- Home
- South
- ข่าวทั่วไปศูนย์ข่าวภาคใต้
- "อนุศาสตร์"นั่งเก้าอี้ ส.ว.สรรหาอีกสมัย-ประชาคมมุสลิมโวยลั่นไร้เงาคนอิสลาม "ไชยยงค์" คว้าที่ปรึกษา ศอ.บต.
"อนุศาสตร์"นั่งเก้าอี้ ส.ว.สรรหาอีกสมัย-ประชาคมมุสลิมโวยลั่นไร้เงาคนอิสลาม "ไชยยงค์" คว้าที่ปรึกษา ศอ.บต.
ช่วงก่อนวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ประกาศผลการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จำนวน 73 คน ซึ่งเป็น ส.ว.สรรหาชุดที่ 2 หลังจากชุดแรกหมดวาระการดำรงตำแหน่ง (ครึ่งวาระ) เป็นเวลา 3 ปี
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 111 บัญญัติไว้ว่า วุฒิสภาประกอบด้วยสมาชิกจำนวนรวม 150 คน ซึ่งมาจากการเลือกตั้งในแต่ละจังหวัด จังหวัดละหนึ่งคน และมาจากการสรรหาเท่ากับจำนวนรวมข้างต้นหักด้วยจำนวนสมาชิกวุฒิสภาที่มาจากการเลือกตั้ง
แต่เดิม ส.ว.สายสรรหามีทั้งสิ้น 74 คน เนื่องจาก ส.ว.ที่มาจากการเลือกตั้งจังหวัดละ 1 คน มี 76 คนจาก 76 จังหวัด แต่ล่าสุดประเทศไทยเพิ่งเพิ่มจังหวัดขึ้นมาอีก 1 จังหวัด คือ จ.บึงกาฬ ทำให้ต้องลด ส.ว.สายสรรหาลงเหลือ 73 คน
อันที่จริง ส.ว.จะมีวาระการดำรงตำแหน่ง 6 ปี แต่เนื่องจากในบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ มาตรา 297 ระบุว่า "ในวาระเริ่มแรก ให้สมาชิกวุฒิสภาที่มาจากการสรรหามีวาระสามปีนับแต่วันเริ่มต้นสมาชิกภาพ และมิให้นำบทบัญญัติเกี่ยวกับการห้ามดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกินหนึ่งวาระมาใช้บังคับกับบุคคลดังกล่าวในการสรรหาคราวถัดไปหลังจากสิ้นสุดสมาชิกสภาพ" จึงทำให้ต้องมีการสรรหา ส.ว.ใหม่หลังจากครบกำหนด 3 ปี และ ส.ว.สายสรรหาบางคนที่เคยดำรงตำแหน่งไปแล้วก็ได้สมัครเข้ารับการสรรหาอีก
เปิดชื่อ ส.ว.สายสรรหา-"ป๋อง ซี.เอส.ฯ"เข้าวิน
สำหรับผลการสรรหาแยกเป็น ส.ว.จากองค์กรภาควิชาการ 14 คน ได้แก่ 1.รองศาสตราจารย์กอบกุล พันธ์เจริญวรกุล 2.นายคำนูณ สิทธิสมาน 3.นายเจตน์ ศิรธรานนท์ 4.พลอากาศตรีเฉลิมชัย เครืองาม 5.นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ 6.ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ตรึงใจ บูรณสมภพ 7.นายถาวร ลีนุตพงษ์ 8.รองศาสตราจารย์นรีวรรณ จินตกานนท์ 9.นายปรเทพ สุจริตกุล 10.นายพิเชต สุนทรพิพิธ 11.นายมหรรณพ เดชวิทักษ์ 12.รองศาสตราจารย์วิชุดา รัตนเพียร 13.นายวิทวัส บุญญสถิตย์ 14.หม่อมราชวงศ์วุฒิเลิศ เทวกุล
ส.ว.สายสรรหาจากองค์กรภาครัฐจำนวน 14 คน ได้แก่ 1.พลอากาศเอกชาลี จันทร์เรือง2.พลเอกชูชาติ สุขสงวน 3.พลเอกธีรเดช มีเพียร 4.นายประจิตต์ โรจนพฤกษ์ 5.นายประสงค์ ตันมณีรัตนา 6.นายประสงค์ศักดิ์ บุญเดช 7.นายปิยพันธุ์ นิมมานเหมินท์ 8.นายพิสิฐ เกตุผาสุข 9.พลเอกเลิศฤทธิ์ เวชสวรรค์ 10.นายวิชัย ไพรสงบ 11.พลเอกสมเจตน์ บุญถนอม 12.นายสมบูรณ์ งามลักษณ์ 13.นายสมพล พันธุ์มณี 14.นายอนุศาสตร์ สุวรรณมงคล
ส.ว.สายสรรหาจากองค์กรภาคเอกชน มีจำนวน 15 คน ได้แก่ 1.นายธวัช บวรวนิชยกูร 2.นายธีระ สุวรรณกุล 3.นางนิลวรรณ เพชระบูรณิน 4.นายบุญชัย โชควัฒนา 5.นายประวิทย์ จันทราประภาวัฒน์ 6.หม่อมหลวงปรียพรรณ ศรีธวัช 7.นางเพ็ญพักตร์ ศรีทอง 8.นางยุวดี นิ่มสมบุญ 9.นายวัชระ ตันตรานนท์ 10.นายวันชัย สอนศิริ 11.นายวิบูลย์ คูหิรัญ 12.พันตำรวจเอกสนธยา แสงเภา 13.ศาสตราจารย์สม จาตุศรีพิทักษ์ 14.นางสาวสุนันท์ สิงห์สมบุญ 15.นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย
ส.ว.สายสรรหาจากองค์กรภาควิชาชีพ จำนวน 15 คน ได้แก่ 1.นางกีระณา สุมาวงศ์ 2.พลตำรวจเอกจงรัก จุฑานนท์ 3.นายจารุพงศ์ จีนาพันธ์ 4.นายตวง อันทะไชย 5.รองศาสตราจารย์ทัศนา บุญทอง 6.รองศาสตราจารย์พรพันธุ์ บุณยรัตพันธุ์ 7.พลตำรวจเอกวงกต มณีรินทร์ 8.นายวิชาญ ศิริชัยเอกวัฒน์ 9.ศาสตราจารย์วิรัติ พาณิชย์พงษ์ 10.พลอากาศเอกวีรวิท คงศักดิ์ 11.พลเรือเอกศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ 12.นายสมชาย แสวงการ 13.นายสัก กอแสงเรือง 14.พลเรือเอกสุรศักดิ์ ศรีอรุณ 15.นายอนุรักษ์ นิยมเวช
ส.ว.สายสรรหาจากองค์กรภาคอื่น จำนวน 15 คน ได้แก่ 1.พลเอกเกษมศักดิ์ ปลูกสวัสดิ์ 2.นายจักรธรรม ธรรมศักดิ์ 3.นายธานี อ่อนละเอียด 4.นายประสงค์ นุรักษ์ 5นายปัญญา เบ็ญจศิริวรรณ 6.พลตำรวจเอกพิชิต ควรเดชะคุปต์ 7.นางพิไลพรรณ สมบัติศิริ 8.นายมณเฑียร บุญตัน 9.พลตำรวจโทยุทธนา ไทยภักดี 10.พลเอกรัชกฤต กาญจนวัฒน์ 11.นายศรีสุข รุ่งวิสัย 12.พลตำรวจโทสมยศ ดีมาก 13.นายสมัคร เชาวภานันท์ 14.นายสุธรรม พันธุศักดิ์ 15.นายอโณทัย ฤทธิปัญญาวงศ์
ไร้เงามุสลิม-มีตัวแทนจากชายแดนใต้แค่หนึ่งเดียว
สำหรับสถิติผู้ที่ได้รับเสนอชื่อเข้ารับการสรรหาเป็น ส.ว.ในครั้งนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 671 ราย แบ่งเป็นเพศชายจำนวน 586 คน เพศหญิงจำนวน 85 คน คิดเป็นสัดส่วนเพศหญิงร้อยละ 12.6 จากจำนวนผู้ที่เข้ารับการสรรหาทั้งหมด และปรากฏว่าเพศหญิงได้รับการคัดเลือกในการสรรหาจำนวน 13 ราย คิดเป็นร้อยละ 17.8 (จากจำนวน ส.ว.ที่ผ่านการสรรหาทั้งหมด 73 คน)
ผู้ได้รับการสรรหาที่มีอายุมากที่สุดคือ 75 ปี อายุน้อยสุดคือ 46 ปี มีจำนวน 3 คน นอกจากนั้นสัดส่วนที่น่าสนใจของการสรรหา ส.ว.คือสัดส่วนของผู้ด้อยโอกาสทางสังคม ซึ่งมีผู้เข้ารับการเสนอชื่อเพียง 2 คน และได้รับการสรรหา 1 คน
สำหรับวุฒิการศึกษาของผู้ที่ได้รับคัดเลือกเป็น ส.ว. แบ่งเป็นวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี จำนวน 17 คน ปริญญาโท จำนวน 47 คน ปริญญาเอก จำนวน 9 คน มีอดีตข้าราชการตำรวจ 6 คน อดีตข้าราชการทหาร 11 คน อดีตข้าราชการพลเรือน 18 คน และนักกฎหมาย 11 คน
เป็นที่น่าสังเกตว่า ส.ว.ที่ได้รับการสรรหาไม่มีพี่น้องมุสลิมหรือบุคคลที่นับถือศาสนาอิสลามเลย และยังมีบุคคลที่ถือว่ามาจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้แค่คนเดียวคือ นายอนุศาสตร์ สุวรรณมงคล หรือ "ป๋อง" อดีต ส.ว.สายสรรหา ซึ่งรู้จักกันดีในฐานะผู้บริหารโรงแรมซี.เอส.ปัตตานี โรงแรมอันดับหนึ่งของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
การที่ ส.ว.สายสรรหาไม่มีตัวแทนของพี่น้องมุสลิมจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เลย ทำให้ประชาคมมุสลิมในพื้นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางถึงระบบการสรรหาและขั้นตอนการเสนอชื่อบุคคล
เปิด "วิธีการ" คัดสรรสมาชิกสภาสูง
ขั้นตอนการสรรหา ส.ว.บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญมาตรา 113 ระบุว่า ให้มีคณะกรรมการสรรหาสมาชิกวุฒิสภาคณะหนึ่ง ประกอบด้วยประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ผู้พิพากษาในศาลฎีกาซึ่งดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าผู้พิพากษาศาลฎีกาที่ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกามอบหมายจำนวนหนึ่งคน และตุลาการในศาลปกครองสูงสุดที่ที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดมอบหมายจำนวนหนึ่งคนเป็นกรรมการ ทำหน้าที่สรรหาบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับบัญชีรายชื่อจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง แล้วแจ้งผลการสรรหาให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศผลผู้ได้รับการสรรหาเป็นสมาชิกวุฒิสภา
มาตรา 114 บัญญัติว่า ให้คณะกรรมการสรรหาสมาชิกวุฒิสภาดำเนินการสรรหาบุคคลที่มีความเหมาะสมจากผู้ได้รับการเสนอชื่อจากองค์กรต่างๆ ในภาควิชาการ ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาชีพ และภาคอื่นที่เป็นประโยชน์ในการปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่ของวุฒิสภา
ในการสรรหาบุคคลตามวรรคหนึ่ง ให้คำนึงถึงความรู้ ความเชี่ยวชาญ หรือประสบการณ์ที่จะเป็นประโยชน์ในการปฏิบัติงานของวุฒิสภาเป็นสำคัญ และให้คำนึงถึงองค์ประกอบจากบุคคลที่มีความรู้ความสามารถในด้านต่างๆ ที่แตกต่างกัน โอกาสและความเท่าเทียมกันทางเพศ สัดส่วนของบุคคลในแต่ละภาคตามวรรคหนึ่งที่ใกล้เคียงกัน รวมทั้งการให้โอกาสกับผู้ด้อยโอกาสทางสังคมด้วย
"ภาณุ"นั่งเลขาธิการ ศอ.บต.คนแรก
ช่วงก่อนวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ยังมีความคืบหน้าเกี่ยวกับการแต่งตั้งบุคคลเข้าดำรงตำแหน่งต่างๆ ในศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ตามพระราชบัญญัติการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 ฉบับใหม่ด้วย
โดยในตำแหน่งเลขาธิการ ศอ.บต. นายภาณุ อุทัยรัตน์ อดีต ผอ.ศอ.บต.ซึ่งรักษาการอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนผ่านกฎหมายใหม่ ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ศอ.บต.อย่างเป็นทางการ และเป็นเลขาธิการคนแรกนับตั้งแต่มีกฎหมายใหม่
"ไชยยงค์"คว้าเก้าอี้ที่ปรึกษา ศอ.บต.
ขณะเดียวกัน กฎหมายใหม่ยังกำหนดให้มีคณะกรรมการที่ปรึกษา ศอ.บต. (สภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้) ซึ่งประกอบด้วยประเภทผู้แทนสื่อมวลชน ประเภทสถาบันปอเนาะ ประเภทโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ประเภทองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประเภทกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประเภทผู้นำสตรี ประเภทผู้นำพัฒนาสังคมภูมิปัญญาท้องถิ่น ผู้แทนกรรมการอิสลามประจำจังหวัดและอิหม่ามประจำมัสยิด และประเภทผู้แทนผู้สอนและบุคลากรทางการศึกษา รวม 9 ประเภท โดยให้แต่ละประเภทเลือกกันเองในกลุ่มตน รวมจำนวน 44 คน ซึ่งทาง ศอ.บต.ได้จัดการเลือกตั้งไปแล้วเมื่อเร็วๆ นี้
อย่างไรก็ดี การเลือกตั้งที่มีการแข่งขันกันอย่างคึกคักมีเพียงตำแหน่งเดียวคือผู้แทนสื่อมวลชน ระหว่าง นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย และหัวหน้าศูนย์ข่าวเดลินิวส์ภาคใต้ จ.สงขลา กับ นายหมุดตาเหล็บ โหดหีม นายกสมาคมผู้สื่อข่าววิทยุโทรทัศนหนังสือพิมพ์ จ.สงขลา โดยสุดท้าย นายไชยยงค์ ได้รับชัยชนะด้วยคะแนน 159 ต่อ 95 คะแนน
นายภาณุ กล่าวว่า การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย หลังจากนี้จะนำรายชื่อผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งทั้ง 44 คนเสนอต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อออกประกาศแต่งตั้งต่อไป โดยจะนำไปรวมกับผู้ทรงคุณวุฒิอีก 5 คนที่นายกรัฐมนตรีจัดเลือกเอง รวมเป็น 49 คน ทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการที่ปรึกษา ศอ.บต.
ใต้ป่วนบึ้มเสาไฟฟ้าทำมืดหลายหมู่บ้าน
ด้านสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ตลอดวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ยังคงมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นบ้างประปราย โดยเมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 เม.ย.2554 เวลา 08.00 น. พ.ต.ท.กรกช พันธรักษ์ สารวัตรเวร สภ.ลำใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด และกองพิสูจน์หลักฐาน ได้นำกำลังไปตรวจจุดเกิดเหตุระเบิดบริเวณเสาไฟฟ้าที่เป็นสาเหตุให้ไฟฟ้าดับหลายหมู่บ้าน ตั้งแต่เมื่อเวลา 20.30 น.คืนที่วันที่ 16 เม.ย.ท้องที่บ้านตาสา หมู่ 3 ต.พร่อน อ.เมือง จ.ยะลา
ทั้งนี้ ที่เกิดเหตุอยู่บนถนนระหว่างหมู่บ้านบ้านตาสา-จันเรียน ห่างจากโรงเรียนบ้านตาสาราว 200 เมตร พบเสาไฟฟ้าหมายเลข 33 หักโค่น ส่วนหม้อแปลงที่ติดตั้งอยู่บนเสาไม่ได้รับความเสียหาย นอกจากนั้นบนพื้นยังพบเศษกล่องเหล็กที่บรรจุดินระเบิดกระจายเป็นวงกว้าง มีเศษชิ้นวงจรอิเล็กทรอนิคส์และเศษแบตเตอรี่เกลื่อน เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมเอาไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ประกบยิงทหารพรานสาหัส 2-ผู้ช่วย ผญบ.สังเวย
เวลา 08.30 น.วันอาทิตย์ที่ 17 เม.ย.เกิดเหตุคนร้ายจำนวน 4 คนมีรถจักรยานยนต์ 2 คันเป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกประกบยิง ส.ท.ชัยหาญ หาญพยัคฆ์ สังกัดกรมทหารพรานที่ 47 ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะกำลังขี่รถจักรยานยนต์ผ่านสามแยกบ้านเกาะบาตอ หมู้ 5 ต.เมาะมาวี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
วันเสาร์ที่ 16 เม.ย.เวลา 06.15 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิง นายดอเซะ ดาเละ อายุ 46 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 อยู่บ้านเลขที่ 212 บ้านแอร้อง หมู่ 10 ต.ตาเนาะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา เสียชีวิตในคาที่ เหตุเกิดบนถนนสายชนบท บ้านแอร้อง ขณะนายดอเซะกำลังขี่รถจักรยานยนต์ไปกรีดยางพารา เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุของการดักสังหารครั้งนี้
เวลา 15.00 น.วันเดียวกัน คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาด ประกบยิง อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) มูฮัมหมัดยากี อามะ อายุ 26 ปี สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4616 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 ซึ่งอยู่ระหว่างการลาพัก เหตุเกิดขณะ อส.ทพ.มูฮัมหมัดยากี เดินอยู่บริเวณสามแยกบ้านจาเราะสโตร์ หมู่ 5 ต.กะลุวอ อ.เมือง จ.นราธิวาส ทำให้ อส.ทพ.มูฮัมหมัดยากี ได้รับบาดเจ็บสาหัส เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุของการลอบยิง แต่ให้นำหนักไปที่ปัญหาขัดแย้งส่วนตัว
ดักบึ้มทหาร "เจาะไอร้อง-สายบุรี" ยิงป่วนฐานที่รือเสาะ
เวลา 20.50 น.วันที่ 16 เม.ย.คนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดดักสังหารชุดปฏิบัติการลาดตระเวนเส้นทาง หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 31 ขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่บนถนนสายเจาะไอร้อง-บ้านยานิง ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส โดยใช้รถจักรยานยนต์ 4 คัน กำลังพล 8 นาย แรงระเบิดทำให้ พลทหารจักรพงษ์ ทองฤทธิ์ อายุ 21 ปี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
วันศุกร์ที่ 15 เม.ย.เวลา 09.50 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดดักสังหารทหารพรานสังกัดหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44 ขณะเดินทางโดยรถกระบะอยู่บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 42 ท้องที่บ้านเจาะกือแย หมู่ 3 ต.ตะบิ้ง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี หลังกลับจากซื้อเสบียงที่ตัว อ.สายบุรี แรงระเบิดทำให้รถยนต์ได้รับความเสียหาย แต่กำลังพล 4 นายปลอดภัย โดยระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร
เวลา 20.30 น. คนร้ายประมาณ 5-6 คน ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงรบกวนฐานปฏิบัติการหน่วยพัฒนาสันติ 30-6 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 ตั้งฐานปฏิบัติการอยู่ที่ฟาร์มตัวอย่าง บ้านสะแนะ หมู่ 1 ต.เรียง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ยิงปืนโต้ตอบจนคนร้ายล่าถอยไป เบื้องต้นไม่มีรายงานความสูญเสีย
คนร้ายชุดดำรัวกระสุนถล่มชาวบ้านเจ็บ 3 หน้าสหกรณ์โคกเคียน
เวลา 18.45 น.วันศุกร์ที่ 15 เม.ย.คนร้ายจำนวน 6 คน แต่งกายด้วยชุดสีดำ มีรถจักรยานยนต์จำนวน 3 คันเป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืน เอ็ม 16 และปืนพกขนาด 9 มม.ยิงใส่ประชาชนบริเวณหน้าร้านสหกรณ์ตำบลโคกเคียน หมู่ 1 ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย คือ นายคนึง เพ็ชรพันธ์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 บ้านโคกเคียน นางชุม แดงพะเนิน อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30/1 บ้านโคกเคียน และ ด.ช.ณรงค์ศักดิ์ หน่อจันทร์หอม อายุ 15 ปี อยู่บ้านเลขที่ 125 บ้านโคกเคียน
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันลำเลียงผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่งโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นราธิวาส และสันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะเป็นแนวร่วมก่อความไม่สงบ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 นายอนุศาสตร์ สุวรรณมงคล
2 นายภาณุ อุทัยรัตน์
3 บรรยากาศการเลือกตั้งคณะกรรมการสภาที่ปรึกษาสายผู้แทนสื่อมวลชน
4 ไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล
5 สภาพเสาไฟฟ้าที่หักโค่นหลังถูกคนร้ายลอบวางระเบิดเมื่อคืนวันที่ 16 เม.ย. ท้องที่บ้านตาสา หมู่ 3 ต.พร่อน อ.เมือง จ.ยะลา