- Home
- South
- ข่าวทั่วไปศูนย์ข่าวภาคใต้
- คนสามจังหวัดวอนการเมืองหยุดป่วนเสียที หลังจบคดียึดทรัพย์"ทักษิณ"
คนสามจังหวัดวอนการเมืองหยุดป่วนเสียที หลังจบคดียึดทรัพย์"ทักษิณ"
อับดุลเลาะ หวังนิ
โต๊ะข่าวภาคใต้ สถาบันอิศรา
หลังสิ้นเสียงอ่านคำพิพากษาในคดียึดทรัพย์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัว ซึ่งศาลสั่งให้เงินจากการขายหุ้นบริษัทชินคอร์ปราว 60% หรือ 47,000 ล้านบาทเศษ จาก 76,000 ล้านบาทตกเป็นของแผ่นดินนั้น มีสุ้มเสียงแสดงความคิดเห็นทั้งจากบรรดานักกฎหมาย นักวิชาการ และนักสังเกตการณ์ทางการเมือง ตลอดจนมวลชนของกลุ่มสีเสื้อต่างๆ อย่างกว้างขวาง แต่พื้นที่สำหรับความเห็นของชาวบ้านแท้ๆ กลับยังมีไม่มากนัก
“ทีมข่าวอิศรา” อาสาสำรวจความคิดเห็นของผู้นำชุมชนและผู้นำศาสนาซึ่งเป็นผู้นำทางความคิดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อค้นหาว่าชาวบ้านจริงๆ คิดกันอย่างไร และมองสถานการณ์การเมืองไทย ตลอดจนสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้นับจากนี้ไปอย่างไร
นายทนง ไหมเหลือง นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา มองว่า บ้านเมืองไทยขณะนี้เป็นไปในทิศทางที่ดีแล้ว ส่วนปัญหาที่มีอยู่บ้างส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องส่วนตัว จึงอยากให้นักการเมืองที่ออกมาเคลื่อนไหวด้วยประเด็นส่วนตัวหรือประโยชน์ส่วนตัว คิดทบทวนให้ดี
"ทุกครั้งที่เปิดโทรทัศน์ก็มีแต่เรื่องการเมือง ทำให้ทุกคนเบื่อ ไม่อยากเปิดโทรทัศน์ดู โดยเฉพาะช่วงที่ผ่านมามีแต่คดียึดทรัพย์ของอดีตนายกฯ ทำให้รู้สึกเบื่อการเมืองไทยมาก”
เมื่อถามถึงผลคดียึดทรัพย์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ศาลพิพากษาให้ยึดเงิน 46,000 ล้านบาทเศษตกเป็นของแผ่นดินนั้น นายทนง บอกว่า เป็นคำพิพากษาที่เหมาะสมและถูกต้องที่สุดแล้ว เพราะที่ผ่านมาสมัยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ได้ออกนโยบายหลายอย่างเอื้อธุรกิจของตนเอง ซึ่งเป็นเรื่องผิดกฎหมายแน่นอน อีกทั้งนโยบายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีส่วนทำให้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ทวีความรุนแรงขึ้นด้วย และยืดเยื้อมาจนถึงทุกวันนี้
“อยากฝากบอกไปถึงกลุ่มคนเสื้อแดงที่กำลังนัดชุมนุมใหญ่ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ว่า ขอให้มองกฎหมายบ้านเมืองเป็นหลัก อย่ามองแต่มวลชนของตนหรือคนเพียงบางคนเท่านั้น เพราะจะทำให้ประเทศเกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง” นาย อบต.ลำพะยา ระบุ
นายนิมุ มะกาเจ ประธานสภาที่ปรึกษาเสริมสร้างสันติสุข จ.ยะลา กล่าวว่า อดีตนายกรัฐมนตรี (พ.ต.ท.ทักษิณ) ต้องยอมรับในกฎเกณฑ์ กติกาของบ้านเมือง เพราะไม่เช่นนั้นจะเป็นการพูดกันคนละที ปัญหาก็จะไม่จบ
“เท่าที่ได้ฟังคำพิพากษาคดียึดทรัพย์ เห็นว่าศาลได้ให้เหตุผลและแจกแจงทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายอย่างละเอียดชัดเจน จึงต้องยอมรับคำพิพากษา” นายนิมุ กล่าว และว่าหากอดีตนายกฯจะขอต่อสู้ต่อไป ก็ควรต่อสู้ในทางกฎหมาย ไม่ใช่ด้วยวิธีอื่น
ขณะที่ นายอดุลย์ เบญยบุตร กำนันตำบลยามู อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี กล่าวว่า คำพิพากษายึดทรัพย์บางส่วน โดยไม่ได้ยึดทั้งหมดนั้น เป็นแนวทางที่ถูกต้องที่สุดแล้ว และส่วนที่ยึดก็ชัดเจนว่ามาจากการที่อดีตนายกฯออกนโยบายเอื้อประโยชน์ให้ธุรกิจของตัวเองจริงๆ จึงถือว่าศาลพิพากษาได้ถูกต้อง
“จริงๆ แล้วตอนที่คุณทักษิณบริหารประเทศก็ก่อปัญหาไว้หลายเรื่อง เช่น ปัญหาภาคใต้ที่บานปลายมาจนถึงปัจจุบัน ฉะนั้นวันนี้ในเมื่อศาลตัดสินแล้วก็ควรยอมรับ และขออย่าดึงประชาชนมาเกี่ยวข้องกับเรื่องส่วนตัวเลย ควรยอมรับกฎหมายของบ้านเมือง”
เมื่อถามว่าหากสถานการณ์ในส่วนกลางมีแนวโน้มรุนแรง จะส่งผลถึงสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยหรือไม่ กำนันอดุลย์ บอกว่า ยังคาดการณ์ไม่ได้ แต่ปัญหาในพื้นที่ทุกวันนี้ ต้องถือว่าภาครัฐได้เข้ามาเพิ่มปัญหาให้กับประชาชน จนบางพื้นที่มีความแตกแยกในหมู่ประชาชนเอง เพราะเมื่อรัฐเข้ามาแทรกแซง ก็จะมีทั้งเรื่องงบประมาณและโครงการต่างๆ ซึ่งรัฐพยายามจะบอกว่าทำเพื่อประชาชน แต่หลายๆ โครงการก็มีคนของรัฐเองได้ประโยชน์
ด้าน นางไซณี หมัดสุหลง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.โคกโพธิ์ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี กล่าวว่า ไม่อยากยุ่งเรื่องการเมือง เพราะการเมืองก็เป็นส่วนของการเมืองไป ไม่ว่ารัฐบาลไหนจะเข้ามา ทั้งรัฐบาลทักษิณและรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ชาวบ้านก็อยู่กันอย่างนี้ ไม่ดีขึ้นหรือแย่ลง
ส่วนคดียึดทรัพย์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น นางไซณี กล่าวว่า ไม่ได้ติดตามรับฟัง เพราะไม่รู้จะฟังไปทำไม สนใจไปก็ทำให้คิดมาก อยู่เฉยๆ ดีกว่า ทำงานหาเลี้ยงครอบครัวไปวันๆ แต่หากจะให้พูดถึงหลักการ คนทำผิดก็ต้องถูกลงโทษตามกฎหมายบ้านเมือง ไม่ยอมรับไม่ได้ ถูกหรือผิดต้องให้กฎหมายตัดสิน ไม่ใช่ตัวเองมาตัดสิน
“ฉะนั้นการที่คนเสื้อแดงจะเคลื่อนไหวเพื่อต่อสู้ให้กับคุณทักษิณ อยากให้คิดสักนิดหนึ่งว่าความถูกต้องคืออะไร ประโยชน์ส่วนรวมคืออะไร และขอให้ใช้สติแยกแยะให้ออกว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นเพื่ออะไร เพื่อประโยชน์ส่วนตัวของใครหรือไม่ ถ้าคิดว่าทำเพื่อบ้านเมืองก็ทำไป แต่ถ้าไม่ใช่ก็หยุดเถอะ” นางไซณี กล่าว
อย่างไรก็ดี ยังมีอีกบางเสียงที่สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ และมองว่าศาลตัดสินไม่เป็นธรรม เพราะสั่งยึดทรัพย์มากถึง 4.6 หมื่นล้านบาท โดย นายพล หนูทอง นายก อบต.บาละ อ.กาบัง จ.ยะลา กล่าวว่า อดีตนายกฯไม่ได้รับความเป็นธรรมแน่นอน ท่านไม่ควรถูกตัดสินเช่นนี้ เพราะตามหลักแล้วทรัพย์สินทั้งหมดเป็นทรัพย์ส่วนตัวของท่าน และที่ผ่านมาอดีตนายกฯก็ทำประโยชน์เพื่อสังคมมาโดยตลอด โครงการพัฒนาก็เยอะแยะ เทียบกับรัฐบาลชุดปัจจุบันยังไม่เห็นผลงานเป็นชิ้นเป็นอันอะไรเลย
ส่วนการแก้ไขปัญหาภาคใต้ซึ่งหลายคนมองว่าช่วงรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ดำเนินนโยบายผิดพลาด ทำให้ปัญหาบานปลายนั้น นายพล เห็นว่า หากถามความรู้สึกของคนพุทธ เชี่อมั่นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ แก้ปัญหามาถูกทางแล้ว ส่วนตัวยังมั่นใจเลยว่าหากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกฯต่ออีกสัก 1 ปี ภาคใต้จะสงบแน่
ทั้งหมดคืออารมณ์ความรู้สึกของคนสามจังหวัด ภายหลังได้ฟังคำพิพากษาครั้งประวัติศาสตร์ยึดทรัพย์อดีตนายกฯ
------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1. ภาพหน้าจอโทรทัศน์ของโมเดิร์นไนน์ทีวี ขณะถ่ายทอดเสียงคำพิพากษาคดียึดทรัพย์
2. ประชาชนและข้าราชการใน จ.ปัตตานี จับกลุ่มลุ้นคำพิพากษา (ภาพโดย จรูญ ทองนวล ช่างภาพมือรางวัลเครือเนชั่น)