ชื่อที่โด่งดังติดปากผู้คน พร้อมๆ กับมหาอุทกภัยหาดใหญ่ ก็คือ “เขต 8”
สถานการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่เริ่มคลี่คลาย ทำให้บรรดา “คนหาย” ที่เคยถูกชาวบ้านประกาศตามหา เริ่มปรากฏตัว
การที่รัฐบาล อนุทิน ชาญวีรกูล ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ สู้มหาอุทกภัย เหมือนกับที่เคยใช้สู้ “โรคระบาดโควิด” มีคำถามว่า “ถูกฝาถูกตัว” หรือ “ผิดฝาไม่ถูกตัว” กันแน่ และมีความเหมาะสมแค่ไหน
แม้การที่ “คนการเมือง” แห่ลงพื้นที่หาดใหญ่ หลังจากประสบอุทกภัยฉับพลัน เทศบาลยกธงแดง ทำให้ถูกมองว่าเป็นการพยายามหาเสียง หาคะแนนทางการเมือง ท่ามกลางข่าวนายกฯอนุทิน ชาญวีรกูล เตรียมยุบสภา และใกล้เลือกตั้งเต็มที
ใกล้จะครบกำหนด 4 เดือนตามเงื่อนไขใน MOA ที่รัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล ทำความตกลงเอาไว้กับพรรคประชาชน เพื่อขอเสียงสนับสนุนในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี
เหตุการณ์ทหารไทยเหยียบ “ทุ่นระเบิด” ที่ทหารกัมพูชาลอบวางดักเอาไว้ ล่าสุดเมื่อ 10 พ.ย.68 ส่งผลให้ทหารขาขาดเป็นรายที่ 7 แล้ว
จังหวะก้าวทางการเมืองว่าด้วยการลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะนราธิวาส และปัตตานี ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ระหว่างวันที่ 7-8 พ.ย.68 นับว่าน่าสนใจและสร้างนัย “การเมืองเดือด” เป็นอย่างยิ่ง
รัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล ซึ่งเป็น “รัฐบาลเสียงข้างน้อย” และประกาศต่อสาธารณะว่าจะทำหน้าที่แค่ 4 เดือนแต่กลับสร้างเซอร์ไพรส์ให้คนที่ติดดตามปัญหาชายแดนใต้...
กรณีกลุ่มคนร้ายกว่า 10 คนพร้อมอาวุธปืนสงครามครบมือ บุกปล้นร้านทอง “เยาวราชกรุงเทพ” ภายในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส อย่างอุกอาจ เมื่อวันที่ 5 ต.ค.68 โดยสามารถกวาดเอาทองรูปพรรณไปได้กว่า 600 บาท แล้วหลบหนีข้ามแดนทางช่องทางธรรมชาติไปได้อย่างลอยนวล
สมช.เปิดวงถ่ายทอดประสบการณ์ “อดีตหัวหน้าคณะพูดคุยดับไฟใต้” ตั้งแต่ยุคปิดลับ ถึงยุคเปิดเผยบนโต๊ะ ถอดบทเรียนจากอดีตสู่ปัจจุบัน เตรียมลุยแสวงหาทางออกรอบใหม่ภายใต้การนำของ “บิ๊กอั๋น – ป้ายแดง” ด้าน “ดร.ซาช่า” อุ่นเครื่องล่วงหน้าก่อนเวที ชี้ปมปัญหา ทำไมเจรจาไม่ไปไหน