รับสารภาพ-คืนเงิน! รอโทษคุก2ปี อดีตนายกอบต.เกษตรสุวรรณ-พวก เบิกจ่ายดูงานศก.พอเพียงเท็จ

เขียนวันที่

วันพฤหัสบดี ที่ 11 กรกฎาคม 2562 เวลา 10:00 น.

เขียนโดย

isranews

หมวดหมู่

ข่าว | Isranews | ข่าวทั่วไปศูนย์ข่าวสืบสวน | เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศรา

Tags

อบต.เกษตรสุวรรณ ชลบุรี | สมเดช วิโรจน์วุฒิกุล | ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2

แพร่คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 สั่งจำคุก 3 ปี ปรับสองหมื่น 'สมเดช วิโรจน์วุฒิกุล' อดีตนายก อบต.เกษตรสุวรรณ ชลบุรี ส่วนพวก 4 ราย โดนคนละ 1ปี ปรับหนึ่งหมื่น จัดทําหลักฐานเบิกเงินโครงการฝึกอบรมทัศนศึกษาดูงานตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นเท็จ จำเลยทั้ง 5 ให้การรับสารภาพ ไม่ได้รับผลปย.ตอบแทนส่วนตัว คืนเงิน 6.4 แสนแล้ว รอโทษจำคุกไว้ 2 ปี

picododododododododdd22

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 สั่งจำคุก และปรับเงิน นายสมเดช วิโรจน์วุฒิกุล อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เกษตรสุวรรณ อําเภอบ่อทอง จังหวัดชลบุรี กับพวก ประกอบไปด้วย นายมานพ อุบลทิพย์ นางสาวภาวนา คงรอด นางณฤทัย เกตุหอม นางสาวลักษณาภรณ์ พาสร้อย ในคดีจัดทําหลักฐานการเบิกจ่ายเงินตามโครงการฝึกอบรมและทัศนศึกษาดูงานตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นเท็จ

ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิด เมื่อวันที่ 13 มี.ค. 2561ว่า นายสมเดช วิโรจน์วุฒิกุล และพวก4 5 ราย มีความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 157 และ มาตรา 162 (1) (4)

โดยศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติ มิชอบภาค 2 มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2561 ว่าจำเลยทั้ง 5 ราย มีความผิดดังนี้

นายสมเดช วิโรจน์วุฒิกุล ผิดตามมาตรา 151 จำคุก 6ปี และปรับ 40,000 บาท

ส่วน นายมานพ อุบลทิพย์ นางสาวภาวนา คงรอด นางณฤทัย เกตุหอม นางสาวลักษณาภรณ์ พาสร้อย ผิดตามมาตรา 157 นอกจากนี้ นางสาวภาวนา คงรอด และ นางสาวลักษณาภรณ์ พาสร้อย ยังมีความผิดตามมาตรา 162 (1) (4) การกระทําของจำเลยทั้ง 2 เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษตามมาตรา 157 ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีโทษหนักที่สุด ตามมาตรา ม. 90 จำคุกคนละ 2 ปี และปรับคนละ 20,000 บาท

เบื้องต้น จำเลยทั้ง 5 ให้การรับสารภาพ ลดโทษให้คนละกึ่งหนึ่ง ตาม ม.78

คงจําคุก นายสมเดช วิโรจน์วุฒิกุล มีกำหนด 3 ปี และปรับ 20,000 บาท

ส่วน นายมานพ อุบลทิพย์ นางสาวภาวนา คงรอด นางณฤทัย เกตุหอม นางสาวลักษณาภรณ์ พาสร้อย จำคุกคนละ 1ปี ปรับคนละ 10,000 บาท

ทั้งนี้ จําเลยทั้ง 5 ไม่ได้รับผลประโยชน์ตอบแทนเป็นการส่วนตัว และ นายสมเดช วิโรจน์วุฒิกุล จำเลยที่ 1 ได้ใช้เงิน 644,500 บาท คืนให้แก่ อบต.เกษตรสุวรรณครบถ้วนแล้ว

โทษจําคุกของจําเลยทั้งห้าให้รอการลงโทษไว้มีกําหนด 2 ปี ตามมาตรา 56 หาก จําเลยทั้งห้าไม่ชําระค่าปรับให้จัดการตาม มาตรา 29, 30

ทั้งนี้ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท

มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีการประชุมเมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2562 มีมติเห็นชอบตามความเห็นของอัยการสูงสุดที่จะไม่อุทธรณ์คําพิพากษาศาลชั้นต้น

picccccccccppp