ข้อมูลล่าสุดที่ “ทีมข่าวอิศรา” ได้มาจากเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดี กรณีรวบตัว 2 หนุ่มจากชายแดนใต้ ขับรถซุกอุปกรณ์ประกอบระเบิดแสวงเครื่อง เตรียมเข้าไปก่อเหตุในพื้นที่ภูเก็ตนั้น
การพบโดรนต้องสงสัย 2 ลำ บรรจุในกล่องขนาดใหญ่ พร้อมอุปกรณ์ดัดแปลงติดตั้งให้กลายเป็น “โดรนทิ้งระเบิด” ซึ่งถูกฝังดินไว้บริเวณใกล้ชายแดนไทย-มาเลเซีย พื้นที่บ้านไร่ออก หมู่ 2 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา เมื่อค่ำของวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา
แม่ทัพภาคที่ 4 ตรวจ “โดรนต้องสงสัย” ที่ถูกพบฝังดินใกล้ด่านสะเดา สงขลา ให้น้ำหนักดัดแปลงติดตั้งอุปกรณ์ทิ้งลูกระเบิด เตรียมทิ้งบอมบ์ย่านเศรษฐกิจชายแดนใต้ แต่ยังไม่ตัดทิ้งเป้าหมายขนสินค้าเถื่อนหนีภาษีข้ามแดน เร่งเก็บลายนิ้วมือแฝงตรวจหาความเชื่อมโยงกลุ่มก่อความไม่สงบ
ในขณะที่ทิศทางข่าวสารและความสนใจของสังคมไทยพุ่งเป้าไปที่ข้อพิพาทเรื่องเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ถึงขั้นประเมินกันว่าอาจเกิดสงครามระหว่าง 2 ประเทศ
เหตุโจมตีโรงพักจะแนะ จ.นราธิวาส ต้องนับว่ารุนแรงจริงๆ เพราะแม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ภายในวันเดียวกันทันที หลังเกิดเหตุ 28 พ.ค.
การลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ 2 วันเสาร์-อาทิตย์ของ รองนายกฯภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งนั่งควบ รมว.กลาโหมด้วย ทำให้พอมองเห็นทิศทางของยุทธศาสตร์ดับไฟใต้สไตล์เพื่อไทย
หลังจาก “ทีมข่าวอิศรา” ได้เสนอรายงานพิเศษเกี่ยวกับ “เม็ดเงิน” ที่ขบวนการ BRN นำมาใช้ในกิจกรรมก่อความไม่สงบ โดยมีจุดมุ่งหมายปลดปล่อยดินแดนที่พวกเขาเรียกว่า “ปาตานี” แยกตัวจากรัฐไทย
เหตุรุนแรงที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ช่วงนี้ แม้กลุ่มผู้ก่อเหตุจะเปลี่ยนเป้าหมายจาก “กลุ่มอ่อนแอ - เปราะบาง” ทั้งเด็ก คนแก่ ผู้หญิง และคนพิการ มาเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ถืออาวุธก็ตาม
ข่าวคราวความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่แผ่วลงเลย
ช่วงเวลาที่ “ระดับนโยบาย” ยังไม่มีความชัดเจนในแง่ “ยุทธศาสตร์” ว่าจะดับไฟใต้กันอย่างไรให้สงบเสียที หลังจากยืดเยื้อมานานถึง 21 ปี แทบไม่มีอะไรดีขึ้น