคนที่กระทำความผิดจริงๆ ควรจะเข้าสู่กระบวนการไต่สวนตามกฎหมายเพื่อรับโทษตามที่ก่อมากกว่าเข้าสู่มาตรา 21 เพียงแค่ 6 เดือนแล้วกลับมา แล้วใครจะยืนยันว่าคนเหล่านั้นจะไม่กลับไปกระทำผิดอีก บอกตรงๆ ว่ามาตรา 21 ไม่ยุติธรรมสำหรับผู้ถูกกระทำเอาเสีย ...