เบื้องหลัง! สตง.เชือด‘สุขุมพันธุ์-พวก’ คดีไฟ กทม. ลูกน้องซัดนโยบาย‘ผู้ว่าฯ’ (รายชื่อครบ)

เขียนวันที่

วันอังคาร ที่ 03 พฤษภาคม 2559 เวลา 17:50 น.

เขียนโดย

isranews

หมวดหมู่

รายงาน-สกู๊ป | จัดซื้อจัดจ้าง | เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศรา

Tags

ประดับไฟกทม. | ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ุ บริพัตร | สตง.

เบื้องหลัง! สตง. เชือด ‘สุขุมพันธุ์-พวก’ 13 ราย คดีฮั้วประดับไฟ กทม. 39 ล้าน รองผู้ว่าฯให้การยันนโยบายโดยตรง ‘ผู้ว่าฯ’ พบพิรุธเพียบ เอกชน 3 ราย มอบ ‘หญิงสาว’ รายเดียวแจ้งเพิ่มธุรกิจประดับไฟ ผู้ชนะราคาสั่งของมาก่อนการประกวด สำแดงมูลค่ากรมศุลฯแค่ 28 ล้าน

PIC sukhumpanddz 3 5 59 1

ในที่สุดก็ถึงบทสรุปแล้วสำหรับโครงการค่าใช้จ่ายในการประดับตกแต่งไฟฟ้าเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว (Motif of Light) ของสำนักวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ยว กทม. วงเงินประมาณ 39.5 ล้านบาท หลังจากถูกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบมาตั้งแต่ปลายปี 2558

โดยในช่วงเริ่มต้นของโครงการถูกตรวจสอบพบความผิดปกติหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการจัดทำทีโออาร์เพียงวันเดียว การใช้งบประมาณที่ค่อนข้างสูงกว่า 39.5 ล้านบาท เอกชนที่ชนะการประกวดราคาสั่งของเข้ามาจากต่างประเทศ ก่อนที่จะมีการประกวดราคา หรือแม้แต่ให้ ‘หญิงสาว’ รายหนึ่งเป็นผู้ดำเนินการแจ้งเพิ่มวัตถุประสงค์การทำธุรกิจประดับไฟให้กับบริษัทเอกชน 3 แห่ง ที่เข้ามาซื้อซองประกวดราคาด้วย

ล่าสุด คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) มีมติเป็นเอกฉันท์ตามผลสอบที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ส่งสำนวนให้พิจารณาแล้ว เห็นว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กับพวกรวม 13 ราย มีพฤติการณ์เชื่อได้ว่า เป็นการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่เงินและทรัพย์สินของแผ่นดิน และเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 จึงมีมติเห็นชอบที่จะดำเนินการเอาผิดกับผู้กระทำความผิดทั้งหมดแล้ว พร้อมกับส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการไต่สวนต่อ รวมถึงเตรียมเสนอเรื่องให้กับศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณาใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 พักราชการไว้ก่อน

(อ่านประกอบ : สตง.ชง ป.ป.ช.เชือด! 'สุขุมพันธ์ุ-พวก' ฮั้วจ้างประดับไฟลานคนเมือง 39 ล.)

มีพิรุธอะไรบ้างที่ สตง. และสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบก่อนหน้านี้ ?

ที่นี่มีคำตอบ !

หนึ่ง ใช้งบฉุกเฉินดำเนินการแทนงบประมาณปกติ

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้ขอให้สภากรุงเทพมหานครอนุมัติงบประมาณเพื่อจัดทำโครงการดังกล่าว อย่างไรก็ดีสภา กทม. ไม่อนุมัติงบประมาณให้ ทาง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ จึงใช้งบฉุกเฉินมาดำเนินการแทน ซึ่งตรงนี้ สตง. เห็นว่า งบฉุกเฉินเป็นงบประมาณสำหรับเรื่องเร่งด่วน แม้ผู้ว่าฯ กทม. จะมีอำนาจใช้งบก็ตาม แต่โครงการดังกล่าวไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนแต่อย่างใด

สอง กระบวนการจัดทำใบเสนอราคา-ทีโออาร์เสร็จในวันเดียว

นายธวัชชัย จันทร์งาม ผอ.กองการท่องเที่ยว กทม. มีหนังสือถึงบริษัท จิปาถะ ไอเดีย จำกัด บริษัท สยาม เอ็ม อี อี จำกัด และบริษัท คิวริโอ ทัวร์ แอนด์ แทรเวิล จำกัด เพื่อสอบถามราคากลางและรายละเอียดขอบเขตของงาน (ทีโออาร์) โดยที่บริษัท จิปาถะฯ เสนอราคากลางกว่า 43 ล้านบาท บริษัท สยาม เอ็มฯ เสนอราคากลางกว่า 44 ล้านบาท ส่วนบริษัท คิวริโอฯ ไม่เสนอราคา ก่อนที่วันรุ่งขึ้นมีการแต่งตั้งคณะกรรมการทีโออาร์ และนายธวัชชัย อนุมัติในวันเดียวกัน โดยเป็นวงเงิน 40 ล้านบาท

นอกจากนี้ในทีโออาร์ ยังระบุด้วยว่า จัดทำให้มีเอกลักษณ์ความเป็นไทย แต่จากการตรวจสอบพบว่า งานดังกล่าวไม่มีส่วนใดบ่งชี้ได้ถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทยอีกด้วย

สาม เอกชน 3 รายที่ร่วมซื้อซองประกวดราคา มอบอำนาจ ‘หญิงสาว’ คนเดียวไปแจ้งเพิ่มวัตถุประสงค์ธุรกิจ

สำนักข่าวอิศราและ สตง. ตรวจสอบพบว่า บริษัท คิวริโอฯ (ผู้ชนะการประกวดราคา) บริษัท สรรค์สร้าง จำกัด (คู่เทียบ) และบริษัท จิปาถะฯ (ผู้ซื้อซองแต่ไม่ยื่นซองประกวดราคา) มอบอำนาจ น.ส.คณัณญา จรูญภาพิมล เป็นผู้แจ้งต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เพื่อแจ้งวัตถุประสงค์ประกอบธุรกิจจำหน่ายปลีก-ส่งไฟฟ้า ประดับตกแต่งไฟฟ้าให้แสงสว่างทุกชนิด เพิ่มเติม ก่อนเข้าซื้อซองประกวดราคา ดังนั้นทั้ง 3 บริษัท จึงไม่มีประสบการณ์การทำงานมาก่อน

ทั้งที่โครงการดังกล่าวสมควรจ้างเอกชนที่มีประสบการณ์ทำงาน

ขณะเดียวกัน น.ส.คุณัณญา ปรากฏชื่อเป็นกรรมการผู้มีอำนาจบริษัท เคเอ็มเอส ซัพพลายส์ จำกัด ซึ่งใช้ที่อยู่เดียวกับบริษัท จิปาถะฯ และร่วมซื้อซองประกวดราคาร่วมกับบริษัท คิวริโอฯ ในวันเดียวกันคือเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2558 ก่อนที่จะทิ้งซองไป

สี่ บริษัท คิวริโอฯ สั่งของที่จัดทำโครงการดังกล่าวเข้ามาก่อนการประกวดราคา

สตง. พบว่า เมื่อช่วงกลางเดือน ธ.ค. 2558 ก่อนการประกวดราคาดังกล่าว บริษัท คิวริโอฯ ได้นำเข้าสิ่งของที่จะจัดทำโครงการดังกล่าวเข้ามาจำนวน 3 ล็อต โดยสำแดงมูลค่ากับกรมศุลกากร วงเงินประมาณ 28-29 ล้านบาท ซึ่งในช่วงนั้นผู้ว่าฯ กทม. ได้เริ่มให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อมวลชนว่า อยู่ระหว่างเตรียมการโครงการดังกล่าว

ขณะที่โครงการดังกล่าว น.ส.ปราณี สัตยประกอบ ผอ.สำนักวัฒนธรรม ได้อนุมัติโครงการและมอบหมายให้สำนักงบประมาณ กทม. จัดสรรงบประมาณปี 2559 เป็นเงินจำนวน 40 ล้านบาท (บริษัท คิวริโอฯ ชนะการประกวดราคาที่ประมาณ 39.5 ล้านบาท)

ทั้งนี้ สตง. ได้ให้โอกาส ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ เข้ามาชี้แจงแล้ว โดยส่งหนังสือไปถึง 2 ครั้ง แต่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กลับไม่เข้ามาชี้แจงแต่อย่างใด แต่กลับมีการชี้แจงผ่านสื่อว่าการดำเนินโครงการดังกล่าวโปร่งใส

ขณะเดียวกัน สตง. ได้เชิญนายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าฯ กทม. และนายจุมพล สำเภาพล เข้ามาชี้แจงกรณีดังกล่าวแล้ว โดยทั้งสองรายระบุตรงกันว่า เป็นนโยบายของผู้ว่าฯ กทม. จึงต้องดำเนินโครงการดังกล่าว

ด้วยข้อสงสัยหลายประการ และเหตุผลทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมา จึงทำให้ คตง. มีมติเป็นเอกฉันท์เห็นว่า พฤติการณ์ของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กับพวกรวม 13 ราย เป็นการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่เงินและทรัพย์สินของแผ่นดิน และเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 จึงมีมติให้ดำเนินการเอาผิดกับบุคคลดังกล่าว ทั้งการดำเนินคดีทางวินัย ทางอาญา

โดยในส่วนทางวินัยนั้น ได้ส่งให้กับ รมว.มหาดไทย เป็นผู้ดำเนินการ ส่วนทางอาญา ได้ส่งให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวนต่อไป

สำหรับรายชื่อผู้ถูก คตง. ชี้มูลความผิด มีดังนี้

1.ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.

2.น.ส.ปราณี สัตยประกอบ ผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว

3.นายธวัชชัย จันทร์งาม ผู้อำนวยการกองการท่องเที่ยว

4.คณะกรรมการกำหนดทีโออาร์ 5 ราย ประกอบด้วย

4.1 นายสิโรตม์ แสงเจริญ นักพัฒนาการท่องเที่ยวชำนาญการ ประธานกรรมการ

4.2 น.ส.วันทนา เตชะสุวรรณา นักพัฒนาท่องเที่ยวชำนาญการ กรรมการ

4.3 นายมรกต ภูมิพานิช นักพัฒนาท่องเที่ยวปฏิบัติการ กรรมการ

4.4 นายสิทธิโชค อภิบาล นักพัฒนาท่องเที่ยวปฏิบัติการ กรรมการ

4.5 นายพงษ์พันธ์ ธัญญเจริญ นักพัฒนาท่องเที่ยวปฏิบัติการ กรรมการ

5.บริษัท จิปาถะฯ โดยนายคฑารัฐ สันธิสิริ กรรมการผู้จัดการ