เหตุการณ์สังหารหมู่พี่น้องชาวไทยพุทธในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เกิดขึ้นติดๆ กันถึง 2 เหตุการณ์ในห้วงเวลาเพียงไม่กี่วัน คือเหตุฆ่ายกครัว 4 ศพทิ้งขึ้นอืดที่ อ.เมือง จ.ยะลา กับเหตุกราดยิงที่ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมกันมากถึง 9 ศพนั้น มีเบื้องลึกหลายประการที่น่าพิจารณา
"เกษตรอินทรีย์ วิถีพอเพียง ร้อยเรียงสังคม อุดมปัญญา นำพาสันติสุข" คือวิสัยทัศน์ของ "แม่ลาน" อำเภอเล็กๆ ใน จ.ปัตตานี ที่ประชาชนดำรงวิถีชีวิตอย่างปกติสุข กระทั่งได้รับเลือกให้เป็นอำเภอนำร่องยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นอำเภอแรกในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.2553
เหตุการณ์ความไม่สงบที่เพิ่มดีกรีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ปลายปีที่แล้วผ่านเดือนแรกของปีนี้ ได้รับการอธิบายจากผู้นำรัฐบาล รัฐมนตรี และนักวิชาการหลายคนจากนอกพื้นที่ว่า สาเหตุสำคัญน่าจะมาจากความพยายามของกลุ่มขบวนการที่ต้องการยกระดับปัญหาขึ้นสู่เวทีสากล เนื่องจากจะมีการประชุมสุดยอดผู้นำองค์การการประชุมอิสลาม หรือโอไอซี ในเดือน มี.ค.ที่จะถึงนี้
หลายเสียงในรัฐบาลชี้แจงว่าสถานการณ์ไฟใต้ที่ร้อนระอุในช่วงนี้ มีสาเหตุสำคัญมาจากความพยายามก่อเหตุรุนแรงเพื่อยกระดับปัญหาสู่เวทีโลก เนื่องจากใกล้ถึงการประชุมองค์การการประชุมอิสลาม หรือโอไอซี ซึ่งจะมีขึ้นในเดือน มี.ค. ข้อมูลนี้จริงหรือไม่ก็ไม่ทราบ แต่ในเมื่อเป็นข้อมูลจากทางฝั่งรัฐบาล เราๆ ท่านๆ ในฐานะประชาชนตาดำๆ ก็ต้องรับฟังเอาไว้ก่อน
เหตุการณ์คนร้ายหลายสิบคนเปิดปฏิบัติการอุกอาจโจมตีฐานปฏิบัติการพระองค์ดำ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 15121 (ร้อย ร.15121) หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 38 ตั้งอยู่ริมถนนสายมะรือโบตก-รือเสาะ ท้องที่บ้านมะรือโบตก หมู่ 1 ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เมื่อค่ำวันพุธที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้ทหารเสียชีวิต 4 นาย บาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง และอาวุธปืนจากคลังแสงในฐานสูญหายไปอีกหลายสิบกระบอกนั้น
เหตุระเบิดต้อนรับปี 2554 ที่ ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 1 ม.ค. ซึ่งทำให้ ด.ต.กิตติ มิ่งสุข เจ้าหน้าที่เก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด หรืออีโอดี สังกัดกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 447 ต้องเสียชีวิตคาชุดป้องกันอันตรายจากแรงระเบิด หรือ “บอมบ์สูท” กระทั่งมีการเปิดโปงในเวลาต่อมาว่า "บอมบ์สูท" ที่เจ้าหน้าที่ใช้นั้น เป็นชุดที่หมดอายุการใช้งานแล้ว สะท้อนถึงปัญหาการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ของกองทัพแล ...
เหตุการณ์สังหารครูมาโนช ชฎารัตน์ ครูโรงเรียนเดชะปัตตนยานุกูล กลางเมืองปัตตานี เมื่อวันเสาร์ที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา แม้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่มีครูถูกฆ่าในดินแดนแห่งนี้ เพราะนี่เป็นรายที่ 138 แล้ว แต่การลอบยิงครูมาโนชในจังหวะเวลาเช่นที่เกิดขึ้น มีข้อสังเกตที่น่าติดตามหลายประการ
เหตุระเบิดรับศักราชใหม่ที่ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 1 ม.ค.2554 ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิด หรือ อีโอดี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สุไหงปาดี ต้องสังเวยชีวิตจากปัญหาความไม่พร้อมของอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็น “บอมบ์สูท” หรือ “หุ่นยนต์กู้ระเบิด” ทำให้หน่วยงานความมั่นคงที่รับผิดชอบถูกวิจารณ์จมหู
กลายเป็นข่าวร้ายสวนทางข่าวดีช่วงปีใหม่ สำหรับสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีเหตุรุนแรงรายวัน ทั้งไล่ยิง ไล่ฆ่า ไปจนกระทั่งลอบวางระเบิด เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินไปไม่น้อย
พลันที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหน่วยงานด้านความมั่นคงขานชื่อ "อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี" เป็นพื้นที่นำร่องยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำให้สปอตไลท์ทุกดวงฉายจับไปที่อำเภอเล็กๆ แห่งนี้