เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ "การเจรจา" หรือเรียกให้ถูกก็คือ "การพูดคุยสันติภาพ" หรือ peace talk หรือ peace dialogue กับกลุ่มแกนนำขบวนการที่อ้างอุดมการณ์แบ่งแยกดินแดนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ถูกลากให้กลายเป็นประเด็นทางการเมือง

กระบวนการยุติธรรมที่ล่าช้า คือหนึ่งในความอยุติธรรม, คนมลายูมีอยู่ในทุกพรรค แต่พรรคคนมลายูมีเพียงหนึ่งเดียว หรือ พรรคอื่นเป็นเพียงของประดับ แต่พรรคเราคือสายเลือด...เหล่านี้คือข้อความหาเสียงอันเร้าใจของพรรคการเมืองน้องใหม่ที่เสนอตัวเป็นทางเลือกในพื้นที่ปลายสุดด้ามขวาน “พรรคประชาธรรม”

"พูโลเก่า" โดย "ลุกมัน บินลิมา" ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯประยุทธ์ ยื่นข้อเรียกร้อง 8 ข้อก่อนเปิดโต๊ะพูดคุยสันติสุขรอบใหม่

In the past 3-4 months, there has been a surge of activities from civic groups in the three southernmost provinces against the extension of the emergency decree. Of late, a network of civic groups was established to oppose the extension of the emergency decree by inviting members of the public to write protest letters or send protest postcards to the United Nations High Commissioner for Human Rig ...

กลายเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันกว้างขวางพอสมควรเกี่ยวกับนโยบายดับไฟใต้ของรัฐบาลชุดใหม่ ภายหลังพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง กวาดที่นั่ง ส.ส.เกินครึ่งสภา แต่กลับไม่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เลยแม้แต่เก้าอี้เดียว