- Home
- South
- ข่าวทั่วไปศูนย์ข่าวภาคใต้
- น้ำลดเหตุร้ายผุด ฆ่าเผาอดีต จนท.อนามัยบันนังสตา
น้ำลดเหตุร้ายผุด ฆ่าเผาอดีต จนท.อนามัยบันนังสตา
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้กลับมาร้อนแรงขึ้นอีกครั้งหลังอุทกภัยเริ่มคลี่คลาย โดยมีเหตุรุนแรงในลักษณะ "ฆ่า-เผา" อย่างโหดเหี้ยมในพื้นที่ จ.ยะลา โดยเมื่อเวลา 07.45 น.วันจันทร์ที่ 8 พ.ย.2553 พ.ต.ท.วิชัย แจ้งสกุล รองผู้กำกับการ สภ.บันนังสตา รับแจ้งพบศพชายไทยถูกเผาพร้อมรถจักรยานยนต์ ที่บ้านฉลองชัย หมู่ 4 ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ทั้งนี้ จุดเกิดเหตุอยู่บนถนนในหมู่บ้านซึ่งเป็นป่ารกทึบริมเชิงเขา พบศพ นายปราโมทย์ สีคงทอง อายุ 55 ปี อดีตหัวหน้าสถานีอนามัยบ้านสายตาเอียด ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา สภาพศพบริเวณใบหน้าถูกของมีคมฟันเป็นแผลฉกรรฉ์ และถูกจุดไฟเผาร่างดำเป็นตอตะโก ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นดรีม 100 คุรุสภาสีขาวของทางราชการ หมายเลขทะเบียน น-1905 ยะลา ถูกเพลิงเผาเหลือแต่ซาก มีกลิ่นน้ำมันเบนซินคลุ้ง
สอบสวนทราบว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมามีชาวบ้านที่สัญจรผ่านไปมาพบเพลิงกำลังลุกไหม้ร่างนายปราโมทย์ จึงรีบแจ้งตำรวจเข้าตรวจสอบ สันนิษฐานว่าผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านไปทำธุระ และถูกกลุ่มก่อความไม่สงบดักสังหารโดยใช้ของมีคมฟันที่ใบหน้า และจุดไฟเผาซ้ำทั้งรถทั้งคน
ควบกระบะรัวเอ็ม 16 ดับ ชรบ.ปะแต
เวลา 11.40 น.วันเดียวกัน พ.ต.ท.เจริญ นวนทอง สารวัตรใหญ่ สภ.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงเสียชีวิตที่บ้านเจาะกือเดะ หมู่ 1 ต.ปะแต จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พบศพ นายอาลี อาแว อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63 หมู่ 1 ต.ปะแต ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเอ็ม 16 เข้าที่ศีรษะและลำตัวนอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่บนพื้นหน้าบ้านของตนเอง
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายอาลี อาแว เป็นชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) หมู่ 1 ต.ปะแต ก่อนเกิดเหตุ นายอาลี กำลังจูงวัวออกจากบ้านเพื่อไปปล่อยให้เล็มหญ้าริมถนน ระหว่างนั้นมีคนร้ายคาดว่าเป็นแนวร่วมก่อความไม่สงบใช้รถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสันเป็นพาหนะ โดยคนร้ายที่อยู่ในกระบะท้ายใช้อาวุธปืนสงครามเอ็ม16 ยิงถล่มจนนายอาลีล้มลงและเสียชีวิตคาที่ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความรุนแรงรายวัน
ผบ.ทบ.รุดเยี่ยมบ้านดาโต๊ะ สั่งเร่งซ่อมแซมที่อยู่ให้ผู้ประสบภัย
วันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พร้อมคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่หมู่ 4 บ้านดาโต๊ะ ต.แหลมโพธิ์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี โดยมี นายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ นายอำเภอยะหริ่ง และประชาชนหลายหมู่บ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยและวาตภัยในพื้นที่ ต.แหลมโพธิ์ รอให้การต้อนรับจำนวนนับพันคน
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้มอบถุงยังชีพพระราชทานจำนวน 100 ถุง และถุงยังชีพจากกองทัพบกอีก 150 ถุงแก่ผู้ประสบภัย พร้อมทั้งมอบหมายให้กรมทหารช่าง ร่วมกับเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน (อส.) จ.ปัตตานี ร่วมกันก่อสร้างบ้านใหม่ขนาด 6x8 เมตร ทดแทนบ้านที่เสียหายทั้งหลังจำนวน 62 หลัง และช่วยกันซ่อมแซมบ้านที่เสียหายบางส่วนอีก 517 หลัง ในพื้นที่หมู่ 4 บ้านดาโต๊ะ หมู่ 1 บ้านบุดี หมู่ 2 บ้านตะโล๊ะสะมีแล และ หมู่ 3 บ้านบาตาบุดี ต.แหลมโพธิ์ อ.ยะหริ่ง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายหนักที่สุดของ จ.ปัตตานี เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นให้กับผู้ประสบภัย
"จะแก้ปัญหาให้เร็วที่สุด คนไทยไม่ว่าเชื้อชาติใดศาสนาใดก็ตาม เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นก็ต้องสามัคคีช่วยเหลือกัน ขณะนี้ผมเป็นห่วงเรื่องความสะอาด กลัวว่าจะมีเชื้อโรคหรือเกิดโรคระบาด ฉะนั้นควรกำจัดขยะอย่างมีสุขลักษณะ และทำความสะอาดหมู่บ้านให้เรียบร้อย"
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวอีกว่า กำลังศึกษาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดพิบัติภัยซ้ำรอยอีก เบื้องต้นเห็นว่าควรมีการปลูกป่าโกงกางเพื่อกันลม ส่วนบ้านเรือนประชาชนนั้น ทางกรมทหารช่างกับ อส.จะเร่งสร้างและซ่อมแซมโดยเร็วที่สุด คาดว่าสามารถซ่อมได้วันละ 8 หลัง และสร้างทั้งหลังได้วันละ 3 หลัง แต่ขณะนี้ยังมีปัญหาเรื่องการขนย้ายวัสดุอยู่บ้าง เนื่องจากเส้นทางสัญจรได้รับความเสียหายจากอุทกภัยเช่นกัน การขนของจึงต้องใช้เรือเป็นหลัก นอกจากนั้นจะสร้างห้องน้ำและหาแหล่งน้ำดื่มบริสุทธิ์ให้กับประชาชนอย่างเร่งด่วนด้วย
นายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า ปัตตานีมีพื้นที่ประสบอุทกภัยครอบคลุมเป็นวงกว้างทั้ง 12 อำเภอ จำนวน 100 ตำบล 407 หมู่บ้าน มีผู้ประสบภัย 95,305 คน 23,694 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 21 ราย และพื้นที่ที่เสียหายหนักคือ บ้านแหลมนก บ้านบาราเฮาะ บ้านปะกาฮะรัง อ.เมืองปัตตานี บ้านแหลมโพธิ์ บ้านดาโต๊ะ บ้านตะโล๊ะกาโปร์ อ.ยะหริ่ง และบ้านตันหยงเปาว์ บ้านท่ากำชำ บ้านบางตาวา อ.หนองจิก ซึ่งเป็นพื้นที่ติดชายทะเล มีบ้านเสียหายทั้งหลัง 133 หลัง บ้านเสียหายบางส่วน 4,646 หลัง ถนน 182 สาย โรงเรียน 46 แห่ง วัดและมัสยิด 26 แห่ง สถานที่ราชการ 21 แห่ง และบ่อน้ำ 1,649 บ่อ นอกจากนั้นยังมีโรงเรียนอีก 50 โรงที่ไม่สามารถเปิดการเรียนการสอนได้
ถกหน่วยกำลังนราฯ-เจอระเบิดในสวนผลไม้หวิดบึ้ม
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมคณะ เดินทางต่อไปยังสโมสรร่มเกล้า ค่ายจุฬาภรณ์ อ.เมือง จ.นราธิวาส เพื่อประชุมร่วมกับกองกำลังในพื้นที่ โดย พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้บรรยายสรุปถึงสถานการณ์ความไม่สงบในห้วงเวลาที่ผ่านมา โดยเฉพาะก่อนสิ้นปีงบประมาณ 2553 ซึ่งปรากฏว่าเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ทั้ง 3 จังหวัดเริ่มลดลง โดยในส่วน จ.นราธิวาส ทั้ง 13 อำเภอ มีสถานการณ์รุนแรงเกิดขึ้นบ้างประปราย ซึ่ง ผบ.ทบ.ก็ได้เน้นย้ำให้กองกำลังทุกหน่วยประสานความร่วมมือกันอย่างเข้มแข็ง และยึดมั่นในยุทธศาสตร์พระราชทาน เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา
สำหรับสถานการณ์อุทกภัยของ จ.นราธิวาส ได้รับความเดือดร้อน 66 ตำบล 211 หมู่บ้าน 5 ชุมชน รวม 20,982 คน 4,907 ครัวเรือน โดยเจ้าหน้าที่ได้ออกให้ความช่วยเหลือแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคยังไม่ครอบคลุมนัก ขณะที่สาธารณูปโภคที่ได้รับความเสียหายส่วนใหญ่เป็นถนน นอกจากนั้นก็มีโรงเรียนที่ถูกน้ำท่วมอีกจำนวนหนึ่ง เบื้องต้นทางจังหวัดเตรียมงบประมาณเอาไว้สำหรับฟื้นฟู 50 ล้านบาท
ทั้งนี้ ช่วงที่ ผบ.ทบ.ลงพื้นที่ จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองได้เข้าตรวจสอบสวนผลไม้ 2 แห่ง ในพื้นที่หมู่ 4 บ้านปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ เนื่องจากได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบสิ่งผิดปกติบนเนินดินภายในสวน จึงได้ประสานชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าพิสูจน์ทราบ พบเป็นระเบิดแสวงเครื่องชนิดกับระเบิดแบบเหยียบ น้ำหนัก 3 กิโลกรัม จึงเก็บกู้เอาไว้ได้สำเร็จ
--------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : เหตุการณ์คนร้ายฆ่าเผาอดีตเจ้าหน้าที่อนามัยในท้องที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา (ภาพโดย อะหมัด รามันห์สิริวงศ์)
ขอบคุณ : คุณปาเรซ โลหะสัณห์ เอื้อเฟื้อข่าวจากปัตตานี