"ในวันที่ 13 พ.ค.57 ตรงกับวันวิสาขบูชา...กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงยังคงดำรงความพยายามก่อเหตุต่อเจ้าหน้าที่รัฐและราษฎรอย่างต่อเนื่อง ให้หน่วยเพิ่มมาตรการระวังป้องกันการก่อเหตุ...โดยเฉพาะการซุ่มโจมตีด้วยระเบิดและลอบยิง...ในพื้นที่ อ.เมือง อ.รามัน อ.บันนังสตา จ.ยะลา อ.บาเจาะ อ.รือเสาะ อ.จะแนะ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส...และการลอบวางระเบิดในเขตชุมชนเมือง พื้นที่เทศบาลนครยะลา เทศบาลเมืองนราธิวาส, เทศบาลเมืองสุไห ...
ผ่านไปหนึ่งวัน...ปมเงื่อนและเส้นทางของระเบิดกลางเมืองหาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่ง 1 ใน 2 ลูกเสมือนหนึ่งกระตุกหนวดเสือ เพราะไปเกิดถึงในโรงพัก สภ.หาดใหญ่ ก็เริ่มชัดเจนขึ้นเป็นลำดับ
วันนี้เป็นวันครบรอบ 10 ปีเหตุการณ์กรือเซะ ซึ่งหมายถึงเหตุรุนแรงเมื่อวันที่ 28 เม.ย.2547 ที่มีเยาวชนและชายฉกรรจ์มุสลิมนับร้อยคนกระจายกันบุกโจมตีป้อมจุดตรวจ 11 จุดใน จ.ยะลา ปัตตานี และสงขลา ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งสองฝ่ายรวม 108 คน เกือบทั้งหมดเป็นฝ่ายผู้เข้าโจมตี และนับเป็นเหตุรุนแรงที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในคราวเดียวตลอด 10 ปีไฟใต้
ฝ่ายความมั่นคงไทยตั้งแต่ระดับรัฐมนตรีถึงโฆษกหน่วยงาน ยอมรับว่ามีการจับกุมบุคคลต้องสงสัยเป็นสมาชิกกลุ่ม "ฮิซบุลลอฮ์" กลางกรุงเทพฯจริง แต่กลับให้ข้อมูลสับสนเรื่องจำนวนบุคคลที่ถูกควบคุมตัว สถานที่จับกุม และความเป็นไปได้ในการปฏิบัติการความรุนแรงในประเทศไทย
สื่ออิสราเอล-เลบานอนตีข่าวรวบ 3 สมาชิก "ฮิซบุลลอฮ์" ในไทย อ้างเตรียมก่อเหตุรุนแรงต่อเป้าหมายอิสราเอลและชาติตะวันตก ด้านหน่วยงานความมั่นคงไทยยันจับแค่ 2 เผยล็อคตัวได้กลางกรุงเทพฯ ส่ง สตม.คุมตัวตามกฎหมายคนเข้าเมือง "ภราดร" แจงแค่ผู้ต้องสงสัย ยังไม่ชัดโยงก่อการร้าย บอกอิสราเอลแจ้งเตือนให้ช่วยเฝ้าระวังในเทศกาลเฉลิมฉลองของชาวยิวซึ่งตรงกับช่วงวันหยุดสงกรานต์ของไทย
เหตุระเบิด 4 จุดกลางเมืองยะลาเมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา และอาฟเตอร์ช็อคอีก 3 จุดในช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 7 เม.ย. นับเป็นเหตุรุนแรงสะเทือนขวัญมากที่สุดอีกครั้งหนึ่งในเขตเทศบาลนครยะลาในห้วงกว่า 10 ปีของสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้
พูโล หรือ องค์กรปลดปล่อยสหปัตตานี ได้ทำจดหมายเปิดผนึกส่งถึง "ศูนย์ข่าวอิศรา" และออกเป็นแถลงการณ์โพสต์ในเว็บไซต์ของตนเอง www.puloinfo.net เรียกร้องให้รัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แสดงความชัดเจนกรณีกระบวนการพูดคุยสันติภาพระหว่างรัฐบาลไทยกับกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐ
การเข้ามาของกลุ่มมุสลิมผู้อพยพกว่า 200 คน ทำให้ไทยถูกดีดให้ไปอยู่ตรงกลางของความขัดแย้งระหว่างตุรกีกับมหาอำนาจอย่างจีน ที่กำลังแย่งตัวกลุ่มมุสลิมดังกล่าวให้มาอยู่ในความครอบครอง
องค์การความร่วมมืออิสลาม หรือ โอไอซี (Organization of Islamic Cooperation) เพิ่งเปลี่ยนตัวเลขาธิการเป็น นายอิยาด อามีน มาดานิ (Iyad Ameen Madani) ชาวซาอุดิอาระเบีย เมื่อต้นปีที่ผ่านมา
ระยะหลังฝ่ายความมั่นคงให้น้ำหนักมากขึ้นว่าเหตุรุนแรงจำนวนไม่น้อยในพื้นที่ชายแดนใต้ ไม่ใช่เหตุความมั่นคงที่หมายถึงการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบ หรือกลุ่มขบวนการที่อ้างอุดมการณ์แบ่งแยกดินแดน