กว่า 30 ปีที่ชาวบ้านจาก ต.ท่าพญา อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช อพยพจากถิ่นฐานบ้านเกิดมาลงหลักปักฐานทั้งชีวิตและครอบครัว ณ โรงปูเปี้ยว อ.หนองจิก จ.ปัตตานี
หลายคนสงสัยว่าเหตุใดกระบวนการพูดคุยดับไฟใต้ หรือที่รัฐบาลชุดนี้ให้เรียกชื่อว่า "พูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้" นั้น จึงไม่ค่อยปรากฏความคืบหน้าเท่าที่ควร ทั้งๆ ที่รัฐบาลชุดที่แล้ว (พรรคเพื่อไทย) ก็ได้กรุยทางเอาไว้พอสมควร
"พูโลเก่า" โดย "ลุกมัน บินลิมา" ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯประยุทธ์ ยื่นข้อเรียกร้อง 8 ข้อก่อนเปิดโต๊ะพูดคุยสันติสุขรอบใหม่
เมื่อเอ่ยถึงชะตากรรมครูชายแดนใต้ที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับความรุนแรง ณ ดินแดนปลายด้ามขวานตลอด 11 ปีที่ผ่านมาแล้ว คงไม่มีใครลืมเรื่องราวของ ครูจูหลิง ปงกันมูล
วันศุกร์ที่ 9 ม.ค.58 เป็นอีกวันหนึ่งที่ต้องบันทึกไว้ว่ายังคงเกิดการใช้ความรุนแรงกันภายในโรงเรียนปอเนาะที่ จ.ปัตตานี ณ ปีที่ 11 ของไฟใต้รอบใหม่
ความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ก่อผลกระทบลึกซึ้งมากกว่าที่เป็นข่าวหรือสะท้อนออกมาในลักษณะ "เหตุการณ์รายวัน"
เทศกาลปีใหม่เวียนมาอีกคำรบ คนทั่วไปมักขอพรหรืออำนวยพรให้ตนเองและครอบครัว ตลอดจนญาติพี่น้อง มิตรสหาย รวมถึงบุคคลอันเป็นที่รักมีความสุข แต่ที่สามจังหวัดชายแดนใต้ พรปีใหม่ที่บางคนอยากได้อาจไม่ใช่ความสุข แต่ขอแค่ "ไม่ตาย" ก็เป็นพรอันยิ่งใหญ่พอแล้ว
ในขณะที่รอบๆ เมืองปัตตานีเต็มไปด้วยการรายล้อมของ "น้องน้ำ" อยู่ในขณะนี้ บ้านผมซึ่งอยู่ในตัวเมืองก็ได้รับผลกระทบไปด้วยเหมือนกัน