เผยแพร่มติ ป.ป.ช.เอกฉันท์ชี้มูลความผิดอาญา-วินัย อดีตผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาค สาขาสงขลา รับมอบทรัพย์สินตู้เย็น-โทรทัศน์ จากผู้ประกอบการ แถมให้จ่ายเงินค่าอาหารด้วย ล่าสุด ส่งเรื่องอัยการฟ้องร้องดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายแล้ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดสงขลา ได้เผยแพร่ผลความคืบหน้าคดีกล่าวหา นาย ธ. (ไม่เปิดเผยชื่อ-นามสกุล) เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาค สาขาสงขลา ได้รับมอบทรัพย์สินจากผู้ประกอบการ ซึ่งถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา และวินัย พร้อมส่งเรื่องให้พนักงานอัยการฟ้องร้องดำเนินคดีดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายแล้ว
คดีนี้ สำนักงาน ป.ป.ช. สงขลา ระบุพฤติการณ์ในการกระทำความผิดว่า ขณะดำรงตำแหน่งผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาค สาขาสงขลา นาย ธ. ผู้ถูกกล่าวหาได้รับมอบทรัพย์สินจากผู้ประกอบการติดตั้งระบบประปา ได้แก่ ตู้เย็นโทรทัศน์ และได้ให้ผู้ประกอบการติดตั้งระบบประปาจ่ายเงินค่าอาหารให้แก่ผู้กล่าวหา
มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในกาประชุมครั้งที่ 52/2566 เมื่อวันที่ 10 พ.ค.2566 พิจารณาแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ด้วยคะแนนเสียง 6 เสียง เห็นว่า การกระทำของนาย ธ. ผู้ถูกกล่าวหามีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ รับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากบุคคลนอกเหนือจากทรัพย์สินหรือประโยชน์อันควรได้ตามกฎหมาย หรือกฎข้อบังคับที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายเว้นแต่การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยธรรมจรรยาตามหลักเกณฑ์และจำนวนที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กำหนดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 103 ประกอบมาตรา 122 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 และมีมูลความผิดทางวินัยฐานทุจริตต่อหน้าที่ตามข้อบังคับการประปาส่วนภูมิภาคว่าด้วยการกำหนดตำแหน่งอัตราเงินเดือน การบรรจุ การแต่งตั้ง การเลื่อนขั้นเงินเดือนการถอดถอน ระเบียบ วินัย การลงโทษและการอุทธรณ์การลงโทษของพนักงาน พ.ศ.2522 ข้อ 37 (3)
ให้ส่งรายงานสำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีกับนาย ธ. และให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐานและคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อดำเนินการทางวินัยกับ นาย ธ.ตามฐานความผิดดังกล่าวตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 91 (1) (2) และมาตรา 98แล้วแต่กรณีต่อไป
เบื้องต้น สำนักงาน ป.ป.ช. ได้ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 9 เพื่อฟ้องคดีแล้วเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.2566
อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่สิ้นสุด ผู้ถูกกล่าวหายังมีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลได้อีก