- Home
- South
- ข่าวทั่วไปศูนย์ข่าวภาคใต้
- ป่วน"บึ้ม-ยิง" 6 เหตุรับคณะนายกฯล่องใต้ "มาร์ค"ตรวจ"แม่ลาน"ยันเลิก พ.ร.ก.เพิ่มแน่
ป่วน"บึ้ม-ยิง" 6 เหตุรับคณะนายกฯล่องใต้ "มาร์ค"ตรวจ"แม่ลาน"ยันเลิก พ.ร.ก.เพิ่มแน่
ใต้ยังมีป่วนรับคณะนายกฯล่องใต้ แม้จะวางกำลังคุมเข้มเต็มพิกัด ทั้งลอบบึ้มในสวนยางที่ยะลา ไล่ยิงผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบที่ลำใหม่ นราธิวาสระอุควงอาก้ายิงชาวบ้านเจ็บ ถล่มร้านน้ำชาดับหนึ่ง ปัตตานีเกิดเหตุประปรายรอบ อ.แม่ลาน ด้าน "อภิสิทธิ์-ชินวรณ์" ร่วมงานสดุดีครูใต้ ประกาศเร่งเบี้ยเสี่ยงภัยอัตราใหม่ พร้อมเยี่ยมครอบครัว “ครูมาโนช” ที่เพิ่งถูกยิงดับ รุดตรวจ "แม่ลาน" ลั่นเดินหน้ายกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพิ่มแน่
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงตึงเครียดและเกิดเหตุรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้จะเป็นช่วงที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางลงพื้นที่เพื่อร่วมงานสดุดีครูใต้และตรวจเยี่ยม อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี ซึ่งยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ไปก่อนหน้านี้ และมีนโยบายจะยกเลิกบางอำเภอเพิ่มอีกก็ตาม
โดยเมื่อเช้าตรู่ของวันจันทร์ที่ 17 ม.ค.2554 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา ได้นำกำลังพร้อมเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด เข้าตรวจสอบเหตุระเบิดในสวนยางพารา ท้องที่หมู่ 2 ต.ตะโล๊ะหะลอ อ.รามัน
ในที่เกิดเหตุพบหลุมระเบิดขนาดกว้าง 40 เซ็นติเมตร ลึก 30 เซ็นติเมตร บริเวณทางเดินเข้าสวนยาง ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บคือ นายมะดิง กะดาแซ อายุ 46 ปี และ น.ส.อนงค์ ทวีชัย อายุ 47 ปี สองสามีภรรยาซึ่งรับจ้างกรีดยาง มีพลเมืองดีช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลแล้ว และอาการไม่สาหัส เพราะมีบาดแผลจากรถจักรยานยนต์ล้มคว่ำเท่านั้น
สอบสวนทราบว่า คนร้ายได้นำวัตถุระเบิดซึ่งเป็นกับระเบิดแบบเหยียบไปฝังไว้บริเวณทางเข้าสวนยางพาราตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 16 ม.ค. หวังทำร้ายเจ้าของสวนหรือลูกจ้างที่มากรีดยาง ต่อมาช่วงเช้ามืด นายมะดิง และ น.ส.อนงค์ ได้ขี่รถจักรยานยนต์เข้าสวนยางเพื่อทำงาน ปรากฏว่ารถจักรยานยนต์ได้แล่นไปเหยียบกับระเบิดที่ฝังอยู่ ทำให้ระเบิดทำงาน แรงระเบิดทำให้รถจักรยานยนต์ล้มคว่ำ แต่โชคดีที่ทั้งสองคนได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ควงอาก้ายิงชาวบ้านสาหัสที่เจาะไอร้อง
เวลา 08.50 น.วันเดียวกัน พ.ต.ท.ปกป้อง ท่อแก้ว สารวัตรเวร สภ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุมีชาวบ้านถูกยิงได้รับบาดเจ็บบนถนนสายบูกิต-บาตาปาเซ ท้องที่หมู่ 6 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พบเพียงรอยเลือดและปลอกกระสุนปืนอาก้าตกอยู่ 4 ปลอก ส่วนผู้บาดเจ็บคือ นายอดุลมานัส สามะ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 133/1 หมู่ 2 ต.บูกิต นั้น มีพลเมืองดีช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลเจาะไอร้องแล้ว แต่นายอดุลมานัสอาการสาหัส แพทย์ต้องส่งต่อไปรักษายังโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นราธิวาส
สอบสวนทราบว่า ขณะเกิดเหตุ นายอดุลมานัส กำลังขี่รถจักรยานยนต์มุ่งหน้ากลับบ้าน หลังจากพาลูกชายกับลูกสาวไปส่งที่โรงเรียนบ้านบาตาปาเซ แต่ระหว่างทางถูกคนร้ายแต่งกายคล้ายทหารพรานซุ่มอยู่ในป่าละเมาะข้างทาง ใช้อาวุธปืนอาก้ากราดยิงใส่จนได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ เพราะนายอดุลมานัสเคยถูกซุ่มยิงมาแล้วถึง 2 ครั้งแต่รอดชีวิตมาได้
อาวุธสงครามถล่มผู้ช่วย ผญบ.ดับที่ยะลา
เวลาประมาณ 20.00 น. มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนสงครามทั้งเอ็ม 16 และอาก้า ยิง นายรอสาลี มะอิสา อายุ 39 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ บ้านทุ่งคา หมู่ 2 อยู่บ้านเลขที่ 75/4 บ้านทุ่งคา หมู่ 2 ต.ลำใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา เสียชีวิต เหตุเกิดขณะที่นายรอสาลีขี่รถจักรยานยนต์ไปเข้าเวรรักษาความปลอดภัยที่โรงเรียนบ้านทุ่งคา เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุของการลอบสังหาร
บุกยิงชาวบ้านคาร้านน้ำชาที่ระแงะ
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 ม.ค. ก็เกิดเหตุรุนแรงขึ้นหลายเหตุการณ์เช่นกัน โดยเมื่อเวลา 20.30 น. มีคนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ไปจอดที่หน้าร้านน้ำชาไม่มีเลขที่ หมู่ 3 ต.บาโงสะโต อ.ระแงะ จ.นราธิวาส จากนั้นจึงเดินเข้าไปในร้านและใช้อาวุธปืนพกยิงใส่กลุ่มชาวบ้านที่นั่งดื่มน้ำชาคุยกันภายในร้าน ทำให้ นายมะรอซี เจ๊ะแป อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 433 หมู่ 3 ต.บาโงสะโต เสียชีวิตคาที่ และ นายอับดุลรอฮิม อูเซ็ง อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 หมู่ 2 ต.เชิงคีรี อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นเจ้าของร้านน้ำชา ได้รับบาดเจ็บ
เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบที่ต้องการสร้างสถานการณ์ความรุนแรง
ถล่มรถบรรทุกขวดพลาดเป้า-ยิง"พ่อ-ลูก"ที่หนองจิก
เวลา 09.25 น.วันเดียวกัน คนร้าย 2 คนสวมหมวกไหมพรมปิดบังใบหน้า มีรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีแดง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนเป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนอาก้าถล่มยิง นายกุศล รามแก้ว อายุ 67 ปี ชาว อ.มายอ จ.ปัตตานี ขณะขับรถกระบะบรรทุกขวดน้ำอยู่บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 410 บริเวณบ้านต้นมะขาม หมู่ 4 ต.เมาะมาวี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เพื่อนำไปส่งที่ อ.เมือง จ.ยะลา แต่โชคดีที่กระสุนพลาดเป้า ทำให้นายกุศลชักปืนพกสั้นยิงตอบโต้จนคนร้ายเร่งเครื่องรถหลบหนีไป เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ช่วงเวลาใกล้เคียงกัน คนร้าย 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกขนาด .38 จ่อยิง นาย มะดิง หมัด อายุ 41 ปี และ ด.ญ.สุไหวบะ หมัด อายุ 6 ปี ลูกสาวของนายมะดิง ขณะยืนอยู่หน้าขายของชำเลขที่ 130 บ้านแคนา หมู่ 7 ต.บางเขา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นของภรรยานายมะดิง กระสุนถูกนายมะดิงที่ศีรษะและลำคอเสียชีวิตคาที่ ส่วน ด.ญ.สุไหวบะ ได้รับบาดเจ็บที่แขนขวา คาดว่าจะถูกลูกหลง พลเมืองดีช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลหนองจิก เบื้องต้นตำรวจให้น้ำหนักสาเหตุของการสังหารโหดครั้งนี้ว่าน่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว
นายกฯควง"ชินวรณ์"ร่วมงานสดุดีครูใต้
เช้าวันจันทร์ที่ 17 ม.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายชิณวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และ นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางลงพื้นที่ จ.ปัตตานี เพื่อเป็นประธานงานรำลึกคุรุวีรชนชายแดนใต้ ครั้งที่ 3 ที่โรงแรมซี.เอส.ปัตตานี อ.เมือง จ.ปัตตานี โดยมี นายบุญสม ทองศรีพลาย ประธานสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และคณะครูในพื้นที่จำนวนหลายพันคนรอต้อนรับและร่วมงาน
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี นายชินวรณ์ และนายถาวร พร้อมด้วยคณะครู ได้ร่วมกันกล่าวคำสดุดีคุรุวีรชนที่ต้องเสียชีวิตไปจากเหตุการณ์ความรุนแรงถึง 138 คน และยังมีที่ได้รับบาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก ขณะที่ นายบุญสม กล่าวว่า ถึงแม้จะอยู่บนความเสี่ยงในพื้นที่เสี่ยง แต่ยืนยันว่าครูในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้จะไม่ละทิ้งอุดมการณ์ ขอกล่าวต่อหน้านายกรัฐมนตรีว่าจะทำหน้าที่ครูในสามจังหวัดชายภาคใต้ อุทิศกายและใจเพื่อให้การศึกษากับเด็กในพื้นที่ และเพื่อนำสันติสุขกลับคืนมาให้ได้
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้วางดอกกุหลาบสีขาวเพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีของคุรุวีรชน และมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวครูที่เสียชีวิตจำนวน 9 ครอบครัว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวกับคณะครูตอนหนึ่งว่า น่าเสียใจที่สถานการณ์ความไม่สงบได้มุ่งทำร้ายครูซึ่งเป็นบุคคลที่สร้างคน แต่กลับต้องตกเป็นเหยื่อของความรุนแรง ขอแสดงความชื่นชมครูชายแดนใต้ที่ทำงานด้วยความยากลำบากเพื่อสร้างคนและสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้น ขอยืนยันว่ารัฐบาลจะดูแลครูในพื้นที่เป็นอย่างดี พร้อมจะเร่งพิจารณาเรื่องเบี้ยเสี่ยงภัยครูตามที่เคยเสนอมา โดยจะเริ่มทยอยทำให้เร็วที่สุด
รุดเยี่ยมครอบครัวครูมาโนชที่เพิ่งถูกยิง
จากนั้น นายกฯพร้อมคณะได้เดินทางไปยังวัดนพวงศาราม อ.เมือง จ.ปัตตานี เพื่อเคารพศพ ครูมาโนช ชฎารัตน์ อายุ 38 ปีที่เสียชีวิตเพราะถูกคนร้ายลอบยิงเมื่อวันที่ 15 ม.ค.ก่อนวันครูเพียงวันเดียว โอกาสนี้นายกฯได้มอบเงินช่วยเหลือของทางราชการจำนวน 590,000 บาท ให้กับภรรยาและครอบครัวของครูมาโนช
ทั้งนี้ นางชนารัตน์ ชฎารัตน์ ภรรยาของครูมาโนช ซึ่งเป็นครูโรงเรียนอนุบาลปัตตานี ได้ขอให้รัฐบาลช่วยดูแลการโยกย้ายจาก จ.ปัตตานี กลับไปสอนที่ จ.ยะลา และให้ช่วยหางานให้กับน้องชายของครูมาโนชด้วย ซึ่งนายกฯได้มอบหมายให้นายชินวรณ์รับไปดำเนินการ
ตรวจ"แม่ลาน"ลั่นเดินหน้าเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะได้เดินทางไปที่หอประชุมอำเภอแม่ลาน จ.ปัตตานี เพื่อเป็นประธานในพิธีโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของหมู่บ้านเป้าหมาย ตามโครงการพัฒนาเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตประชาชนในหมู่บ้าน หรือ โครงการ พนม. ซึ่งมีหมู่บ้านที่ได้รับโอนเงินตามโครงการประจำปี 2553 จำนวนทั้งสิ้น 2,248 หมู่บ้าน จาก 44 อำเภอใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยแต่ละหมู่บ้านจะได้รับเงินจำนวน 228,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 512,544,000 บาท
นายอภิสิทธิ์ กล่าวกับประชาชนที่มารอต้อนรับตอนหนึ่งว่า ได้ยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่ อ.แม่ลาน เป็นอำเภอแรกเพื่อนำร่องการยกเลิกในพื้นที่อื่นๆ ต่อไป โดยหลังจากนี้จะนำกฎหมายปกติมาใช้ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เรื่องนี้ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในรอบกว่า 5 ปี โดยมีเป้าหมายให้การดำเนินชีวิตของประชาชนสะดวกและคล่องตัวมากขึ้น ขณะที่รัฐบาลพร้อมที่จะคลี่คลายปัญหาต่างๆ ด้วยสันติวิธี หลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง และยึดหลักการเมืองนำการทหาร
--------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีจุดธูปเคารพศพ ครูมาโนช ชฎารัตน์ ที่ถูกยิงเสียชีวิตก่อนวันครูเพียง 1 วัน ศพตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดนพวงศาราม อ.เมืองปัตตานี (ภาพโดย อับดุลเลาะ หวังนิ)