“ทำไมมีคนถามเรื่องนี้หลายคนแล้ว?” เป็นเสียงเปรยจากปลายสายของ พันเอกบรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. ในฐานะรองโฆษกคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้
เป็นข่าวสับสนมาหลายวัน เรื่องสันติบาลมาเลเซียจับกุมผู้ต้องสงสัยเป็น “ชายเสื้อเหลือง” ที่ลอบวางระเบิดบริเวณศาลท้าวมหาพรหม สี่แยกราชประสงค์ เมื่อวันจันทร์ที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา
ในขณะที่ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องจับชายเสื้อเหลืองที่ประเทศมาเลเซีย ล่าสุดเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงพบแผนประทุษกรรมเหตุลอบวางระเบิดของกลุ่มคนร้าย ซึ่งปรากฏว่าระเบิดที่ราชประสงค์ไม่ใช่ความพยายามที่ทำให้เกิดระเบิดเป็นจุดแรก
ข้อมูลจากหน่วยงานความมั่นคงไทย สรุปจำนวนผู้ต้องหาและผู้เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิด 2 จุดกลางกรุงเทพฯ ว่า มีบุคคลหลักๆ ทั้งสิ้น 22 คน โดยหนึ่งในจำนวนนี้เป็นผู้สั่งการใหญ่ที่สุดเหนือ นายอิซาน ชาวจีนวัย 27 ปีซึ่งเป็นเพียงหัวหน้าทีมปฏิบัติการลอบวางระเบิด
เป็นเรื่องแปลกแต่จริงที่จนถึงขณะนี้ทางการไทยยังไม่สรุปชนิดของวัตถุระเบิดที่คนร้ายใช้ในเหตุการณ์ลอบวางระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรม สี่แยกราชประสงค์ เมื่อวันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม 2558 ว่าเป็นระเบิดชนิดใด นอกจากสรุปกว้างๆ ว่าเป็น "ระเบิดแสวงเครื่อง" หรือ ไออีดี (improvised explosive device) เท่านั้น
เหตุการณ์ลอบวางระเบิดครั้งรุนแรงกลางกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 17 และ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยน้ำมือของกลุ่มคนร้ายชาวต่างชาติ สะท้อนปัญหาประสิทธิภาพของงานด้านตรวจคนเข้าเมือง การบูรณาการฐานข้อมูลความมั่นคง และงานด้านการข่าวอย่างเห็นได้ชัด จนทำให้รัฐบาลมีแนวคิดจัดตั้ง "กระทรวงความมั่นคง" ขึ้นมาอย่างเป็นรูปธรรม
ข่าวที่อ้างคำให้การของ นายเมอไรลี่ ยูซูฟู ผู้ต้องหาครอบครองยุทธภัณฑ์ที่เกี่ยวโยงกับเหตุระเบิดบริเวณสี่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2558 ซึ่งระบุว่าเขาเป็นคนกดระเบิดที่ชายเสื้อเหลืองนำไปวางไว้บริเวณม้านั่งลานท้าวมหาพรหมนั้น ทำให้ข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับ “ระบบการจุดระเบิด” และ “ชนิดของระเบิด” ที่คนร้ายใช้ เปลี่ยนไปเกือบจะสิ้นเชิง
พลันสิ้นเสียงกัมปนาทแห่งระเบิดครั้งรุนแรงที่สี่แยกราชประสงค์ มุมวิเคราะห์ของฝ่ายความมั่นคงก็มุ่งหามูลเหตุที่นำมาสู่การก่อวินาศกรรมร้ายแรงกลางกรุงเทพฯทันที พร้อมๆ ไปกับการเร่งหาเบาะแสเพื่อติดตามตัวกระทำ
การจับกุมชายชาวต่างชาติที่อพาร์ตเมนท์แห่งหนึ่งย่านหนองจอกเมื่อวันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม 2558 ประกอบกับหลักฐานต่างๆ ที่พบ ทั้งอุปกรณ์ที่นำไปใช้ประกอบระเบิดได้ และเล่มพาสปอร์ตของประเทศหนึ่งจำนวนมาก ทำให้คดีลอบวางระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร ชัดเจนขึ้นระดับหนึ่ง
กลุ่ม “มารา ปาตานี” ซึ่งเป็นองค์กรตัวแทนของกลุ่มเคลื่อนไหวปลดปล่อยปัตตานี 6 กลุ่ม ได้เปิดแถลงข่าวที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ประกาศจุดยืนเป็นกลุ่มพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้กับรัฐบาลไทย พร้อมเรียกร้องให้การพูดคุยเป็นวาระแห่งชาติ